
เผยความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา ‘ประเสริฐ หรือชยชล เชยชุ่ม' อดีตหัวหน้าคลังสินค้า บ.ศิริวิวัฒน์เจริญฯ -อ.ต.ก. ทุจริตต่อหน้าที่กรณีข้าวโครงการรับจำนำ ปี 2545 สูญหาย ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 2 พิพากษา ยกฟ้อง – สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติขอ อสส.อุทธรณ์สู้
สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช. ) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายประเสริฐ หรือชยชล เชยชุ่ม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งหัวหน้าคลังสินค้า บริษัท ศิริวิวัฒน์เจริญ (1983) จำกัด องค์การตลาดเพื่อการเกษตรกร (อ.ต.ก.) กับพวก ทุจริตต่อหน้าที่ในกรณีข้าวสารในคลังสินค้าตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2545 สูญหาย ซึ่งถูกคณะกรรมการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 , 162 (1) , (4) พ.ร.ป.สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ.2542 มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามมาตรา 172) ตั้งแต่เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2567 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 มีคำพิพากษา ยกฟ้อง
เบื้องต้น คณะกรรมการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ มีการประชุมลงมติเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2567 มีมติขอความอนุเคราะห์ให้อัยการสูงสุด (อสส.) พิจารณาอุทธรณ์คำพิพากษาให้ลงโทษจำเลยตามฟ้อง
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ที่มา สำนักข่าวอิศรา ( isranews.org )