คดีที่ 2 รอด! ป.ป.ช.ตีตกข้อกล่าวหาอดีต ปธ.แบงก์อิสลาม-พวก อนุมัติสินเชื่อลูกหนี้ 409 ล.

ป.ป.ช.แพร่มติเสียงเอกฉันท์ตีตกคดี ‘กฤษดา กวีญาณ' อดีตประธานธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย-พวก อนุมัติสินเชื่อให้ลูกหนี้ราย บ. ภูเก็ตวิว คอนสตรัคชั่นฯ ขาดการวิเคราะห์ฐานะที่แท้จริง เหตุไม่ปรากฏข้อเท็จจริงพยานหลักฐานที่จะฟังได้ว่ากระทำความผิด ไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป หลังหน้านี้โดนชี้มูลกรณีอนุมัติสินเชื่อมิชอบไปแล้ว 1 กรณี

สำนักข่าวอิศรา . รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่มติคณะกรรมการ ป.ป.ช.เสียงเอกฉันท์ตีตกข้อกล่าวหา นายกฤษดา กวีญาณ อดีตประธานกรรมการบริหารธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย กับพวก อนุมัติสินเชื่อให้กับลูกหนี้รายบริษัท ภูเก็ตวิว คอนสตรัคชั่น จำกัด โดยขาดการวิเคราะห์ฐานะที่แท้จริงของลูกหนี้ ขาดการติดตามควบคุมให้ลูกหนี้เบิกใช้เงินตามวัตถุประสงค์ที่ขอกู้ และเอกสารการเบิกเงินกู้ขาดความน่าเชื่อถือ หลังพิจารณาสำนวนไต่สวนเบื้องต้น ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่จะฟังได้ว่ากระทำความผิดตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป

คดีนี้ มีผู้ถูกกล่าวหา จำนวน 20 ราย คือ

1. นายกฤษดา กวีญาณ ประธานกรรมการบริหาร

2. หม่อมราชวงศ์ ศศิพฤนท์ จันทรทัต กรรมการบริหาร

3. นายอรัญ วงศ์อนันต์ กรรมการบริหาร

4. นายธีรศักดิ์ สุวรรณยศ กรรมการบริหารและประธานอนุกรรมการพิจารณาสินเชื่อ

5. นายพงศธร คุณานุสรณ์ ประธานอนุกรรมการพิจารณาสินเชื่อรายใหญ่และอนุกรรมการพิจารณาสินเชื่อ

6. นายอนุชา บุปผเวส อนุกรรมการพิจารณาสินเชื่อรายใหญ่และอนุกรรมการพิจารณาสินเชื่อ

7. นางวิลาสินี เทพเฉลิม อนุกรรมการพิจารณาสินเชื่อรายใหญ่และอนุกรรมการพิจารณาสินเชื่อ

8. นายเพิ่มพงศ์ วิริยะ อนุกรรมการพิจารณาสินเชื่อรายใหญ่และอนุกรรมการพิจารณาสินเชื่อ

8. นายมนตรี อรุณ อนุกรรมการพิจารณาสินเชื่อรายใหญ่และอนุกรรมการพิจารณาสินเชื่อ

10. นางนุจรี ภักดีเจริญ อนุกรรมการพิจารณาสินเชื่อรายใหญ่และอนุกรรมการพิจารณาสินเชื่อ

11. นางสาวต่วนซาลีนา กูบาฮา อนุกรรมการพิจารณาสินเชื่อรายใหญ่และอนุกรรมการพิจารณาสินเชื่อ

12. นายรัชสุวรรณ ปิดพยันต์ อนุกรรมการพิจารณาสินเชื่อ

13. นายก่อเกียรติ วงศ์อารี อนุกรรมการพิจารณาสินเชื่อ

14. นางอุไรวรรณ มณีโชติ อนุกรรมการพิจารณาสินเชื่อ

15. นายสมพล ตรีภพนารถ อนุกรรมการพิจารณาสินเชื่อ

16. นางสาวพรลินี ปอวิจิตกุล อนุกรรมการพิจารณาสินเชื่อ

17. นายสติ ศังขวณิช อนุกรรมการพิจารณาสินเชื่อ

18. นายปภาณ อารียา อนุกรรมการพิจารณาสินเชื่อ

19. บริษัท ภูเก็ต วิว คอนสตรัคชั่น จำกัด

20. นายจิรวัฒน์ อานุภาวธรรม กรรมการผู้มีอำนาจบริษัท ภูเก็ต วิว คอนสตรัคชั่น จำกัด

