
เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2568 สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA แจ้งว่า การปะทุบนดวงอาทิตย์เมื่อวันที่ 30-31 พฤษภาคม 2568 บริเวณจุดมืด AR4100 ได้ปล่อยทั้งเปลวสุริยะ (Solar Flare) ซึ่งข้อมูลจากเซนเซอร์ของ GISTDA ตรวจพบพายุสนามแม่เหล็กโลกระดับปานกลาง (G3) บริเวณประเทศไทย ซึ่งมีสาเหตุมาจากการปะทุของมวลสารจากดวงอาทิตย์ (Coronal Mass Ejection – CME) ที่ปล่อยออกมาจากบริเวณจุดมืด AR4100
.
รายงานระบุว่า สนามแม่เหล็กโลกที่ตรวจวัดได้ในประเทศไทยโดยใช้ค่าดัชนี Local Okay index มีค่าสูงถึง 7 จากระดับสูงสุดที่ 9 สะท้อนถึงการรบกวนของสนามแม่เหล็กโลกในระดับรุนแรงปานกลาง ซึ่งมีโอกาสส่งผลกระทบ ได้แก่ การรบกวนของสัญญาณระบบนำร่องผ่านดาวเทียมทำให้ความแม่นยำลดลงชั่วคราว/ การรบกวนของสัญญาณคลื่นวิทยุความถี่สูง (HF) และการปฏิบัติการของระบบดาวเทียม
.
ทั้งนี้ ในช่วงปี 2568 ยังคงอยู่ในช่วงสูงสุดของวัฏจักรสุริยะรอบที่ 25 (Solar Cycle 25) ซึ่งหมายถึงกิจกรรมของดวงอาทิตย์ เช่น การเกิดจุดมืดและการปะทุจะยังคงเกิดขึ้นถี่และรุนแรง
.
ก่อนหน้านี้ GISTDA ได้แจ้งว่า การปะทุบนดวงอาทิตย์เมื่อวันที่ 30-31 พฤษภาคม 2568 บริเวณจุดมืด AR4100 ได้ปล่อยทั้งเปลวสุริยะ (Solar Flare) และมวลโคโรนาขนาดใหญ่ (Coronal Mass Ejection – CME) ที่มีทิศทางพุ่งตรงมายังโลก CME ดังกล่าวคาดว่าจะถึงโลกในวันที่ 1 มิถุนายน 2568 และอาจก่อให้เกิดพายุสนามแม่เหล็กระดับรุนแรงหรือ G4 (NOAA scale) ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อระบบนำทาง ระบบการสื่อสารชั่วขณะ และการปฏิบัติการของระบบดาวเทียม
.
นอกจากนี้ ปรากฏการณ์พายุแม่เหล็กโลกครั้งนี้จะทำให้เกิดปรากฏการณ์แสงออโรรา (Aurora)หลากสีเป็นบริเวณกว้างในพื้นที่ใกล้ขั้วโลกและเขตละติจูดสูง สำหรับประเทศไทยไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากเหตุการณ์นี้
.
ที่มา
สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน)
SDO / SWPC NOAA / ESA Jhelioviwer/Solarham
.
#NationalGeographicThailand
RSS)
ที่มา : National Geographic Thailand's