ดีเอสไอได้ชื่อวิศวกรออกแบบตึก สตง.แล้วอายุ 85 ปี -ยังไม่เจอตัว3ผู้ถือหุ้นไทยบ.ไชน่าฯ

พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม คุมเอง! ดีเอสไอ สอบปากคำ ‘สมเกียรติ ชูแสงสุข' ผู้ถูกปลอมลายเซ็นแอบอ้างชื่อคุมงานตึก สตง. นาน 5 ปี เผยเป็นจิ๊กซอว์ตัวสำคัญเชื่อมโยงข้อมูลอื่นได้เพียบ รู้ชื่อวิศวกรผู้ออกแบบแล้ว อายุ 85 ปี เตรียมรวบรวมพยานหลักฐานโดยเร็ว ส่วนปมนอมินี ยังไม่เจอตัว 3 กรรมการผู้ถือหุ้นชาวไทย บ.ไชน่า เรลเวย์ฯ 10 รอเส้นทางเงินชำระค่าหุ้น

สำนักข่าวอิศรา . รายงานว่า เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2568 ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ห้องประชุมกองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ (กองคดีฮั้วประมูล) ศูนย์ราชการอาคารเอ ถนนแจ้งวัฒนะ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 32/2568 คดีนอมินี บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด หนึ่งในกิจการร่วมค้า ไอทีดี – ซีอาร์อีซี (ประกอบไปด้วย บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด) ผู้รับจ้างก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้เชิญ นายสมเกียรติ ชูแสงสุข ประธานคลินิกช่าง วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ที่ถูกแอบอ้างชื่อและปลอมลายเซ็นเป็นผู้ควบคุมงาน กิจการร่วมค้า PKW (ประกอบด้วย บริษัท พี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จำกัด บริษัท ว. และสหายคอลซัลแตนตส์ จำกัด และบริษัท เคพี คอนชัลแทนส์ จำกัด) ที่เป็นคู่สัญญาผู้ควบคุมงานก่อสร้างอาคารสำนัก สตง. เข้าให้ข้อมูลในฐานะพยาน โดยมี พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดีดีเอสไอ และ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีคุ้มครองผู้บริโภค ร่วมสอบถามข้อมูล ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

พันตำรวจเอกทวี เปิดเผยว่า “ปกติเวลางานของราชการจะสร้างอะไร ราชการจะต้องเป็นผู้ออกแบบ โดยจะส่งไปที่กรมโยธาธิการและผังเมือง หรือกรมศิลปากร เป็นผู้ออกแบบ แต่ในกรณีของ สตง. ทั้งสองหน่วยราชการไม่ได้เป็นผู้ออกแบบ แต่ก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่ผิดปกติ เนื่องจากได้มีการถามผู้ปฏิบัติงานของกรมโยธาธิการและผังเมืองแล้วว่า เหตุใดกรมโยธาธิการฯ จึงไม่ออกแบบให้ ซึ่งอยู่ในงบ 2,000 กว่าล้านบาท กรมโยธาฯ ได้แจ้งว่า ที่ขอมาขอให้มีการเร่งออกแบบภายใน 180 วัน เมื่อออกแบบไม่ทัน ก็เป็นสิทธิ์ที่หน่วยงานที่จะสร้าง สามารถไปจ้างผู้ออกแบบ ซึ่งผู้ออกแบบก็ต้องเป็นวิศวกร”

“ขณะนี้จึงพบว่ารายชื่อผู้ออกแบบที่เซ็นชื่อ มีอายุ 85 ปี ซึ่งพนักงานสอบสวนจะต้องไปรวบรวมพยานหลักฐานโดยเร็ว และที่สำคัญเรื่องนี้คือเรื่องวิชาชีพในระบบราชการ ซึ่งเรามีสภาวิศวกร ที่มีเงินงบประมาณไปอุดหนุน ก็ขอให้พนักงานสอบสวนได้พึ่งผู้เชี่ยวชาญที่นี่ รวมถึงผู้เชี่ยวชาญของศาลด้วย สิ่งที่อยากจะให้ช่วยคลี่คลาย อย่างน้อยแม้จะผิดกฎหมายอาญาหลายกฎหมายก็ตาม แต่ต้องมีคำตอบว่าเหตุใดตึกจึงถล่ม และทรุดลงมาทั้งหมด” พันตำรวจเอกทวีระบุ