สำนักงาน ป.ป.ช. ระบุพฤติการณ์ที่กล่าวหาว่ากระทำผิดโดยสรุปว่า บริษัท ภูเก็ต วิว คอนสตรัคชั่น จำกัด มีนายสุชาติ อานุภาวธรรม เป็นเจ้าของและผู้บริหาร ซึ่งไม่มีประสบการณ์ในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ และได้ว่าจ้างให้บริษัท เมทนีดล จำกัด (ซึ่งมีผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นบุคคลในตระกูลอานุภาวธรรม) เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการของลูกหนี้ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ยินยอมให้ลูกหนี้เบิกจ่ายเงินให้แก่บริษัท เมทนีดล จำกัด โดยลูกหนี้ไม่มีการก่อสร้างเพิ่มเติมแต่อย่างใดโดย บริษัท ภูเก็ตวิว คอนสตรัคชั่น จำกัด ไม่สามารถชำระหนี้ได้ด้วยตนเอง ธนาคารชี้แจงว่าต้องรอให้ลูกหนี้ขายโครงการเพื่อชำระหนี้

ผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ระบุว่า คณะไต่สวนเบื้องต้นได้ดำเนินการไต่สวนเบื้องต้น โดยมีข้อเท็จจริงที่สำคัญสรุปได้ ดังนี้

1. บริษัท ภูเก็ตวิว คอนสตรัคชั่น จำกัด ทะเบียนนิติบุคคลเลขที่ 0105550057871 ได้รับอนุมัติสินเชื่อจากคณะกรรมการบริหารในการประชุมครั้งที่ 9/2553 เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2553 เพื่อพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ รวม 409,000,000 บาท เพื่อสนับสนุนโครงการซีมี หัวหิน เวเคชั่น คอนโด โดยแบ่งเป็นสินเชื่อเพื่อซื้อที่ดินจำนวน 57,000,000 บาท สินเชื่อก่อสร้างอาคารจำนวน 330,500,000 บาท สินเชื่อสาธารณูปโภคจำนวน 21,500,000 บาท

2. เงื่อนไขการเบิกใช้วงเงินสินเชื่อ มีดังนี้

2.1 สินเชื่อเพื่อซื้อที่ดิน

เงื่อนไขก่อนการเบิกใช้วงเงิน ให้แสดงเอกสารสัญญาซื้อขายที่ดิน

เงื่อนไขการใช้วงเงิน เบิกจ่ายได้ไม่เกิน 60% ของราคาขายตามสัญญาซื้อขาย หรือตามราคาประเมินของบริษัทประเมินที่ธนาคารรับรอง แล้วแต่ราคาใดจะต่ำกว่า ทั้งนี้ ไม่เกินวงเงิน 57,000,000 บาท

2.2 สินเชื่อก่อสร้างอาคาร

เงื่อนไขก่อนการเบิกใช้วงเงิน ให้แสดงการอนุญาตรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ให้แสดงใบอนุญาตการก่อสร้าง ให้แสดงเอกสารสัญญาการก่อสร้างอาคารและสัญญารับเหมางานต่าง ๆ ในโครงการ การเบิกค่าก่อสร้าง 3 อาคารแรก คือ อาคาร A, B และ E ต้องมียอด Presale ไม่ต่ำกว่า 65% ของจำนวนยูนิตรวม 3 อาคาร A, B และ E การเบิกค่าก่อสร้าง 3 อาคารหลัง คือ C, D และ F ต้องมียอด Presale ไม่ต่ำกว่า 46% ของจำนวนยูนิตรวม 3 อาคาร C, D และ F เงื่อนไขการใช้วงเงิน ให้เบิกจ่ายได้ไม่เกิน 80% ตามความคืบหน้าของงานโดยให้บริษัทประเมินราคาภายนอกเป็นผู้ประเมิน ทั้งนี้ ไม่เกินวงเงิน 330,500,000 บาท

