
เรารู้อะไรบ้างเกี่ยวกับเหตุสหรัฐฯ โจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน

ที่มาของภาพ : Reuters
Article Recordsdata
-
- Creator, นาดีน ยูซุฟ
- Role, บีบีซีนิวส์
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา กล่าวว่ากองทัพสหรัฐฯ ได้โจมตีฐานนิวเคลียร์ 3 แห่งของอิหร่านเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นการยกระดับสงครามระหว่างอิหร่านและอิสราเอลที่กำลังดำเนินอยู่อย่างมีนัยสำคัญ
“เราประสบความสำเร็จอย่างมากในการโจมตีโรงนิวเคลียร์ 3 แห่งในอิหร่าน ได้แก่ ฟอร์โดว์, นาตันซ์ และอิสฟาฮาน ตอนนี้เครื่องบินทุกลำอยู่นอกน่านฟ้าอิหร่าน” เขาเขียนลงบนทรูธ โซเชียล (Truth Social)
ทรัมป์กล่าวเสริมด้วยว่ามีการทิ้ง “sะเบิดเต็มพิกัด” ใส่ฐานนิวเคลียร์ฟอร์โดว์ซึ่งเป็นโรงงานเสริมสมรรถนะนิวเคลียร์ที่ซ่อนอยู่ในหุบเขาอันห่างไกล และมีความสำคัญต่อความทะเยอทะยานด้านนิวเคลียร์ของอิหร่าน
เจ้าหน้าที่ของอิสราเอลบอกว่าพวกเขาทำงาน “ประสานกันอย่างเต็มที่” กับสหรัฐฯ ในการวางแผนโจมตีครั้งนี้
อิหร่านอาจตอบโต้ด้วยการโจมตีเป้าหมายทางทหารของสหรัฐฯ ในภูมิภาค โดยก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่อิหร่านได้เตือนแล้วว่าจะมีการตอบโต้ และการโจมตีใดๆ จากสหรัฐฯ เสี่ยงที่จะนำไปสู่สงครามระดับภูมิภาค
Skip ได้รับความนิยมสูงสุด ได้รับความนิยมสูงสุด
Give up of ได้รับความนิยมสูงสุด
ต่อมาประธานาธิบดีทรัมป์ ได้เน้นย้ำคำเตือนของเขาต่ออิหร่านบนโซเชียลมีเดียของเขาว่า “การตอบโต้ใด ๆ โดยอิหร่านต่อสหรัฐอเมริกาจะต้องถูกตอบโต้ด้วยกำลังที่รุนแรงยิ่งกว่าที่เห็นเมื่อคืนนี้มาก”
ขณะที่อันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ เรียกเหตุการณ์นี้ว่า “การยกระดับความรุนแรงที่อันตราย” และกล่าวว่าขณะนี้ “มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่ความขัดแย้งนี้อาจลุกลามเกินการควบคุมอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะส่งผลร้ายแรงต่อพลเรือนในระดับภูมิภาคและโลก”
เขาเสริมในโพสต์บนเอ็กซ์ ว่า “ในช่วงเวลาอันตรายเช่นนี้ สิ่งสำคัญคือต้องหลีกเลี่ยงความวุ่นวายที่เลวร้ายลง วิธีแก้ปัญหาทางทหารไม่ใช่ทางออก หนทางเดียวที่จะก้าวไปข้างหน้าคือการทูต ความหวังเดียวคือสันติภาพ”
ต่อไปนี้คือสรุปสิ่งที่เราทราบจนถึงขณะนี้
เรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร

ที่มาของภาพ : Getty Photos
อิสราเอลสร้างความประหลาดใจด้วยการเปิดฉากโจมตีโรงนิวเคลียร์และเป้าหมายทางทหารของอิหร่านหลายสิบแห่งเมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยกล่าวว่าความอิหร่านมีความทะเยอทะยานในการรื้อฟื้นโครงการนิวเคลียร์ซึ่งนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวว่าอิหร่านจะสามารถผลิตsะเบิดนิวเคลียร์ได้ในไม่ช้า
ด้านอิหร่านยืนยันว่าความทะเยอทะยานด้านนิวเคลียร์ของตนเองนั้นเป็นไปอย่างสันติ และตัดสินใจยิvจรวดและโดรนหลายร้อยลูกไปยังอิสราเอลเพื่อเป็นการตอบโต้ โดยทั้งสองประเทศยังคงผลัดกันโจมตีทางอากาศกันไปมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่นั้นมา ซึ่งกินเวลานานกว่าหนึ่งสัปดาห์แล้ว
ทรัมป์กล่าวมานานแล้วว่าเขาต่อต้านอิหร่านที่มีการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์
ในเดือนมี.ค. ทัลซี แกบบาร์ด ผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติของสหรัฐฯ กล่าวว่าแม้อิหร่านสะสมคลังยูเรเนียมให้อยู่ในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่ก็ไม่ได้สร้างอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งทรัมป์เห็นว่าการประเมินดังกล่าว “ไม่ถูกต้อง”
ในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ประธานาธิบดีทรัมป์เคยวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลสหรัฐฯ ในตอนนั้นว่ามีส่วนร่วมใน “สงครามโง่เง่าที่ไม่มีจุดสิ้นสุด” ในตะวันออกกลาง และให้คำมั่นว่าจะป้องกันอเมริกาจากความขัดแย้งในต่างประเทศ
สหรัฐฯ และอิหร่านกำลังอยู่ในการเจรจาเรื่องนิวเคลียร์ แต่แล้วอิสราเอลก็เปิดฉากโจมตีอย่างไม่คาดคิดมาก่อน โดยช่วงสองวันที่ผ่านมา ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่าเขาให้เวลาอิหร่าน 2 สัปดาห์ในการเข้าสู่การเจรจาอย่างจริงจัง ด้วยเหตุนี้การโจมตีที่เกิดขึ้น จึงร่นระยะเวลาให้สั้นลงกว่าเดิมมาก
สหรัฐฯ ทิ้งsะเบิดอะไร ด้วยอาวุธแบบไหน ?
ฟอร์โดว์ ฐานนิวเคลียร์ลับที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาทางตอนใต้ของกรุงเตหะราน คือหนึ่งในสถานที่ที่สหรัฐฯ โจมตี โดยเชื่อกันว่าฐานลับแห่งนี้อยู่ในใต้ดินลึกกว่าอุโมงค์ช่องแคบที่เชื่อมต่อระหว่างสหราชอาณาจักรและฝรั่งเศส
ผู้เชี่ยวชาญถือว่าแหล่งเสริมสมรรถนะยูเรเนียมมีความสำคัญต่อความทะเยอทะยานด้านนิวเคลียร์ของอิหร่าน
ความลึกของฐานฟอร์โดว์ใต้ผิวโลกทำให้ยากต่อการเข้าถึงด้วยอาวุธของอิสราเอล และมีเพียงสหรัฐฯ เท่านั้นที่ถือว่ามีsะเบิดทำลายป้อมปราการ หรือ “บังเกอร์บัสเตอร์ (bunker buster)” ที่แข็งแกร่งและใหญ่พอจะทำลายฟอร์โดว์ได้
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าsะเบิดชนิดนั้นของอเมริกาเรียกว่า จีบียู-57 ซึ่งเป็นsะเบิดเจาะอาวุธยุทโธปกรณ์ขนาดใหญ่ หรือ เอ็มโอพี (Big Ordnance Penetrator – MOP) น้ำหนัก 13,000 กิโลกรัม สามารถเจาะคอนกรีตได้ประมาณ 18 เมตรหรือเจาะพื้นดินได้ประมาณ 16 เมตร ก่อนที่มันจะsะเบิด
คาดว่าอุโมงค์ฟอร์โดว์อยู่ใต้พื้นผิวโลก 80-90 เมตร ดังนั้นจึงไม่อาจรับประกันได้ว่าsะเบิดเอ็มโอพีจะประสบความสำเร็จ แต่มันก็เป็นsะเบิดชนิดเดียวที่เจาะเข้าใกล้ฐานนี้ได้
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยืนยันกับสำนักข่าวซีบีเอสซึ่งเป็นพันธมิตรของบีบีซีในสหรัฐฯ ว่า การใช้sะเบิดเอ็มโอพีในการโจมตีครั้งนี้ โดยใช้สองลูกสำหรับการโจมตีเป้าหมายแต่ละแห่ง
ผลกระทบต่อภาคพื้นดินของอิหร่านเป็นอย่างไร ?
ยังไม่ชัดเจนว่าการโจมตีของสหรัฐฯ สร้างความเสียหายอย่างไรต่อโรงงานเสริมสมรรถนะนิวเคลียร์ รวมถึงยังไม่ทราบว่ามีผู้บาดเจ็บล้มเสียชีวิตจากเหตุโจมตีครั้งนี้หรือไม่
ฮัสซัน อาเบดินี รองผู้อำนวยการฝ่ายการเมืองของสถานีโทรทัศน์ของประเทศอิหร่าน กล่าวว่าอิหร่านสั่งอพยพเจ้าหน้าที่จากโรงนิวเคลียร์ทั้งสามแห่งได้ “สักระยะหนึ่ง” แล้ว
เขาปรากฏตัวทางโทรทัศน์ของรัฐบาล กล่าวว่าอิหร่าน “ไม่ได้รับผลกระทบครั้งใหญ่ เพราะวัตถุดิบต่าง ๆ ถูกนำออกไปแล้วหมดแล้ว”
อิหร่านกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตมากกว่า 200 คน และมากกว่า 1,200 คนได้รับบาดเจ็บ นับตั้งแต่การสู้รบรอบล่าสุดกับอิสราเอลเริ่มต้นขึ้น
ขณะเดียวกัน อิสราเอลก็เสริมมาตรการด้านความมั่นคง หลังสหรัฐฯ โจมตีฐานนิวเคลียร์ที่สำคัญของอิหร่าน โดยกองกำลังป้องกันอิสราเอล (Israeli Defense Forces – IDF) กล่าวว่าอิสราเอลได้เพิ่มความเข้มงวดในมาตรการรักษาความปลอดภัยสาธารณะทั่วประเทศ ซึ่งรวมถึง “การห้ามกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา การรวมตัวกัน และสถานที่ทำงาน”
อิหร่านจะตอบโต้อย่างไร ?