พันตำรวจเอกทวี กล่าวอีกว่า สำหรับข้อกล่าวหาที่นายสมเกียรติได้แจ้งดำเนินคดีนั้น คือ ข้อหาปลอมแปลงเอกสาร โดยมีการปลอมลายเซ็น สำหรับในวันพรุ่งนี้ (16 เม.ย.) เนื่องด้วยคดีดังกล่าวดีเอสไอรับผิดชอบดำเนินการอยู่แล้ว เจ้าหน้าที่ต้องมีการเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ ดังนั้น ตนอาจเดินทางไปให้กำลังในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ เพราะต้องเอาประเด็นมาใช้ในการวินิจฉัยในคดี แต่ต้องนำเรื่องเข้าสู่ชั้นศาลข้อมูลที่เกิดเหตุจึงมีความสำคัญ

ส่วนร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า สำหรับข้อมูลจากนายสมเกียรติ จะถูกใช้เป็นส่วนหนึ่งในคดีที่ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษไปก่อนหน้านี้ คือ คดีนอมินี (คดีพิเศษที่ 32/2568) ซึ่งสามารถเชื่อมโยงไปได้ทั้งหมด ทั้งการทำงานของบริษัทสัญชาติใดบ้าง ค่อนข้างจะเป็นประโยชน์ในภาพรวม

“ดีเอสไอจะต้องเชิญผู้แทนของกิจการร่วมค้า PKW มาสอบถามด้วยหรือไม่นั้น ยืนยันว่า อยู่ในขั้นตอนทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบ ตั้งแต่การออกแบบจนสุดทาง ว่าเกี่ยวข้องส่วนใด เราจะทำเป็นองค์ภาพรวม ว่ารายละเอียดมันเกิดขึ้นเพราะอะไร จะได้มีการค้นหาความจริงแล้วจะได้กำหนดขั้นตอนต่อไปได้ ส่วนนายสมเกียรติ จะเป็นหนึ่งในจิ๊กซอว์ที่จะช่วยเชื่อมเรื่องราวรายละเอียดทั้งหมด”

ร.ต.อ.สุรวุฒิ กล่าวอีกว่า หากดูจากพฤติการณ์ที่นายสมเกียรติ ถูกแอบอ้างชื่อและถูกปลอมลายเซ็น จะพิจารณาฐานความผิดใดได้บ้าง แล้วดีเอสไอหรือทางพนักงานสอบสวนตำรวจที่จะเป็นผู้รับผิดชอบหลักในเรื่องนี้นั้น เบื้องต้นเป็นการทำงานบูรณาการร่วมกันกับทางตำรวจ ซึ่งในที่เกิดเหตุเรื่องชันสูตรทั้งหมดจะเป็นหน้าที่ของทางตำรวจ ส่วนเรื่องตึก สตง.ถล่ม แล้วเกิดคดีอาญา ยังไม่มี แต่ดีเอสไอจะทำในเรื่องของภาพรวม เพราะเป็นเรื่องสำคัญและเป็นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ กระทบต่อศีลธรรมอันดีค่อนข้างกว้าง ดีเอสไอจึงต้องทำภาพรวมทั้งหมด ซึ่งจะเป็นจิ๊กซอว์ไปขยายผลดูได้ว่าจะเจอฐานความผิดใดบ้าง อาทิ หากเป็นการปลอมแปลงเอกสาร แล้วการปลอมเอกสารดังกล่าวเป็นสาเหตุของการทำเรื่องหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบหรือการควบคุมงาน ตรงนี้ต้องขอเวลาให้พนักงานสอบสวนได้พิสูจน์ข้อเท็จจริงต่อไป ซึ่งจะทำควบคู่กับคดีนอมินี ตำรวจและดีเอสไอ ทำอะไรก็ส่งแลกเปลี่ยนข้อมูลแลกเปลี่ยนระหว่างกันต่อเนื่อง

