
จัดครั้งแรกในไทย! ’Forbes Below 30 Summit Asia 2025‘ รวมพลนักธุรกิจรุ่นใหม่ทั่วเอเชีย ‘ธนิศร์-กรวัฒน์ เจียรวนนท์’ ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ ขับเคลื่อนอนาคตในยุคเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยี “Jumpstarting the Future”
การประชุมสุดยอด Forbes Below 30 Summit Asia 2025 เปิดฉากอย่างยิ่งใหญ่ครั้งแรกในประเทศไทย ภายใต้ธีม “Jumpstarting the Future” งานจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 6 และเป็นครั้งแรกในไทย รวบรวมผู้ประกอบการรุ่นใหม่และนักบุกเบิกธุรกิจระหว่างปี 2016–2025 กว่า 350 คน ทั่วภูมิภาคเอเชีย มาร่วมแลกเปลี่ยนตลอด 3 วัน ผ่านเวทีเสวนาแสดงวิสัยทัศน์ภายใต้แนวคิดร่วมถอดบทเรียนและแบ่งปันมุมมองในการรับมือกับความท้าทายและโอกาสในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยมีธนาคารกรุงเทพ เครือเจริญโภคภัณฑ์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และ ไทย เบฟเวอเรจ เป็นผู้สนับสนุนการจัดงานในครั้งนี้
หนึ่งในเวทีเสวนาที่เป็นไฮไลท์พิเศษ คือ การแสดงวิสัยทัศน์จาก นายธนิศร์ เจียรวนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หน่วยธุรกิจแม็คโคร ประเทศไทย บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด มหาชน ภายใต้ บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด ผู้ให้ภาพรวมบทบาทสำคัญในกลุ่มธุรกิจค้าปลีกของเครือเจริญโภคภัณฑ์ ซึ่งรวมถึง Makro, Lotus, 7-Eleven และกิจการค้าส่งอื่น ๆ
นายธนิศร์ เจียรวนนท์
นายธนิศร์ระบุว่า ได้รับเกียรติอย่างสูงจากนายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ ให้มาขับเคลื่อนธุรกิจ และเริ่มต้นที่ แม็คโครเมื่อ 10 ปีก่อน และดำเนินเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา แม็คโครพยายามปรับตัวทุกรูปแบบเพื่อตอบสนองต่อตลาด และการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะเทคโนโลยี เพื่อให้เกิดความพึงพอใจของลูกค้ามากที่สุด โดยหนึ่งในความท้าทายสำคัญ คือการปรับตัวสู่ยุค ดิจิทัลและ e-commerce โดยเฉพาะในไทยซึ่งเติบโตเร็วที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ความพยายามดังกล่าวเริ่มแตกหน่อให้เห็นความสำเร็จ หลังการขยายธุรกิจ e-commerce มีตัวเลขจากเพียง 3% เป็น 30% ภายใน 2.5 ปี พร้อมเพิ่มรถจัดส่งจาก 400 คันเป็น 4,000 คัน
นอกจากนั้น การพัฒนาทักษะพนักงานถือเป็นประเด็นสำคัญ ผ่านการเรียนรู้ทักษะใหม่ (reskill) เพื่อปรับตัวต่อเทคโนโลยีอัตโนมัติและการทำงานด้วยข้อมูล พร้อมสร้างพื้นฐานด้านการรู้เท่าทันข้อมูล (files literacy) ก่อนนำ AI มาใช้จริง ตัวอย่างเช่น ระบบค้นหาภาษาไทยและการปรับผลลัพธ์ตามพฤติกรรมลูกค้า เป็นต้น นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของลูกค้า (Customer Travel) ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายผ่านห้างร้าน หรือออนไลน์ โดยที่ผ่านมาแม็คโคร ประเทศไทย ได้ยึดมั่นในคุณค่าหลักของเครือเจริญโภคภัณฑ์ เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจ โดยเน้นลูกค้าเป็นสำคัญ
“หนึ่งในคุณค่าหลักของเครือซีพี คือ ทำสิ่งที่ยากและไม่มีใครทำได้ (Simplification) และความสำคัญของการปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง เพราะในยุคนี้ ปลาเล็กเร็วสามารถเอาชนะแม้ปลาใหญ่ การปรับตัวและความยืดหยุ่นจึงเป็นเรื่องที่เราต้องตอบสนองให้ทัน” นายธนิศร์กล่าว
นายกรวัฒน์ เจียรวนนท์