2.3 สินเชื่อสาธารณูปโภค

เงื่อนไขการใช้วงเงิน ให้เบิกจ่ายได้ไม่เกิน 80% ตามความคืบหน้าของงาน โดยให้บริษัทประเมินราคาภายนอกเป็นผู้ประเมิน ทั้งนี้ ไม่เกินวงเงิน 21,500,000 บาท

3. บริษัท ภูเก็ตวิวคอนสตรัคชั่น จำกัด ได้รับอนุมัติสินเชื่อจากคณะกรรมการบริหารในการประชุมครั้งที่ 10/2553 เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2553 ขอเพิ่มวงเงินซื้อที่ดินอีก 10 ล้านบาท จาก 57 ล้านบาท เป็น 67 ล้านบาท และขอเพิ่มวงเงินเบิกถอนเงินสด 10 ล้านบาท รวมวงเงินขอสินเชื่อทั้งสิ้น รวม 429,000,000 บาท

4. เงื่อนไขการเบิกใช้วงเงินสินเชื่อ มีดังนี้

4.1 สินเชื่อเพื่อซื้อที่ดิน

เงื่อนไขก่อนการเบิกใช้วงเงิน ให้แสดงเอกสารสัญญาซื้อขายที่ดิน

เงื่อนไขการใช้วงเงิน เบิกจ่ายได้ไม่เกิน 71% ของราคาขายตามสัญญาซื้อขาย หรือตามราคาประเมินของบริษัทประเมินที่ธนาคารรับรอง แล้วแต่ราคาใดจะต่ำกว่า ทั้งนี้ ไม่เกินวงเงิน 67,000,000 บาท

4.2 สินเชื่อก่อสร้างอาคาร

เงื่อนไขก่อนการเบิกใช้วงเงิน ให้แสดงการอนุญาตรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ให้แสดงใบอนุญาตการก่อสร้าง ให้แสดงเอกสารสัญญาการก่อสร้างอาคารและสัญญารับเหมางานต่าง ๆ ในโครงการ การเบิกค่าก่อสร้าง 3 อาคารแรก คือ อาคาร A, B และ E ต้องมียอด Presale ไม่ต่ำกว่า 65% ของจำนวนยูนิตรวม 3 อาคาร A, B และ E การเบิกค่าก่อสร้าง 3 อาคารหลัง คือ C, D และ F ต้องมียอด Presale ไม่ต่ำกว่า 46% ของจำนวนยูนิตรวม 3 อาคาร C, D และ F เงื่อนไขการใช้วงเงิน ให้เบิกจ่ายได้ไม่เกิน 78% ตามความคืบหน้าของงานโดยให้บริษัทประเมินราคาภายนอกเป็นผู้ประเมิน ทั้งนี้ ไม่เกินวงเงิน 330,500,000 บาท

4.3 สินเชื่อสาธารณูปโภค

เงื่อนไขการใช้วงเงิน ให้เบิกจ่ายได้ไม่เกิน 80% ตามความคืบหน้าของงาน โดยให้บริษัทประเมินราคาภายนอกเป็นผู้ประเมิน ทั้งนี้ ไม่เกินวงเงิน 21,500,000 บาท

5. บริษัท ภูเก็ตวิวคอนสตรัคชั่น จำกัด ได้ขายหุ้นบางส่วนให้กลุ่มผู้ถือหุ้นใหม่ และมีการเปลี่ยนชื่อบริษัท เป็นบริษัท แอลไนน์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด และได้ขออนุมัติสินเชื่อใหม่ ซึ่งคณะอนุกรรมการบริหาร ในการประชุมครั้งที่ 20/2555 เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2555 ได้อนุมัติโดยมีรายละเอียดที่สำคัญ ดังนี้

5.1 เปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท แอลไนน์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด

5.2 เปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการเป็นโครงการ BLUROC HUA HIN