สำหรับการตรวจสอบย้อนหลังว่ากิจการร่วมค้า PKW ได้มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับการนำชื่อผู้คุมงาน ปลอมแปลงรายชื่อ ปลอมแปลงลายเซ็นกับโครงการอื่นอีกหรือไม่นั้น ร.ต.อ.สุรวุฒิ กล่าวว่า “ยังไม่มีเช่นนั้น ตอนนี้เราดูข้อเท็จจริงเป็นเรื่อง ๆ ไป ซึ่งพอเรื่องนี้มันปรากฏข้อเท็จจริง เราก็ต้องไปสืบสวน หากท้ายสุดปรากฏข้อเท็จจริงเพิ่มเติม เราก็แจ้งให้ทราบ ซึ่งมันต้องขยายอยู่แล้ว แต่ในตอนนี้ยังไม่พบข้อมูลลักษณะดังกล่าว”

“ส่วนความคืบหน้าการติดตาม 3 กรรมการผู้ถือหุ้นชาวไทย บ.ไชน่า เรลเวย์ฯ ขณะนี้นี้ดีเอสไอยังคงอยู่ระหว่างติดตาม ยังไม่เจอตัว แต่ก็ได้มีการสอบปากคำพยานแวดล้อม ซึ่งเป็นญาติของพวกเขา ได้รายละเอียดเบื้องต้นมาพอสมควรแล้ว ซึ่งถ้าหากเส้นทางการเงินที่ดีเอสไอได้ประสานขอไปยังสถาบันการเงินมีความชัดเจนว่ามีรายละเอียดเกี่ยวกับการชำระค่าหุ้น ถ้าตรงนี้มันครบถ้วนก็คงไม่จำเป็นต้องรอ ซึ่งเส้นทางการเงินที่ขอไปกับทางธนาคาร ดีเอสไอขอย้อนไทม์ไลน์ไปตั้งแต่ช่วงมีการก่อตั้งบริษัท เพราะมันจะมีความชัดเจนว่าพวกเขาถือหุ้นแทนใคร”

พ.ต.ต.วรณัน กล่าวว่า สำหรับกรณีคดีฝุ่นแดง ซึ่งทางสำนักงานผลิตภัณฑ์มาตรฐานอุตสาหกรรม (สมอ.) ได้มีหนังสือสอบถามมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้ร่วมสืบสวนนั้น ตอนนี้กระบวนการอยู่ระหว่างเสนออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เนื่องจากหนังสือเพิ่งเข้ามาถึงหน่วยธุรการทางคดีเมื่อวันที่ 12 เม.ย. ส่วนประเด็นเรื่องเหล็กไม่ได้คุณภาพ ทาง สมอ. ได้เข้าเก็บหลักฐานร่วมกับดีเอสไอ ตอนนี้อยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ หากพบว่ามีมูลความผิดว่าเป็นเหล็กตกมาตรฐาน แล้วเป็นเหล็กที่ใช้ในการก่อสร้างของที่ใด ก็จะมากล่าวโทษดำเนินคดีเพิ่มเติม ส่วนจะต้องแยกเป็นเลขคดีพิเศษคนละสำนวนกับคดีนอมินีหรือสามารถรวมเป็นเลขคดีเดียวกันได้นั้น คงต้องดูรายละเอียดก่อน ซึ่งจะต้องดูองค์ประกอบความผิดกับผู้กระทำความผิด ถ้าอยู่ในกลุ่มเดียวกันแล้วพฤติกรรมไปด้วยกัน ก็สามารถรวมเป็นเลขคดีเดียวกันได้

