ภัณฑิล เผย มีขบวนการพาคนสแกนม่านตา หักหัวคิว-นายหน้ารับแลกเหรียญคริปโต

ภัณฑิล น่วมเจิม สส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาชน ถาม ไชยชนก ชิดชอบ รมว.ดีอีเอส ไม่ไหร่จะปิดเครื่องสแกนม่านตา เชื่อ โยง ปม ติดสินบนเดือนละ 40 ล้าน เผย มีกระบวนการพาคนมา หักค่าหัวคิว นายหน้ารับแลกเหรียญคริปโต ร้อง ปปง.ตรวจสอบเส้นทางการเงิน – รังสิมันต์ โรม ประธาน กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐฯ สภาฯ ระบุ มีคนสแกนม่านตาไปแล้ว 1 ล้านคน คนละ 2,000 บาท รวมแล้วกว่า 2,000 ล้านบาท

สำนักข่าวอิศรา . รายงานว่า วันที่ 9 ตุลาคม 2568 ที่รัฐสภา นายภัณฑิล น่วมเจิม สส.กรุงเทพมหานคร ( กทม. ) พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร ว่า ขอหารือผ่านประธานสภาฯ ไปยังนายไชยชนก ชิดชอบ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กรณีสแกนม่านตารับเหรียญคริปโต ซึ่งขณะนี้คนไทยได้ขายม่านตาไปแล้วจำนวนหลักล้านคน ซึ่งในวันนี้ (9 ต.ค.68) ได้นำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เป็นประธาน

“สแกนม่านตาแล้วได้เหรียญประมาณ 1,000 กว่าบาท อันตรายมากสำหรับประชาชน การยินยอม เป็นการยินยอมแบบมีเงื่อนไข เนื่องจากชาวบ้านอยากได้เงิน สุดท้ายแล้วใครจะรับผิด หากมีความเสียหายเกิดขึ้น มีข้อมูลหลุดรั่วไหลออกไป นิติบุคคใดจะเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งยังไม่มีคำตอบจาก บริษัท ทูลลส์ ฟอร์ ฮิวแมนนิตี้ จำกัด”นายภัณฑิลกล่าว

นายภัณฑิลกล่าวว่า มีกระบวนการรับแลกเหรียญเป็นเรื่องเป็นราว พาคนมา หักค่าหัวคิว นายหน้ารับแลกเหรียญคริปโตซึ่งผิดกฎหมาย ทำไม่ได้ และสิทธิในการจะถอนความยินยอม จะทำอย่างไร

“เรื่องที่มาของเงิน ยกตัวอย่างเช่น แจกไปแล้ว 1 ล้านคน คูณ 1,000 บาท รวมเป็น 1,000 ล้านบาท ที่มาของเงินมาอย่างไร อยู่ดีๆใครจะมาแจกเงินให้ประชาชนฟรีๆ พันล้านบาท ต้องมีเส้นทางการเงิน จึงอยากจะเรียกร้องให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ไปสอบเส้นทางการเงิน เพราะเป็นการกระทำผิดกฎหมายหลายประเทศ”นายภัณฑิลกล่าว

นายภัณฑิลกล่าวว่า จากการลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่สำนักงานใหญ่ของบริษัท JIB ซึ่งมีเครื่องสแกนม่านตาติดอยู่พบว่ามีป้ายของบริษัท เอ็ม วิชั่น จำกัด (มหาชน) จึงอยากจะถามว่า บริษัท เอ็ม วิชั่น ฯ ที่มีผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นนิติบุคคลชื่อ บริษัท แคปปิตอล เอเชีย อินเวสท์เมนท์ส พีทีอี แอลทีดี (CAPITAL ASIA INVESTMENTS PTE LTD) จึงขอทวงถามนายไชยชนกว่า เกี่ยวข้องกับกรณีการออกมายอมรับในสภาหรือไม่ ว่า มีการเสนอให้สินบน 40 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งอันตรายและเป็นภัยความมั่นคงของประเทศเพราะเหตุใดจึงสามารถเปิดมาได้ถึง 3 เดือนและเมื่อไหร่จะถูกระงับเสียที

ด้านรังสิมันต์ ในฐานประธานกมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐ ฯ กล่าวถึงกรณีเดียวกันว่า วันนี้มีการซื้อขายข้อมูลชีวภาพ หรือ สแกนม่านตา โดยจ่ายกันเป็นเงินสกุลคริปโต มูลค่า 2,000 บาท ซึ่งเป็นการเลี่ยงกฎหมายว่า ไม่ใช่เป็นการซื้อขาย แต่เป็นการให้ หรือ แลกเปลี่ยนข้อมูลชีวมิติ ซึ่งสามารถนำไปสร้างตัวตนปลอมในโลกออนไลน์ได้ และอาจจะเป็นแหล่งที่มาสำคัญในการไปทำบัญชีม้า หรือ สแกมเมอร์ต่างๆได้ ซึ่งวันนี้มีคนสแกนม่านตาไปแล้วประมาณ 1 ล้านคน คิดเป็นเงิน 2,000 ล้านบาท ซึ่งมีทั้งคนไทยและต่างด้าว เพราะมีสถานะการเงินไม่ดี