เช่นเดียวกับเวทีเสวนาหัวข้อ “What’s Subsequent?” โดยศิษย์เก่า Forbes Below 30 Asia ร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองและกลยุทธ์เพื่อรับมือกับโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ไฮไลท์ของเวทีนี้คือการสนทนากับ นายกรวัฒน์ เจียรวนนท์ ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหาร Amity หนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีด้าน AI และ SaaS (Instrument as a Provider) ชั้นนำของประเทศไทย
นายกรวัฒน์เล่าถึงเส้นทางของ Amity ที่เดิมทีเป็นบริษัทซอฟต์แวร์ ก่อนปรับกลยุทธ์สู่การเข้าซื้อกิจการซอฟต์แวร์และต่อยอดด้วย AI การลงทุนด้าน R&D โดยเฉพาะการนำโมเดลภาษาขนาดใหญ่ หรือ Sizable Language Items (LLMs) มาประยุกต์ใช้ในผลิตภัณฑ์ ช่วยให้บริษัทก้าวขึ้นเป็น SaaS ที่ใหญ่ที่สุดของไทยและผู้นำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การเติบโตผ่านกลยุทธ์นี้ช่วยให้ Amity ขยายตลาดได้รวดเร็ว โดยเฉพาะในยุโรป ขณะที่การมาของ ChatGPT กลายเป็นโอกาสครั้งใหญ่ในการพัฒนา AI บริษัทจึงทุ่มทรัพยากรทีม R&D AI ทั้งหมดเพื่อบูรณาการเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว และดำเนินการบริหารโดยการกระจายอำนาจให้พนักงานร่วมตัดสินใจ เพื่อดึงศักยภาพ และการมีส่วนร่วม ตอกย้ำการดำเนินธุรกิจสมัยใหม่
“โมเดลธุรกิจของเรายึดหลักการกระจายอำนาจ มอบอิสระและแรงจูงใจที่เหมาะสมให้บุคลากรตัดสินใจได้เอง เราเชื่อมั่นว่าผู้ที่ใกล้ชิดตลาดและลูกค้ามากที่สุดคือผู้ที่ตัดสินใจได้ดีที่สุด จึงสร้างโครงสร้างองค์กรที่ยืดหยุ่นและไว้ใจให้ผู้นำในแต่ละภูมิภาคขับเคลื่อนธุรกิจได้อย่างเต็มที่” นายกรวัฒน์ กล่าว
นายชานันท์ โสภณพนิช
ทั้งนี้พิธีเปิดงานได้รับเกียรติจาก นายชานันท์ โสภณพนิช Assistant Vice President ธนาคารกรุงเทพ ซึ่งกล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุมอย่างอบอุ่น โดยระบุว่า “นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดงาน Forbes Below 30 Summit Asia เป็นครั้งแรกของไทย และขอแสดงความยินดีกับทุกท่านที่ได้รับเลือกเข้าสู่ Forbes Below 30 ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความกล้าที่จะฝันและลงมือทำ”
นายชานันท์เน้นย้ำว่า “แม้โลกวันนี้เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน แต่ความผันผวนเป็นโอกาสให้เกิดแนวคิดใหม่ ๆ โดยคุณสมบัติสำคัญที่สุดคือ ความยืดหยุ่นในการปรับตัว (Resilience) ที่จะช่วยให้คนรุ่นใหม่ก้าวข้ามอุปสรรคและสร้างการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมาย พร้อมทิ้งท้ายว่า อย่ารออนาคตให้มาถึง แต่จงสร้างมันด้วยตัวคุณเอง”
การประชุมสุดยอด Forbes Below 30 Summit Asia 2025 ยังมีผู้นำรุ่นใหม่ในภูมิภาคเอเชีย อาทิ ยัง ราจา แร็ปเปอร์และผู้ประกอบการชื่อดังชาวสิงคโปร์, โจเซฟ สกูลลิง นักกีฬาว่ายน้ำชาวสิงคโปร์ผู้คว้าเหรียญทองโอลิมปิก และผู้อำนวยการ Sports Training, ริกกี้ ชาน ผู้ร่วมก่อตั้ง XOXO Beverages บริษัทเทคโนโลยีอาหาร และเครื่องดื่มชื่อดังในฮ่องกง, ริซกี อารีฟ ดวี ประโคโซ ผู้ร่วมก่อตั้ง HMNS แบรนด์น้ำหอมชื่อดังจากอินโดนีเซีย, ดาเมียน โซฟเรฟสกี ผู้ร่วมก่อตั้ง Neurode บริษัทสตาร์ทอัพที่ตั้งอยู่ในซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ที่กำลังพัฒนา แถบคาดศีรษะ ที่สามารถช่วยจัดการ โรคสมาธิสั้น (ADHD) และนายกันตินันท์ ตันวีนุกูล ผู้ร่วมก่อตั้งและ CEO ของSLEEK EV สตาร์ทอัพสาย Mobility และพลังงานสะอาดสัญชาติไทย เป็นต้น
ที่มา สำนักข่าวอิศรา ( isranews.org )