ด้าน นายสมเกียรติ ชูแสงสุข กล่าวว่า  ยังคงยืนยันว่าในวันนี้มาเน้นย้ำว่าไม่ได้เป็นผู้ควบคุมงานและตนยังถูกปลอมลายเซ็น ส่วนเรื่องอื่นไม่ขอพูดว่าใครเป็นมาอะไรอย่างไร มายืนยันเพียงให้ว่าตนถูกนำชื่อไปแอบอ้าง เพราะตอนนี้ก็ตกเป็นจำเลยสังคม เพราะบางเพจก็มาแซะด้วย อยากให้เข้าใจว่าแท้จริงแล้วตนคือผู้เสียหาย ไม่สมควรที่จะต้องโดนพูดให้เสียหายขนาดนี้ และก็ไม่ได้บอกว่าจะฟ้องร้องใคร แต่อยากให้เข้าใจว่าคือผู้เสียหายจริง ๆ ที่ถูกโดนแอบอ้างชื่อ ส่วนหลักฐานที่ได้มอบให้ สน.วังทองหลาง วานนี้ (14 เม.ย.) นั้น หลักฐานก็มีเพียงเท่านั้น เพราะเป็นการนั่งคุยกัน นอกจากนี้ ทาง สน.บางซื่อ ได้มีการสอบในฐานะพยาน ส่วน สน. วังทองหลาง ได้เข้าแจ้งความแล้ว และขอแก้ข่าวด้วยว่าตั้งแต่วันแรก ได้มีการแจ้งความแล้วก็คือวันที่ 13 เม.ย. จึงต้องขอแก้ข่าวเพราะทำให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.วังทองหลาง ถูกผู้บังคับบัญชาต่อว่า ฝาก สน.วังทองหลางด้วยว่า ได้แก้ข่าวให้เรียบร้อยแล้ว ขอโทษมา ณ ที่นี้ ส่วนข้อกล่าวหาปลอมแปลงเอกสาร และมีผู้ปลอมลายเซ็นนั้น ยังไม่รู้ว่าใครไปปลอม ยังคงอยู่ระหว่างการสืบ

เมื่อถามว่าวันนี้ที่เข้าพบกับดีเอสไอ ได้มีการให้ข้อมูลที่มาและความสัมพันธ์รู้จักกับกิจการร่วมค้า PKW หรือไม่ นายสมเกียรติ กล่าวว่า วันนี้มาเพื่อบอกว่าไม่ได้มีความข้องเกี่ยวกับโครงการนี้ แต่เจ้าหน้าที่จะได้มีการสืบสวนสอบสวนเรื่องนี้อยู่แล้ว ไม่ขอลงรายละเอียดว่าใคร อย่างไร ขอแค่เน้นย้ำว่าโดนปลอมแปลงลายเซ็นและถูกแอบอ้างชื่อ นอกจากนี้ ยังมีผู้รู้กฎหมายที่ได้มาแนะนำในเพจของตน ชื่อ “ช่าง ซ่อม สร้าง” ว่าให้พูดน้อย ๆ หน่อย แต่ไม่ใช่เชิงข่มขู่ติเตียนแต่เป็นการแนะนำ ส่วนกรณีการถูกแอบอ้างชื่อนั้น จะฟ้องแพ่งหรือไม่ จะขอปรึกษากันก่อนว่าจะดำเนินยังไง เพราะทุกอย่างมันมีค่าใช้จ่าย จะทำอะไร จะขอทำด้วยความรอบคอบ

เมื่อถามว่ารู้จักกับนายปฏิวัติ ซึ่งเป็นผู้ลงนามหรือไม่นั้น นายสมเกียรติ กล่าวว่า ยืนยันปฏิเสธว่าไม่รู้จัก และเมื่อถามต่อว่าในโครงสร้างองค์กรกิจการร่วมค้า PKW รู้จักใครบ้างหรือไม่หรือไม่รู้จักใครเลยนั้น ส่วนเรื่องพวกนี้ขอไม่ตอบ

