
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) รับถ้วยพระราชทานฯ สถานประกอบกิจการต้นแบบบริหารจัดการแรงงานยอดเยี่ยมปี 2568
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ตอกย้ำความมุ่งมั่นการบริหารจัดการแรงงานด้วยความรับผิดชอบ เคารพสิทธิมนุษยชน สอดคล้องตามมาตรฐานแรงงานของไทยและระดับสากลอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ในปีนี้ โรงงานผลิตอาหารสัตว์บกธารเกษม จังหวัดสระบุรี ได้รับรางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี “รางวัล Thailand Labour Management Excellence Award 2025” และ โรงงานแปรรูปเนื้อไก่โคราช จังหวัดนครราชสีมา ได้รับรางวัลเกียรติยศสูงสุดสถานประกอบกิจการที่ธำรงรักษาระบบมาตรฐานแรงงานไทยต่อเนื่อง 15 ปีประจำปี 2568
พิธีมอบรางวัลจัดโดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน ณ สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต เพื่อยกย่องสถานประกอบกิจการที่มีการบริหารจัดการด้านแรงงานที่เป็นมาตรฐานสากล โดยมีนายเรวัติ หทัยสัตยพงศ์ ผู้อำนวยการใหญ่ ธุรกิจอาหารสัตว์บก ซีพีเอฟ และนายภาณุวัตร เนียมเปรม ผู้อำนวยการใหญ่ ธุรกิจไก่เนื้อ-เป็ดเนื้อครบวงจร เข้ารับรางวัล นอกจากนี้ สถานประกอบกิจการซีพีเอฟอีก 12 แห่ง ยังได้รับรางวัลสถานประกอบกิจการดีเด่นด้านแรงงานสัมพันธ์และสวัสดิการแรงงาน ประจำปี 2568 อีกด้วย
นายเรวัติ หทัยสัตยพงศ์ ผู้อำนวยการใหญ่ ธุรกิจอาหารสัตว์บก ซีพีเอฟ กล่าวว่า ซีพีเอฟยึดมั่นในความเชื่อที่ว่า “พนักงานคือทรัพยากรที่มีค่าที่สุด” จึงให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการสร้างงานที่มีคุณค่า พร้อมทั้งจัดให้มีสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีและปลอดภัย สร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพนักงาน ตลอดจนสวัสดิการที่ครอบคลุมทุกมิติ เพื่อสนับสนุนให้พนักงานทุกคนสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีคุณภาพชีวิตที่ดี และเติบโตไปพร้อมกับองค์กร แนวทางดังกล่าวถือเป็นรากฐานสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้ก้าวหน้าอย่างยั่งยืน เป็นการสานต่อเจตนารมณ์การดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบตาม “หลัก 3 ประโยชน์” ของนายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ ที่คำนึงถึงประโยชน์ต่อประเทศชาติ ประชาชน และองค์กร
“รางวัลพระราชทานฯ สถานประกอบกิจการต้นแบบบริหารจัดการแรงงานยอดเยี่ยม ประจำปี 2568 รวมถึงรางวัลสถานประกอบกิจการดีเด่นด้านแรงงานสัมพันธ์และสวัสดิการแรงงานครั้งนี้ ถือเป็นบทพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของซีพีเอฟในการดูแลพนักงานอย่างเป็นธรรม เสมอภาค และเคารพสิทธิมนุษยชน อันสอดคล้องกับมาตรฐานแรงงานไทยและหลักสากล ยึดมั่นในหลัก 3 ประโยชน์เพื่อนำไปสู่ความยั่งยืน” นายเรวัติกล่าว
โรงงานผลิตอาหารสัตว์บกธารเกษม จังหวัดสระบุรี ได้รับรางวัลเกียรติยศสูงสุดในครั้งนี้ จากความสำเร็จในการบริหารจัดการแรงงานที่ได้มาตรฐานครบทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ การได้รับรองมาตรฐานแรงงานไทย (มรท. 8001) ระดับสมบูรณ์ การได้รับรางวัลสถานประกอบกิจการดีเด่นด้านแรงงานสัมพันธ์และสวัสดิการแรงงาน และมาตรฐานด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน โดยในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา โรงงานสามารถป้องกันอุบัติเหตุได้เป็นศูนย์ สะท้อนถึงการสร้างงานที่มีคุณค่าและความสุขแก่แรงงาน เสริมสร้างความสัมพันธ์ในองค์กร และสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพพนักงานให้เติบโตไปพร้อมกับองค์กรอย่างมั่นคง พร้อมทั้งเป็นต้นแบบในการบริหารจัดการแรงงานที่สร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม และเป็นแบบอย่างให้กับสถานประกอบกิจการอื่นๆ ต่อไป
ด้านนายภานุวัตร เนียมเปรม ผู้อำนวยการใหญ่ ธุรกิจไก่เนื้อ-เป็ดเนื้อครบวงจร ซีพีเอฟ กล่าวว่า โรงงานแปรรูปเนื้อไก่โคราช จังหวัดนครราชสีมา ได้รับรางวัลเกียรติยศสูงสุดสถานประกอบกิจการที่ธำรงรักษาระบบมาตรฐานแรงงานไทยต่อเนื่อง 15 ปีประจำปี 2568 ช่วยยืนยันว่าซีพีเอฟให้ความสำคัญกับพนักงาน และแรงงานทุกคน ทุกระดับอย่างเสมอภาคและเท่าเทียม ไม่เลือกปฏิบัติ เคารพสิทธิมนุษยชน เพราะพนักงานทุกคนเป็นทรัพย์สินที่มีคุณค่าในการขับเคลื่อนองค์กรเติบโตอย่างยั่งยืน
ที่ผ่านมา สถานประกอบการของซีพีเอฟ 4 แห่งได้รับถ้วยรางวัลพระราชทานฯ Thailand Labour Management Excellence Award ประกอบด้วย โรงเพาะฟักลูกกุ้งเจอาร์ 2 และเจอาร์ 3 จังหวัดตราด ในปี 2562 โรงเพาะฟักลูกกุ้งปะทิว จังหวัดชุมพร ในปี 2564 โรงงานผลิตอาหารสัตว์น้ำบ้านบึง จังหวัดชลบุรี และ โรงเพาะฟักลูกกุ้งท่าบอน จังหวัดสงขลา ได้รับในปี 2567
ที่มา สำนักข่าวอิศรา ( isranews.org )