แชร์ลิ้งค์นี้ : https://ด่วน.com/t3zx | ดู : 10 ครั้ง
ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัย-haifa,-duke-university-และ-college-de

ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัย Haifa, Duke University และ Collège de France ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) วิเคราะห์ลักษณะภาษาในหนังสือเก่าแก่ 9 เล่มแรกของพันธสัญญาฉบับภาษาฮีบรู เพื่อตรวจสอบว่าเนื้อหาใดมาจากกลุ่มผู้เขียนชุดใด โดยเน้นที่การเปรียบเทียบ ‘ความถี่ของคำ’ และ ‘รูปแบบการใช้คำ’ เช่น คำว่า no, which หรือ king แทนการวิเคราะห์หลักไวยากรณ์
.
ผลการวิเคราะห์ของ AI ตรงกับข้อสันนิษฐานทางวิชาการถึง 84% โดยเฉพาะในบทที่มีความยาว ซึ่งมีการจับคู่สไตล์การเขียนของบทต่าง ๆ กับงานวิจัยเดิม ตัวอย่างเช่น บางส่วนของ Samuel แสดงความต่างชัดเจนระหว่าง 1 Samuel และ 2 Samuel โดย 1 Samuel มีสไตล์ที่ไม่เข้ากับกลุ่มหลัก ในขณะที่ 2 Samuel ใกล้เคียงกับกลุ่ม Deuteronomist Historical past ซึ่งเป็นผลที่สอดคล้องกับแนวคิดเสียงส่วนน้อยในวงวิชาการ
.
นอกจากนี้ยังพบว่าบางเรื่องในพันธสัญญาฮีบรู เช่นเรื่องเกี่ยวกับ Abraham หรือ Guide of Esther ใช้ภาษาที่แตกต่าง จึงเป็นไปได้ว่าผลงานเหล่านั้นถูกแต่งขึ้นภายหลังโดยผู้เขียนกลุ่มอื่น ซึ่งไม่ใช่ส่วนหนึ่งของสามกลุ่มหลักที่ถูกวิเคราะห์
.
ทั้งนี้ นักวิจัยเน้นว่า AI ไม่สามารถบ่งบอกชื่อบุคคลผู้เขียนจริง (ในความหมายแบบสมัยใหม่) ได้ เนื่องจากหนังสือเหล่านี้ได้รับการแต่งซ่อมแซมและแก้ไขจากนักเรียบเรียงหลายยุคหลายสมัย (redactors) โดยเป้าหมายหลักของงานวิจัยคือการทดสอบสมมติฐานเกี่ยวกับ ‘กลุ่มผู้เขียนง มากกว่าบุคคล
.

อ่านเพิ่มเติม https://ngthai.com/cultures/78303/ai-displays-hidden-language-bible/
.
#NationalGeographicThailand AI ปัญญาประดิษฐ์ ศาสนาคริสต์

RSS)
ที่มา : Nationwide Geographic Thailand's

ผู้เรียบเรียง

ให้คะแนนความพอใจของคุณ :

0 / 5 คะแนน 0

คุณให้คะแนน:

แชร์ลิ้งค์นี้ : https://ด่วน.com/t3zx | ดู : 10 ครั้ง
  • No recent comments available.

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *


Share via
Click to Hide Advanced Floating Content
Send this to a friend