ที่มาของภาพ : Getty Photos
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า อิหร่านอ่อนแอลงอย่างมากจากการถูกอิสราเอลโจมตีฐานทัพของตนจนถึงตอนนี้ นอกจากนี้ เครือข่ายตัวแทนของอิหร่านในภูมิภาค เช่น ในเลบานอน (ฮิซบอลเลาะห์), ซีเรีย และกาซา (ฮามาส) ก็ถูกกวาดล้างอย่างหนัก
อย่างไรก็ตาม อิหร่านยังคงมีศักยภาพในการสร้างความเสียหายอย่างมากได้
เจ้าหน้าที่อิหร่านเคยเตือนสหรัฐฯ ว่าอย่าเข้าไปเกี่ยวข้องกับการโจมตี โดยบอกว่าสหรัฐฯ จะประสบกับ “ความเสียหายที่ไม่สามารถแก้ไขได้” และเสี่ยงต่อการเกิด “สงครามเต็มรูปแบบ” ในภูมิภาคนี้
อิหร่านยังขู่ว่าจะพุ่งเป้าไปยังฐานทัพของสหรัฐฯ ในภูมิภาคตะวันออกกลาง เพื่อเป็นการตอบโต้ โดยสหรัฐฯ มีฐานทัพทหารอย่างน้อย 19 แห่งในภูมิภาคนี้ ไม่ว่าจะเป็นในบาห์เรน อียิปต์ อิรัก จอร์แดน คูเวต กาตาร์ ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
หนึ่งในเป้าหมายที่ชัดเจนที่สุดสำหรับอิหร่าน คือ กองบัญชาการกองเรือที่ 5 ของสหรัฐฯ ที่เมืองท่ามีนาซัลมานของบาห์เรน
อิหร่านยังอาจโจมตีช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นเส้นทางเดินเรือสำคัญที่เชื่อมโยงอ่าวเปอร์เซียกับมหาสมุทรอินเดีย โดยเส้นทางนี้คิดเป็น 30% ของปริมาณการขนส่งน้ำมันโลก รวมถึงยังสามารถโจมตีเส้นทางเดินเรืออื่น ๆ ในทะเลที่เสี่ยงต่อการทำลายเสถียรภาพของตลาดโลกด้วย
นอกจากนี้ อิหร่านอาจเล็งเป้าหมายโจมตีไปยังทรัพย์สินของประเทศใกล้เคียงที่เข้าใจว่า กำลังให้ความช่วยเหลือสหรัฐฯ ซึ่งเป็นความเสี่ยงจะทำให้สงครามลุกลามออกไปทั่วภูมิภาค
ทรัมป์ต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐสภาเพื่อส่งกองทัพไปทำสงครามหรือไม่ ?

ที่มาของภาพ : Reuters
ภายใต้กฎหมายของสหรัฐฯ ประธานาธิบดีไม่มีอำนาจแต่เพียงผู้เดียวในการประกาศสงครามกับประเทศอื่นอย่างเป็นทางการ และมีเพียงรัฐสภาของสหรัฐฯ ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจากการเลือกตั้งในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาเท่านั้นที่มีอำนาจนี้
ทว่า กฎหมายยังระบุด้วยว่าประธานาธิบดีเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด นั่นหมายความว่าเขาสามารถส่งกองกำลังของสหรัฐฯ และสั่งให้ให้มีปฏิบัติการทางทหารโดยไม่ต้องประกาศสงครามอย่างเป็นทางการ
ตัวอย่างเช่น การตัดสินใจของทรัมป์ในปี 2017 ที่เปิดฉากโจมตีทางอากาศในซีเรียเพื่อต่อต้านระบอบการปกครองของอัสซาด ซึ่งไม่จำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐสภาของสหรัฐฯ และเป็นการดำเนินการโดยทรัมป์เพียงฝ่ายเดียว ด้วยการอ้างเหตุผลด้านมนุษยธรรมและความมั่งคงของชาติ
สมาชิกรัฐสภาบางคนจากทั้งสองฝ่ายพยายามจำกัดความสามารถของทรัมป์ในการสั่งโจมตีอิหร่านของสหรัฐฯ โดยผลักดันให้รัฐสภาพิจารณาร่างกฎหมายอำนาจสงคราม แม้ว่าอาจต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์ก่อนจะนำเสนอให้ลงมติอย่างเป็นทางการก็ตาม และมาตรการดังกล่าวเป็นเพียงสัญลักษณ์มากกว่าเนื้อหาสาระ
ที่มา BBC.co.uk