
ปวีณา จริยฐิติพงศ์ รองฝ่ายวิศวกรรมขึ้นรักษาการเอ็มดี ท่าอากาศยานไทยตามคาด หลัง ‘กีรติ’ ลาออก ที่ประชุมบอร์ดท่าอากาศยานไทยสั่งสรรหาคนใหม่ภายใน 90 วัน
สำนักข่าวอิศรา . รายงานว่า วันที่ 24 เมษายน 2568 รายงานข่าวจากบมจ.ท่าอากาศยานไทย (ท่าอากาศยานไทย) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ท่าอากาศยานไทยวานนี้ (23 เม.ย. 68) รับทราบหนังสือลาออกของนายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ท่าอากาศยานไทยแล้วโดยมีผลในวันที่24เม.ย. 2568 พร้อมกันนี้บอร์ดได้มีมติแต่งตั้งนางสาวปวีณา จริยฐิติพงศ์รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (สายงานวิศวกรรมและการก่อสร้าง)ทำหน้าที่รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ท่าอากาศยานไทยตั้งแต่วันที่ 24เมษายน 2568 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีการแต่งตั้งผู้อำนวยการใหญ่ท่าอากาศยานไทยคนใหม่
ในส่วนของการสรรหาผู้อำนวยการใหญ่ท่าอากาศยานไทยคนใหม่นั้น แหล่งข่าวกล่าวว่า ที่ประชุมให้ท่าอากาศยานไทยเร่งดำเนินการตามขั้นตอนในพ.ร.บ.คุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2518 โดยให้นำเสนอที่ประชุมบอร์ดเพื่อดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาฯในการประชุมคราวต่อไปคาดว่าจะดำเนินการสรรหาได้ภายใน 90 วัน
สำหรับประวัติส่วนตัวคร่าวๆ นางสาวปวีณา เกิดเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2520 จบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมโยธา มมหาิวทยาลัยธรรมศาสตร์, ประกาศนียบัตรขั้นสูงการบริหารภาครัฐและกฎหมายมหาชน สถาบันพระปกเกล้า, ระดับปริญญาโท คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมโยธาและการบริหารระบบสาธารณะ มหาวิทยาลัยฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น และระดับปริญญาเอกเอก คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมโยธาและสิ่งแวดล้อม ม.โอคายาม่า ประเทศญี่ปุ่น
เจ้าตัวเคยเป็นผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) หมายเลข 9 เขต 1 จันทบุรี พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พื้นที่ อ.เมือง อ.แหลมสิงห์ เมื่อปี 2562 แต่สอบตก
ส่วนตำแหน่งอื่นๆ อาทิ กรรมการ บมจ. บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ, กรรมการ บจก. ฟอร์ท เอ็มอาร์โอ เซอร์วิส และกรรมการวิชาการสาขาวัสดุวิศวกรรม และกรรมการวิชาการ สาขาเมเทนแนนส์ สมาคมคอนกรีตแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมป์
@กีรติ อำลาตำแหน่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ อดีตกรรมการผู้อำนวการใหญ่ ท่าอากาศยานไทย โพสต์เฟซบุ๊กว่า
ถึงพี่น้องชาวท่าอากาศยานไทยที่รักทุกท่าน
ตามที่ผมได้รับความไว้วางใจจากคณะกรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ท่าอากาศยานไทย) ให้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้อำนวนการใหญ่ ท่าอากาศยานไทย ตั้งแต่วันที่ 24 เมษายน 2566 เป็นต้นมา ผมได้ดำเนินการตามวิสัยทัศน์ ในการพัฒนาองค์กร ขยายขีดความสามารถในการให้บริการผู้โดยสาร และปรับปรุงคุณภาพในการให้บริการแก่ผู้โดยสาร เพื่อยกระดับท่าอากาศยานของ ท่าอากาศยานไทยให้เป็นสนามบินชั้นนำระดับโลก สู่การเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค ซึ่งได้ปรากฏผลอย่างเป็นรูปธรรม ตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ท้าทายของผมและพนักงานขอ งท่าอากาศยานไทยทุกคน
ในช่วงเวลาสองปีที่ผ่านมา กระผมได้ดำเนินภารกิจหลักในการเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ ท่าอากาศยานไทย เร่งรัดการก่อสร้างอาคาร Satellite tv for pc 1 และ Runway เส้นที่ 3 จนเปิดให้บริการได้อย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงได้ยกระดับคุณภาพการให้บริการด้วยการนำเทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการ เช็คอิน ตรวจค้น และตรวจค้นเข้าเมือง ทำให้ระยะเวลาแถวคอยในการให้บริการของทั้ง 6 ท่าอากาศยาน ลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ ส่งผลให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้รับการจัดลำดับจาก Skytrax ขึ้นลำดับจากเดิมลำดับที่ 68 ในปีที่ผมเข้ารับตำแหน่ง เป็นลำดับที่ 58 ในปี 25667 และก้าวกระโดดเป็นลำดับที่ 39 ในปี 2568 นี้ โดยอยู่ใน 1 ใน 50 ท่าอากาศยานที่ดีระดับโลก ตามที่ผมได้แสดงวิสัยทัศน์ไว้และตั้งเป็นตัวชี้วัดในการทำงาน ทำให้เป็นความภาคภูมิใจของชาวท่าอากาศยานไทยทุกคน
ในการดำเนินงานเพื่อพัฒนาองค์กร ผมได้ดำเนินงานเพื่อฟื้นฟูสถานะทางการเงินของบริษัทหลังจากที่ผ่านพ้นจากวิกฤตกาลโควิด โดยผลการดำเนินงานในงวดปี 2567 ท่าอากาศยานไทย มีปริมาณผู้โดยสารรวม 120 ล้านคน สูงขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 20 มีกำไรสุทธิ 19,182 ล้านบาท เติบโต 118.21% จากปี 2566 มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นถึง 10,391 ล้านบาท ทำให้สถานะทางการเงินของ ท่าอากาศยานไทย ดีขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญและฟื้นตัวได้อย่างเต็มรูปแบบ บัดนี้การขับเคลื่อนการพัฒนา ท่าอากาศยานไทย ได้ก้าวข้ามจากระยะการฟื้นฟูจากวิกฤตกาลโควิด เข้าสู่ระยะการพัฒนาและต่อยอด เพื่อขยายผลความสำเร็จต่อไป ประกอบกับผมมีเหตุผลความจำเป็นในด้านการดูแลครอบครัว ซึ่งงานในตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ เป็นงานที่ต้องใช้ความทุ่มเทอย่างเต็มเวลาและเต็มความสามารถ ผมจึงขอเปิดโอกาสให้มีการสรรหาผู้มีความรู้ความสามารถมาดำรงตำแหน่งต่อไป
ผมขอใช้โอกาสนี้ แสดงความขอบคุณท่านคณะกรรมการและเพื่อนๆพนักงานทุกท่าน ที่ให้ความร่วมแรงร่วมใจในการทำงานร่วมกันมาตลอด 2 ปี ทำให้เกิดบรรยากาศการทำงานที่ดีร่วมกัน ทำให้ท่าอากาศยานไทยเป็นเหมือนบ้านหลังที่สองของผมที่อบอุ่น และมีความสุขในการทำงาน ผมขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านช่วยกันขับเคลื่อน ท่าอากาศยานไทย ให้เจริญก้าวหน้า ยกระดับสู่การเป็นองค์กรการบินระดับโลก ให้สัมฤทธิ์ผลในเวลาอันใกล้ต่อไป
ด้วยรักและเคารพ
ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์
ที่มา สำนักข่าวอิศรา ( isranews.org )