
‘กรมพัฒนาธุรกิจการค้า-ผู้ว่าฯราชบุรี’ แจง ‘คนต่างด้าว’ ประกอบกิจการโรงงาน ‘ผลิตน้ำมะพร้าว’ ในไทยได้ ไม่ต้องขออนุญาต ‘ประกอบธุรกิจคนต่างด้าวฯ’ ชี้เป็น ‘ธุรกิจผลิต’ ไม่อยู่ในบัญชีแนบท้าย ‘พ.ร.บ.ประกอบธุรกิจคนต่างด้าว' ไม่มีการจำหน่ายในประเทศไทย หลังพบ 2 ผู้ถือหุ้นใหญ่ ‘บ.บอร์ด โคโค่นัท’ จ.ราชบุรี ถือสัญชาติ ‘เกาะเคย์แมน-เวอร์จิน’
……………………………………
จากกรณีที่ น.ส.ฐิติลักษณ์ คำพา ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ได้รับเรื่องร้องเรียนจากเกษตรกรผู้ปลูกมะพร้าว ว่า บริษัท บอร์ด โคโค่นัท จำกัด ตั้งอยู่ ณ เลขที่ 334 หมู่ที่ 8 ต.ดอนกรวย อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี และบริษัท บอร์ด โคโค่นัท จำกัด ตั้งอยู่ ณ เลขที่ 154 หมู่ 10 ต.วัดแก้ว อ.บางแพ จ.ราชบุรี มีการประกอบกิจการผลิตน้ำมะพร้าวปลอม จึงมอบหมายนายพุทธพงษ์ สุริยะสิงห์ รองผู้ว่าฯ จ.ราชบุรี นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบโรงงานผลิตน้ำมะพร้าวดังกล่าว
โดยผลการตรวจสอบพบว่า บริษัท บอร์ด โคโค่นัท จำกัด ตั้งอยู่ ณ เลขที่ 154 หมู่ 10 ต.วัดแก้ว อ.บางแพ จ.ราชบุรี ซึ่งประกอบกิจการโรงงานผลิตน้ำมะพร้าว และบรรจุในภาชนะที่ผนึกและอากาศเข้าไม่ได้ ไม่แสดงใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานฯ จึงเข้าข่ายฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ.2535 สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดราชบุรี จึงสั่งระงับการกระทำที่ฝ่าฝืน พร้อมดำเนินการตามบทลงโทษในส่วนที่กระทำผิดต่อไป
ในขณะที่ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่า บริษัท บอร์ด โคโค่นัท จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 22 พ.ค.2566 ทุนจดทะเบียนล่าสุด 34 ล้านบาท สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่เลขที่ 334 หมู่ที่ 8 ต.ดอนกรวย อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี สำนักงานสาขา ตั้งอยู่ (1) เลขที่ 154 หมู่ที่ 10 ต.วัดแก้ว อ.บางแพ จ.ราชบุรี แจ้งลักษณะธุรกิจ (ล่าสุด) คือ ประกอบกิจการโรงงานอุตสาหกรรม แปรรูปอาหารและเครื่องดื่มน้ำผลไม้จากผลผลิตการเกษตร ส่งออก
ปรากฏรายชื่อกรรมการ 2 ราย ได้แก่ 1.หลิว เทียนเฉิง (สัญชาติจีน) และนายหยู ทา (สัญชาติจีน) จำนวนหรือชื่อกรรมการซึ่งลงชื่อผูกพันบริษัทได้ คือ กรรมการคนหนึ่งลงลายมือชื่อ และประทับตราสำคัญของบริษัท นั้น (อ่านประกอบ : ‘กก.’เป็น‘ชาวจีน’! บุกตรวจโรงงาน‘ผลิตน้ำมะพร้าว’ราชบุรี ไม่แสดง‘ใบอนุญาตฯ’-จ่อดำเนินคดี)
สำนักข่าวอิศรา . รายงานว่า จากข้อมูลแบบ องค์การบริหารส่วนจังหวัด5 ของ บริษัท บอร์ด โคโค่นัท จำกัด ซึ่งบริษัทฯแจ้งไปยังกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า บริษัท บอร์ด โคโค่นัท จำกัด มีผู้ถือหุ้น 2 ราย ได้แก่ 1.ไอ เอ็ม โคโค่ เคย์แมน คอมพานี ลิมิเต็ด ตั้งอยู่ที่ หมู่เกาะเคย์แมน ถือหุ้น 17,340 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 51% และ 2.บริษัท บอร์ดโคโค่ วาย จำกัด ตั้งอยู่ที่หมู่เกาะเวอร์จิน (สหรัฐ) ถือหุ้น 16,660 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 49%
น.ส.ฐิติลักษณ์ เปิดเผยกับสำนักข่าวอิศราว่า จากการตรวจสอบกับทางพาณิชย์จังหวัด ได้ความว่า แม้ว่า บริษัท บอร์ด โคโค่นัท จำกัด จะมีสถาะเป็นนิติบุคคลต่างด้าว 100% แต่บริษัทฯดังกล่าว สามารถประกอบกิจการโรงงานผลิตน้ำมะพร้าวในประเทศไทยได้ โดยไม่ต้องขออนุญาตประกอบกิจการธุรกิจคนต่างด้าว เพราะเป็นการผลิตน้ำมะพร้าวบรรจุในถุง (บรรจุในภาชนะที่ผนึกและอากาศเข้าไม่ได้) เพื่อส่งออกไปยังประเทศจีน ไม่มีการจำหน่ายในประเทศไทยแต่อย่างใด
“เขาไม่ได้ขายในเมืองไทย และเขาก็ไม่ได้ผลิต แล้วบรรจุขวดที่เมืองไทยด้วย เขาเพียงแต่รับซื้อน้ำมะพร้าวเป็นถุงใหญ่ๆ แล้วเอามาต้ม จากนั้นบรรจุเป็นถุงขนาด 5 กิโลกรัม แล้วแช่แข็ง ก่อนส่งออกไปยังต่างประเทศ ส่วนขวดที่เขานำมาแสดงนั้น เขาบอกว่า เขาเพียงแต่เอามาโชว์ให้ลูกค้าดู เพราะจริงๆแล้ว เขาผลิต (น้ำมะพร้าว) แล้วนำไปบรรจุขวดที่เมืองจีน จึงไม่ต้องขออนุญาตประกอบกิจการธุรกิจคนต่างด้าวแต่อย่างใด” น.ส.ฐิติลักษณ์ กล่าว
น.ส.ฐิติลักษณ์ กล่าวถึงกรณีที่ชาวสวนมะพร้าวร้องเรียนว่า น้ำมะพร้าวที่บริษัทฯดังกล่าวผลิตและส่งออกไปยังประเทศจีนนั้น อาจไม่ใช่น้ำมะพร้าวแท้ 100% ซึ่งอาจทำให้เสียชื่อเสียงน้ำมะพร้าวจากประเทศไทยได้ ว่า ตรงนี้เป็นประเด็นที่ชาวสวนฯกังวลว่า หากไม่ใช่น้ำมะพร้าว 100% ก็เกรงว่าจะเป็นการทำลายชื่อเสียงของน้ำมะพร้าวไทย ซึ่งตรงนี้คงต้องเข้าไปตรวจสอบ โดยอยู่ระหว่างประสานงานกับส่วนราชการในระดับกรมว่า จะเข้าไปตรวจสอบอย่างไรได้บ้าง
“เนื่องจากเขาเป็นโรงงานผลิตสินค้าที่ไม่ได้ขายในประเทศไทย แม้ว่าเขาได้ขออนุญาตจาก อย. ในเรื่องการผลิตอาหาร แต่เขาไม่ได้ขออนุญาตเรื่องประเภทของผลิตภัณฑ์จาก อย. ดังนั้น จึงไม่สามารถแยกในรายละเอียดได้ว่า ผลิตภัณฑ์ของเขามีส่วนผสมอะไรบ้าง แล้วเวลาส่งไปขายต่างประเทศ ถ้าประเทศปลายทาง ไม่ได้ต้องการใบอนุญาตประเภทนี้ เขาก็ไม่ต้องขออนุญาต อย. เกี่ยวกับประเภทผลิตภัณฑ์ เรื่องนี้ จึงต้องขึ้นอยู่ที่ประเทศปลายทางด้วย” น.ส.ฐิติลักษณ์ ระบุ