เมื่อถามว่าเมื่อปี 2563 มีคนที่มาจากกิจการร่วมค้า PKW มาพูดคุยกับนายสมเกียรติ บุคคลดังกล่าวคือใคร นายสมเกียรติ กล่าวว่า ขอไม่ตอบอีกเช่นเดียวกัน แต่เพียงแค่ว่ารู้จักกันเท่านั้นเอง และรู้จักกันมานานแล้ว แต่ขอยืนยันว่าเอกสารที่ปรากฏ เป็นของปลอม และไม่ได้ทำอาชีพควบคุมงานมากกว่า 20 ปีแล้ว ส่วนกรณีที่ถูกปลอมลายเซ็น จะมั่นใจได้อย่างไรว่าจะไม่ได้มีโครงการก่อสร้างอื่นที่ถูกปลอมลายเซ็นอีกนั้น ส่วนนี้คงตอบไม่ได้ เพราะยังไม่รู้เลยว่าใครเอาอะไรไปที่ไหนบ้าง แล้วยิ่งตอนนี้ ลายเซ็นของตนปรากฏเต็มสื่อไปหมดแล้ว เลขประกอบวิชาชีพก็มีปรากฏ ดังนั้น ขอฝากนักข่าวว่า เผื่อโครงการหน้ามีอะไร ขอให้มาสอบถามก่อนว่า ได้เซ็นจริงหรือไม่ จะได้รู้ว่าถูกปลอมอีกแล้ว

เมื่อถามว่ากรณีเช่นนี้จะเป็นความหละหลวมหรือไม่ เนื่องจากมีการนำชื่อไปใช้แอบอ้าง จนได้รับความเสียหายนั้น นายสมเกียรติ กล่าวว่า “ขอขอบคุณไปยังสภาวิศวกร เนื่องจากสภาวิศวกรมีขั้นตอนการรับรอง โดยจะต้องมีการขอใบรับรองการเป็นวิศวกร อีกทั้งที่สำคัญที่สุด คือ การเข้าไปที่สภาวิศวกร คุณจะเข้าไปทำหน้าที่อะไร เช่น จะเข้าไปออกแบบ จะคำนวณ ฯลฯ ซึ่งในขั้นตอนของสภาวิศวกรนี้จะมีการระบุไว้อยู่แล้ว ซึ่งเอกสารนี้ยังมีเรื่องของใบประกอบวิชาชีพที่ใครจะไม่สามารถนำไปสำเนาคัดถ่ายไปใช้ในโครงการอื่นได้ เพราะมันจะต้องมีใบรับรองของสภาวิศวกรปรากฏอยู่ด้วย”

เมื่อถามว่า ปกติแล้วเอกสารการลงนามรับรองที่ถูกแอบอ้างดังกล่าว จะต้องเป็นการเซ็นต่อหน้าหรือสามารถเซ็นทางอิเล็กทรอนิกส์ได้นั้น นายสมเกียรติ ระบุว่า “เรื่องนี้ไม่ทราบ แต่ถามว่าในช่วงที่มีสถานการณ์โควิด-19 มันก็มีความเป็นไปได้ที่ระเบียบจะมีการยืดหยุ่นออกไป ซึ่งในเรื่องนี้ไม่รู้ ว่ามีการเอาชื่อไปเป็นผู้ควบคุมงาน ทั้งที่ไม่ได้ทำมากกว่า 20 ปี ทั้งนี้ สามารถสอบถามไปยังสภาวิศวกรได้ด้วยว่าเคยขออนุญาตเป็นผู้ควบคุมงานก่อสร้างดังกล่าวหรือไม่ อย่างไรก็ตาม มีการสันนิษฐานไว้หรือไม่ว่าลายเซ็นดังกล่าวปรากฏโดยใครเป็นผู้ดำเนินการนั้น ไม่ได้ถามใคร เพราะกำลังสืบอยู่ว่าใครเอาไปทำ ส่วนระหว่างนี้มีใครจากฝั่งที่นำชื่อไปใช้แอบอ้างได้ติดต่อประสานมาหรือไม่นั้น ขอไม่ตอบ”

นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า “ขอฝากไปยังเจ้าของงานทุกท่าน นอกจากดูใบประกอบวิชาชีพแล้ว ขอดูใบรับรองวิศวกรด้วย เนื่องจากเป็นเอกสารรับรองจากสภาวิศวกร ซึ่งมันไม่ได้ราคาแพงและไม่ได้ยุ่งยากสำหรับวิศวกร มันราคาเพียง 20 บาทเท่านั้นและสามารถดาวน์โหลดและปริ้นต์ใช้ได้เลย”

เมื่อถามถึงกรณีมีการไปแก้ไขการออกแบบปล่องลิฟท์หรือปล่องบันได มันสามารถส่งผลต่อการรับน้ำหนักของตัวอาคารได้หรือไม่นั้น หากมองตามหลักวิศวกร นายสมเกียรติ กล่าวว่า “ไม่ขอพูดถึงตัวโครงการนี้ แต่ขอพูดตามหลักการทั่วไปว่า อาคารเหล่านี้เราเรียกว่าคอนกรีตเสริมเหล็ก หรือคอนกรีตอัดแรง หากเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ก็คือคอนกรีตกับเหล็กผสมกัน ถ้าคอนกรีตรับแรงน้อยลงเหล็กก็ต้องรับแรงเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจจะต้องเพิ่มเหล็กเข้าไป หรือถ้าบอกว่าเหล็กมันราคาแพง อาจจะเพิ่มเป็นคอนกรีตก็ได้ ถามว่าทุกอย่างสามารถทำให้ถูกต้องได้ แต่ให้วิศวกรเป็นผู้ออกแบบและผู้คำนวน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ เจ้าของแบบที่เป็นผู้ออกแบบสำหรับอาคารนั้น”

ส่วนการขอแก้ไขแบบที่ถูกแอบอ้างชื่อนั้น หากวิศวกรได้เซ็นแล้ว ใครจะเป็นผู้อนุมัติต่อไปอย่างไรบ้าง นายสมเกียรติ กล่าวว่า ” ไม่ขอพูดถึงโครงการนี้ แต่ขอพูดถึงโครงการอื่นทั่วไป ถ้าเรามีผู้รับเหมา มีที่ปรึกษา (consult) และมีเจ้าของแบบ เจ้าของงาน หากต้องการเปลี่ยนอะไรสักอย่าง หากเป็นผู้รับเหมาจะต้องส่งให้ที่ปรึกษา (consult) หากที่ปรึกษาเห็นชอบด้วย ที่ปรึกษาก็จะต้องเรื่องต่อไป เช่น หากเกี่ยวกับเรื่องโครงสร้างก็จะต้องปรึกษาไปยังวิศวกรผู้ออกแบบ แต่ถ้าเป็นเรื่องความสวยงามเกี่ยวกับงานสถาปัตย์ก็จะต้องส่งไปยังสถาปนิกที่เป็นเจ้าของแบบ และถ้าเผื่อว่าเจ้าของแบบหรือผู้ออกแบบอนุมัติแล้วเรื่องถึงได้ย้อนกลับมาที่เดิม แล้วถ้าตรงนั้นมันมีงานลดงานเพิ่ม มันก็จะต้องทำให้เรียบร้อย เพื่อที่จะได้นำเสนอให้กับเจ้าของโครงการต่อไป ซึ่งมันเป็นขั้นตอนมาตรฐานอยู่แล้ว อยู่ดี ๆ อยากจะเปลี่ยนอะไรแล้วทำตามใจฉัน แล้วเอาไปใช้เลย มันทำไม่ได้ โดยเฉพาะงานราชการ คุณทำแบบนี้ไม่ได้”