ต.ค. 68 เตรียมสแกนจ่ายค่ารถเมล์ ขสมก.ผ่านแอปฯ เผยค่างานระบบบริหาร 52 ล.

‘ผู้อำนวยการขสมก.’ แย้ม ต.ค. 68 เตรียมพร้อมสแกนจ่ายค่าโดยสารรถเมล์ผ่านแอปฯขององค์กร หลังซุ่มทำตั้งแต่เม.ย. 67 ชี้จะเป็นซูเปอร์แอปที่รองรับการชำระเงินผ่านทุกช่องทาง ขณะที่การทดลองยังพบปัญหา 2 ประการคือ ขั้นตอนลงทะเบียนในแอปฯเยอะไป กับแบงก์พาณิชย์คิดค่าธรรมเนียม 5 บาท/ 1 การสแกน จ่อหารือขอเว้น พร้อมทำหนังสือถึง ‘คมนาคม’ ขอ ‘แบงก์ชาติ’ ช่วยกล่อมอีกทาง เผยการทำแอปฯรวมอยู่ในค่างานพัฒนาระบบริหาร วงเงิน 52 ล้านบาท

สำนักข่าวอิศรา . รายงานว่า วันที่ 28 เมษายน 2568 นายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2568 ขสมก.ร่วมกับบริษัท เทคฟอร์จ โกลบอล จำกัด ได้ทำการสาธิตระบบชำระค่าโดยสารผ่านแอปพลิเคชัน BMTA App ซึ่งเป็นแอพลิเคชั่นใหม่ของ ขสมก.

ผู้อำนวยการขสมก.ระบุว่า แต่จากการทดสอบเบื้องต้น พบว่ายังมีบางอย่างที่อาจจะทำให้ประชาชนยังไม่ได้รับความสะดวกเท่าที่ควรอย่างน้อย 2 ประการ ได้แก่ การลงทะเบียนในแอปพลิเคชั่น ซึ่งพบว่าต้องกรอกข้อมูลเยอะมาก แม้คณะทำงานของขสมก.จะบอกว่า จำเป็น แต่เมื่อสร้างขั้นตอนเยอะ ประชาชนก็อาจจะไม่ใช้บริการ กับ 2. การจ่ายผ่านคิวอาร์โค้ตที่จะต้องหักผ่านระบบ Mobile Banking ของแต่ละธนาคาร พบว่า ธนาคารพาณิชย์แต่ละแห่งมีการคิดค่าธรรมเนียมการจ่ายผ่านวิธีนี้ 5 บาท/ครั้ง ซึ่งหากเป็นรถโดยสารร้อน (ครีม/แดง) ที่ค่าโดยสาร 8 บาทตลอดสาย ก็ไม่พอต้นทุนอยู่แล้ว พอถูกคิดค่าธรรมเนียมการโอนเพิ่ม ก็อาจจะทำให้ค่าใช้จ่ายของ ขสมก.สูงขึ้น จึต้องเจรจากับธนาคารพาณิชย์ หรือไม่ก็หาทางที่จะไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมนี้

“ปัจจุบันรถเมล์ขสมก.สามารถจ่ายได้หลายแบบทั้งเงินสด บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตร Eเอ็มวี บัตรโดยสารขสมก. ส่วนการสแกนจ่าย ตอนนี้รองรับเฉพาะแอปทรูมันนี่และแอปเป๋าตังค์ ขสมก.ก็ต้องหาทางที่จะทำให้การจ่ายค่าโดยสารแพร่หลายมากที่สุด แม้กระทั่งการจ่ายแบบ Eเอ็มวี ก็กำลังเก็บข้อมูลาปรับแก้ คาดว่าการจ่ายค่าโดยสารผ่านระบบคิวอาร์โค้ตจะสามารถทำได้ในช่วงเดือน ต.ค.นี้” ผู้อำนวยการขสมก.กล่าว

เครื่อง EDC

@เมินคนวิจารณ์แอปเกลื่อน ชี้เป็น ‘ซูเปอร์แอปฯ'

เมื่อถามว่า แต่มีการวิจารณ์ว่า ขสมก.ทำแอปเยอะมาก เวลาค้นหาใน App Retailer หรือ Google Play การพัฒนาแอปใหม่นี้จะเป็นสิ้นเปลืองหรือไม่ นายกิตติกานต์ตอบว่า แอปที่เห็นก็เป็นแอปเก่าๆที่พัฒนากันมาก่อนที่จะเข้าเป็นผู้อำนวยการขสมก. จึงได้สั่งการทำซูเปอร์แอป เป็นแอปเดียวที่รวมการบริการต่างๆไว้ เช่น แอปนำทาง ซื้อตั๋วโดยาร GPS เป็นต้น

ส่วนการพัฒนาแอปพลิเคชั่น หากแล้วเสร็จเครื่องรูดบัตรเคลื่อนที่ (Mobile EDC) ที่พนักงานจัดเก็บค่าโดยสารต้องห้อยคอไว้ ต้องยกเลิกหรือไม่ นายกิตติกานต์ตอบว่า เครื่องดังกล่าวไม่ใช่ระบบของขสมก.เป็นของธนาคารกรุงไทย ซึ่งมีไว้เพื่อรองรับการใช้งานผ่านนโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยตอนนี้ยังอยู่ในระยะเวลาสัญญา คาดว่าปลายปีนี้ จะยุบเลิกระบบนี้ไปรวมกับแอปพลิเคชั่นที่กำลังพัฒนา ซึ่งขสมก.สามารถบอกเลิกสัญญากับธาคารกรุงไทยได้เลย และไม่มีผลกระทบอะไร

นายกิตติกานต์กล่าวต่อว่า ขณะนี้ ขสมก.กำลังเก็บรายละเอียดและรวบรวมปัญหาที่เกิดขึ้นจากการทดลองระบบไปประมวล และแก้ปัญหาให้ครบ ซึ่งจะทยอยทำอินโฟกราฟฟิกสื่อสารให้ประชาชนเข้าใจง่ายๆ ส่วนการลงทุนเพิ่มเติมยังไม่มี ดูแต่การเชื่อมโยงกับระบบ Mobile Banking เท่านั้น ขสมก.มีแผนจะเข้าไปเจรจากับธนาคารแต่ละแห่งอยู่ คาดว่าประมาณสัปดาห์หน้าจะเริ่มเจรจากับธนาคารแต่ละแห่ง โดยหลักการคงคุยกันแบบตัวต่อตัว ไม่ใช่การหารือรวมกลุ่ม แต่อีกด้านหนึ่ง ขสมก.ก็จะทำหนังสือไปถึงกระทรวงคมนาคม เพื่อทำหนังสือถึงธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ขอหารือในประเด็นนี้ด้วย เพราะรถโดยสารประจำทางเป็นกิจการที่ไม่มีกำไรอยู่แล้ว น่าจะยกเว้นค่าธรรมเนียมได้

“ต่อไป พนักงานจัดเก็บค่าโดยสารก็ใชมือถือเครื่องเดียวในการทำงานได้ ไม่ต้องถือเครื่อง EDC อีก ในหลักการ ขสมก.ก็จะลดการใช้เงินสดลงไปให้เหลือน้อยที่สุด เพื่อความโปร่งใและความรัดกุมในการจัดเก็บรายได้จากค่าโดยสารด้วย แต่คงยกเลิกไม่รับเงินสดไม่ได้ เพราะก็ยังมีคนบางส่วนที่ไม่สะดวกจ่ายผ่านระบบที่ทำขึ้น นอกจากนี้ แอปที่เรากำลังทำก็รองรับระบบตั๋วร่วมไว้เรียบร้อยแล้ว” ผู้อำนวยการขสมก.ระบุ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการจัดทำแอปพลิเคชั่นดังกล่าวอยู่ภายใต้ขอบเขตงานจ้างพัฒนาระบบบริหารจัดการ ขสมก. ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) และเอกสารประกวดราคาด้วยวิธี ประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-Bidding) เลขที่ 05/2567 ลงวันที่ 22 ก.พ. 2567 โดยประกาศผลผู้ชนะเมื่อวันที่ 11 เม.ย. 2567 มี บริษัท เทคฟอร์จ โกลบอล จำกัด เป้นผู้เสนอราคาต่ำสุดที่ 52,200,000 บาท จากราคากลาง 54,972,500 บาท

โดยงานพัฒนาแอปพลิเคชั่น มีระบุในทีโออาร์ข้อที่ 5.18.3.4 ว่า จะต้องมีหน้าจอสำหรับสร้างข่าวสาร, มีหน้าจอให้ผู้โดยสารร้องเรียนการให้บริการได้, รองรับการชำระค่าโดยสารผ่านระบบ Pockets ต่างๆ โดยระบุเที่ยวรถ, สายเดินรถ, ราคา, เป็นต้น

กิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.)