น.ส.ฐิติลักษณ์ กล่าวด้วยว่า การที่หน่วยงานภาครัฐไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ว่า น้ำมะพร้าวที่โรงงานผลิตน้ำมะพร้าวแห่งนี้ ผลิตเพื่อส่งออกไปต่างประเทศนั้น เป็นน้ำมะพร้าวแท้ 100% หรือไม่ หรือมีส่วนผสมอย่างอื่นด้วย ถือเป็นช่องว่างที่ต้องได้รับการแก้ไข เพราะปัจจุบันอำนาจของ อย. ไปไม่ถึงตรงนั้น และทราบว่า ขณะนี้บริษัทฯดังกล่าว อยู่ระหว่างการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ)
ส่วนกรณีที่ชาวสวนฯ กังวลเกี่ยวกับผลผลิตมะพร้าวมีราคาตกต่ำ และมีแนวโน้มว่าราคาอาจจะต่ำกว่าลูกละ 4 บาท เนื่องจากมีโรงงานผลิตน้ำมะพร้าวที่ไม่ได้มาตรฐานตาม อย.กำหนด นั้น น.ส.ฐิติลักษณ์ ระบุว่า เป็นการคาดการณ์ของชาวสวนฯ แต่ในข้อเท็จจริงแล้ว สาเหตุที่ทำให้ราคาผลผลิตมะพร้าวตกต่ำนั้น เป็นเพราะปีนี้มีผลผลิตมะพร้าวออกมาเป็นจำนวนมาก ประกอบกับมีปัญหาขาดแคลนแรงงานปอกผลมะพร้าว ซึ่งการปอกมะพร้าวต้องใช้ทักษะพอสมควร
“ตอนนี้ท่าน รมว.พาณิชย์ (นายจตุพร บุรุษพัฒน์) ได้ลงมาดูแล โดยเราจะพยายามกระจายสินค้าไปในภาคส่วนต่างๆ” น.ส.ฐิติลักษณ์ กล่าว
น.ส.ฐิติลักษณ์ กล่าวถึงการดำเนินการกรณีโรงงานผลิตน้ำมะพร้าวของ บริษัท บอร์ด โคโค่นัท จำกัด จำนวน 1 แห่ง จากทั้งหมด 2 แห่ง ไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน ทราบว่า โรงงานดังกล่าวอยู่ระหว่างขอใบอนุญาตฯ แต่ประกอบกิจการฯก่อนโดยที่ยังไม่ได้รับใบอนุญาต ซึ่งอุตสาหกรรมจังหวัดราชบุรี ได้ออกคำสั่งปิดโรงงานแห่งนี้แล้ว เนื่องจากเป็นการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรา 12 แห่ง พ.ร.บ.โรงงานฯ และส่งเรื่องให้กระทรวงอุตสาหกรรมดำเนินการเปรียบเทียบ ซึ่งมีบทลงโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ขณะที่ นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวกับสำนักข่าวอิศราว่า จากกรณีข่าวบุกตรวจโรงงานผลิตน้ำมะพร้าวที่ จ.ราชบุรี และพบกรรมการเป็นชาวจีน นั้น จากการตรวจสอบฐานข้อมูลนิติบุคคล พบว่า บริษัท บอร์ด โคโค่นัท จำกัด มีสถานะต่างด้าว 100% โดยมีนิติบุคคลต่างประเทศ 2 รายถือหุ้น คือ นิติบุคคลสัญชาติหมู่เกาะเคย์แมน และนิติบุคคลสัญชาติหมู่เกาะเวอร์จิน (สหรัฐ)
ทั้งนี้ ข้อมูลการนำส่งงบการเงิน ณ รอบปีบัญชี 2567 บริษัทฯ แจ้งว่า ประกอบกิจการโรงงานอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารและเครื่องดื่ม จึงเป็นธุรกิจผลิต ที่อยู่นอกบัญชีท้าย พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 ซึ่งทำให้บุคคลคนต่างด้าวสามารถประกอบธุรกิจดังกล่าวได้
อ่านประกอบ :
‘กก.’เป็น‘ชาวจีน’! บุกตรวจโรงงาน‘ผลิตน้ำมะพร้าว’ราชบุรี ไม่แสดง‘ใบอนุญาตฯ’-จ่อดำเนินคดี
ที่มา สำนักข่าวอิศรา ( isranews.org )