‘วุฒิสภา’ เรียกประชุมสมัยวิสามัญฯ ลงมติรับรอง 2 ‘สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ’ 24 ธ.ค.68

‘ครม.' เห็นชอบ ร่างพ.ร.ฎ.ปิดประชุมสมัยวิสามัญแห่งรัฐสภา ตั้งแต่ 25 ธ.ค.68 เป็นต้นไป พร้อมทูลเกล้าฯ ร่างประกาศเรียกประชุมสมัยวิสามัญแห่งรัฐสภา วันที่ 24 ธ.ค.2568 เปิดประชุมวุฒิสภา เลือก 2 ‘สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ' – ตั้ง ‘กมธ.สามัญฯ ตรวจประวัติฯ 2 ‘กกต.'

สำนักข่าวอิศรา . รายงานว่า วันที่ 16 ธันวาคม 2568 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ปิดประชุมสมัยวิสามัญแห่งรัฐสภา พ.ศ. ….ตั้งแต่วันที่ 25 ธ.ค.2568 เป็นต้นไปตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เสนอ และให้นำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย พร้อมกับร่างประกาศเรียกประชุมสมัยวิสามัญแห่งรัฐสภา พ.ศ. …. ตั้งแต่วันที่ 24 ธ.ค.2568 ที่วุฒิสภาจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย เพื่อประกาศใช้บังคับและพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลดำรงตำแหน่งตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ ดังนี้

1. บุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จำนวน 2 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายจิรุตม์ วิศาลจิตร แทนนายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ (ครบวาระ) และ นายมณฑล สุดประเสริฐ แทนนายฐิติเชฏฐ์ นุชนาฏ (ครบวาระ)

รายงานข่าวเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบขั้นตอนการรับรอง กกต. ของวุฒิสภา ภายหลังที่ประชุมคณะกรรมการสรรหา กกต. เมื่อวันที่ 28 พ.ย.2568 ได้ลงมติเลือก บุคคลผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นกกต. จำนวน 2 รายดังกล่าวแล้ว ซึ่งในการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญกิจการวุฒิสภา ที่มีนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา เป็นประธาน เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.2568 มีมติให้เตรียมเสนอให้ที่ประชุมวุฒิสภาตั้งกมธ.สามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติและพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่ง กกต.

2. บุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ( ป.ป.ช. ) ประกอบด้วย นายสุชาติ สุนทรีเกษม แทนพล.ต.อ. วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากอายุครบ 70 ปี) และ นายมนูภาน ยศธแสนย์ แทนนางสุวณา สุวรรณจูฑะ (ครบวาระ)

ทั้งนี้ กมธ. สามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติและพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่ง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว

วุฒิสภา รายงานครม. ว่า โดยที่ได้มี พ.ร.ฎ.ยุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2568 ซึ่งมีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.2568 และรัฐธรรมนูญมาตรา 126 วรรคหนึ่ง บัญญัติให้ในระหว่างที่ไม่มีสภาผู้แทนราษฎร ไม่ว่าด้วยเหตุสภาผู้แทนราษฎรสิ้นอายุ สภาผู้แทนราษฎรถูกยุบ หรือเหตุอื่นใด จะมีการประชุมวุฒิสภาไม่ได้

เว้นแต่มีกรณีที่รัฐสภาต้องดำเนินการตามมาตรา 17 มาตรา 19 มาตรา 20 มาตรา 21 หรือมาตรา 177 หรือ มีกรณีที่วุฒิสภาต้องประชุมเพื่อทำหน้าที่พิจารณาให้บุคคลดำรงตำแหน่งใดตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและวรรคสอง บัญญัติให้เมื่อมีกรณีตามวรรคหนึ่ง ให้วุฒิสภาดำเนินการประชุมได้ โดยให้ประธานวุฒิสภานำความกราบบังคมทูลเพื่อมีพระบรมราชโองการประกาศเรียกประชุมรัฐสภาเป็นการประชุมสมัยวิสามัญ และให้ประธานวุฒิสภาเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