5.3 ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงวงเงินและเงื่อนไขวงเงินสินเชื่อที่สนับสนุนรวม 429 ล้านบาท (วงเงินเท่าเดิม) และขอขยายระยะเวลาสินเชื่อออกไปอีก 2 ปี

5.4 ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงการจำนำหุ้นสามัญ โดยยกเลิกจำนำเดิม และจำนำหุ้นใหม่ในนาม บริษัท แอลไนน์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ในสัดส่วนไม่น้อยกว่า 75% ของทุนจดทะเบียนตามเงื่อนไขเดิม

5.5 ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงผู้คำประกัน โดยยกเลิกนายสุชาติ อานุภาวธรรม และนายจิรวัฒน์ อานุภาวธรรม โดยมีผู้ค้ำประกันใหม่ 3 ราย คือ นายกิติศักดิ์ จำปาทิพย์พงศ์ นายชนะ นันทจันทูล และนายธวัช ชัยยุทธิ์

6. ในการเบิกใช้วงเงินสินเชื่อ ปรากฏข้อเท็จจริงว่าบริษัท ภูเก็ตวิว คอนสตรัคชั่น จำกัด ได้เบิกใช้วงเงินสินเชื่อเป็นจำนวนเงิน 87,000,000 บาท จากนั้น เมื่อได้มีการเปลี่ยนผู้ถือหุ้นและเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท แอลไนน์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ได้มีการเบิกใช้วงเงินสินเชื่อเป็นจำนวนเงิน 339,447,000 บาท รวมเบิกใช้วงเงินสินเชื่อทั้งสิ้น 426,447,000 บาท บริษัท แอลไนน์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ได้ดำเนินโครงการอาคารชุด บลูร๊อค หัวหิน และได้ชำระหนี้ให้กับธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยเป็นเงินต้นรวม 426,447,000 บาท กำไรรวม 110,560,994.57 บาท รวมทั้งค่าชดเชยความเสียหายจากการผิดนัดชำระหนี้รวม 475,289.26 บาท รวมเป็นเงินที่ชำระคืนธนาคารทั้งสิ้น 537,483,283.83 บาท

คณะกรรมการ ป.ป.ช. ในการประชุมครั้งที่ 132/2567 เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2567 ได้พิจารณาแล้ว มีมติเป็นเอกฉันท์ ด้วยคะแนนเสียง 6 เสียง เห็นว่าจากการไต่สวนเบื้องต้น ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่จะฟังได้ว่าผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 – 20 ได้กระทำความผิดตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป

@ ก่อนหน้านี้ โดยชี้มูลคดีอนุมัติสินเชื่อมิชอบ 1.9 พันล.

อนึ่ง ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลเรื่องกล่าวหา นายกฤษดา กวีญาณ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหารธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย กับพวก อนุมัติสินเชื่อลูกค้ารายบริษัท เดอะไวท์บีช จำกัด และบริษัท เดอะ อันดามัน ไพรเวท บีช จำกัด โดยมิชอบ ไปแล้ว

โดยข้อกล่าวหา ที่นายกฤษดา กวีญาณ อดีตประธานกรรมการบริหารธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย กับพวก ถูก ป.ป.ช. สอบสวนและชี้มูลในคดีนี้ เป็นกรณีการอนุมัติและจ่ายเงินสินเชื่อให้กับกลุ่มบริษัท เดอะ อันดามัน ไพรเวท บีช จำกัด ซึ่งมีการคำนวณวงเงินรวมทั้งกลุ่มวงเงินกว่า 1,905 ล้านบาท โดยไม่มีอำนาจ และมีการให้เบิกสินเชื่อไปก่อนกว่า 430  ล้านบาท โดยไม่มีเหตุเร่งด่วน

อย่างไรก็ดี การชี้มูลความผิดทางอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหา ยังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด

• วงเงินเกินอำนาจ! เปิดข้อกล่าวหาคดีอดีตปธ.แบงก์อิสลาม-พวก อนุมัติสินเชื่อมิชอบ1.9 พันล.

อ่านประกอบ :