
ราชกิจจานุเบกษา แพร่ประกาศโปรดเกล้าฯ ‘สราวุธ ทรงศิวิไล' เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ แทน ‘ปัญญา อุดชาชน' 2 ก.ย.68 – ‘มงคล สุระสัจจะ' ประธานวุฒิสภา ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ 30 ส.ค.68 หลังผลคำวินิจฉัยตัดสินคดีจริยธรรม ‘แพทองธาร ชินวัตร' 29 ส.ค.68
สำนักข่าวอิศรา . รายงานว่า เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2568 ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ราย นายสราวุธ ทรงศิวิไล แทนนายปัญญา อุดชาชน ณ วันที่ 30 สิงหาคม 2568 หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญ อ่านคำวินิจฉัยตัดสินคดีจริยธรรม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ที่ผ่านมา
ประกาศระบุว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ประกาศว่าตามที่ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง นายปัญญา อุดชาชน เป็นตลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตามประกาศลงวันที่ 26 พฤศจิกายน 2558 นั้น
ต่อมา นายปัญญา อุดชาชน ได้พ้นจากตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง เป็นเหตุให้ตำแหน่งว่างลง
บัดนี้ วุฒิสภาได้ให้ความเห็นชอบ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ผู้มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มาตรา 200 (5) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 200 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบมาตรา 8 และมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง นายสราวุธ ทรงศิวิไล เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 30 สิงหาคม พุทธศักราช 2568 เป็นปีที่ 10 ในรัชกาลปัจจุบัน
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
นายมงคล สุระสัจจะ
ประธานวุฒิสภา (ดูเอกสารประกอบ)
https://ratchakitcha.soc.wander.th/documents/84878.pdf
ขณะที่ในช่วงบ่ายวันที่ 2 กันยายน 2568 ปรากฏข่าวว่า 20 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) พรรคเพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 เสียงวินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยอ้างว่า ปรากฏข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญที่อาจส่งผลต่อความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวคือ เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญนั้น ได้มีประกาศwระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งนายสราวุธ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม แล้ว
แม้ตามมาตรา 27 วรรคสอง แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 จะบัญญัติให้ตุลาการศาลรัฐธรรมญที่พันจากตำแหน่งตามวาระ ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่แต่งตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่ก็ตาม แต่เนื่องจากเรื่องพิจารณาที่ 17/2568 เป็นคดีที่มีความสำคัญกับการวินิจฉัยว่าความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงหรือไม่ ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศwระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่พ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว เข้าพิจารณาคดีที่มีความสำคัญดังกล่าวด้วย
ขณะที่ ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ราย นายสราวุธ ทรงศิวไล แทนนายปัญญา อุดชาชน เป็นทางการ เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2568 ประกาศ ณ วันที่ 30 สิงหาคม 2568
ที่มา สำนักข่าวอิศรา ( isranews.org )