ตำรวจ ปคบ. – อย.แถลง 2 คดีสำคัญ ลักลอบผลิตยาสเตียรอยด์-เภสัชกรเถื่อน

พันตำรวจเอกพัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รักษาราชการแทน ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ร่วมกับคณะกรรมการอาหารและยา แถลงผลจับกุม 2 คดีสำคัญ บุกโรงงานลักลอบผลิตยาสเตียรอยด์รายใหญ่ ย่านหลักสี่ ยึดของกลางเกือบ 2 ล้านเม็ด – จับเภสัชกรเถื่อน  12 ราย

สำนักข่าวอิศรา วันที่ 29 มกราคม 2568 ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พันตำรวจเอกพัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รักษาราชการแทน ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (รรท.ผบก.ปคบ.) พร้อมด้วยตัวแทน จากคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมกันแถลงผลจับกุมคดีสำคัญ จำนวน 2 คดี ประกอบด้วย คดีแรกจับกุมโรงงานผลิตยาสเตียรอยด์รายใหญ่ ตรวจยึดยา Dexamethasone จำนวนกว่า 1,930,000 เม็ด ต่อด้วยคดีจับกุมคดีเภสัชกรเถื่อน 12 ราย

พันตำรวจเอกพัฒนศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับคดีแรก สืบเนื่องจากที่ผ่านมาได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการลักลอบนำยาสเตียรอยด์ซึ่งเป็น ยาควบคุมพิเศษ มาวางจำหน่ายในรูปแบบยาชุด หรือ ใช้เป็นผสมผลิตภัณฑ์สมุนไพร เครื่องดื่ม และ เครื่องสำอาง เพื่อหวังผลในการรักษาอาการต่างๆ ให้เห็นผลอย่างรวดเร็ว เสี่ยงต่อการก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้บริโภค

พันตำรวจเอกพัฒนศักดิ์ กล่าวว่า หลังทราบเรื่องจึงร่วมกับทางคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สืบหาข้อมูลจนทราบแหล่งที่ผลิตตั้งอยู่ในซอยแจ้งวัฒนะ 6 ย่านหลักสี่ กรุงเทพมหานคร จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบพบสถานที่ดังกล่าวเป็นโรงงานผลิตและจำหน่ายยาแผนปัจจุบัน มี น.ส.ปณิธี (สงวนนามสกุล) แสดงตัวเป็นเจ้าของพร้อมนำใบอนุญาตมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ แต่เมื่อตรวจสอบภายในโรงงานกลับพบยาสเตียรอยด์ ที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา จำนวน 1,930,000 เม็ด แพ๊คบรรจุใส่กล่องลังเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ใช้แล้ว เพื่อเตรียมส่งจำหน่ายให้กับลูกค้า จึงตรวจยึดทั้งหมดไว้เป็นของกลาง เพราะการกระทำดังกล่าวถือว่าเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ยา พ.ศ. 2510 ฐาน ผลิตยาไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา ระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ด้าน นายแพทย์วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการ อย. กล่าวเพิ่มเติมว่า ยาสเตียรอยด์ ถือเป็นยาควบคุมพิเศษ ที่ต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์เท่านั้น กรณีที่ร้านขายยาจะจ่ายยาให้คนไข้ได้ ต้องมีใบสั่งยาจากแพทย์ และจัดทำบัญชีการขายยารายงานต่อสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา

พันตำรวจเอกพัฒนศักดิ์ กล่าวอีกครั้งว่า สำหรับคดีที่สอง เป็นการระดมกำลังตรวจค้นร้านขายยาในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อปราบปรามร้านยาลักลอบใช้พนักงานขายยาที่ไม่ใช่เภสัชกร จำหน่ายยาให้ประชาชนทั่วไป จนสามารถจับกุมผู้กระทำผิดหรือเภสัชกรเถื่อนที่ไม่มีความรู้ด้านเภสัชกรรมโดยตรงได้จำนวน 12 ราย พร้อมยึดของกลางที่เกี่ยวข้อง จำนวน 26 รายการ

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบ พบผู้ต้องหาทั้ง 12 ราย มีจำนวน 5 ราย จบการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 และ มีจำนวน 2 ราย จบการศึกษาระดับ ปวส. ส่วนอีก 5 รายที่เหลือจบการศึกษาระดับปริญญาตรี แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเภสัชกรรม

พันตำรวจเอกพัฒนศักดิ์กล่าวว่า จากการสอบถามทั้งหมดยอมรับว่า รับจ้างเป็นพนักงานขายยาให้กับร้านยาต่างๆจริง โดยจะทำงานอยู่ประจำที่ร้านทุกวัน ได้ค่าจ้างเดือนละ 12,000 -30,000 บาท ส่วนเภสัชกรตัวจริงจะเข้ามาดูแลร้านเพียงเดือนละ 1-4 ครั้ง เบื้องต้นจึงแจ้งข้อหา ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมฯ โดยมิได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาต โดยหลังจากนี้ทางพนักงานสอบสวนจะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเอาผิดกับผู้ประกอบการหรือเจ้าของร้านยาแต่ละแห่งตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป