ฟังคำชี้แจงจาก ปริ้นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล ในไทย เกี่ยวข้องหรือไม่กับปรินซ์กรุ๊ปของ เฉิน จื้อ

ที่มาของภาพ : HANDOUT/Artit Choatsajjanant

บจก.ปริ้นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล บอกว่ายินดีให้ทุกฝ่ายตรวจสอบเส้นทางการเงินของบริษัท

Article Files

    • Author, จิราภรณ์ ศรีแจ่ม
    • Role, ผู้สื่อข่าว.

บจก. ปริ้นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งจดทะเบียนในไทย ชี้แจงกับ.ว่า ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเครือปรินซ์ โฮลดิง กรุ๊ป (ปรินซ์กรุ๊ป) ของนายเฉิน จื้อ ซึ่งเพิ่งถูกสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับศูนย์สแกมเมอร์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และดำเนินมาตรการคว่ำบาตรทางการเงิน พร้อมกับยึดทรัพย์มูลค่าหลายแสนล้านบาท

แต่ทางบริษัทฯ ยอมรับว่าครั้งหนึ่งเคยเป็นพันธมิตรทางการค้ากับบริษัท บจก.ปรินซ์ เรียล เอทสเตท อินเวสเมนท์ ซึ่งมีสำนักงานอยู่ในไต้หวัน และทำธุรกิจเป็นนายหน้าเพื่อหาผู้ไปลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ของเครือบริษัทปรินซ์ โฮลดิง กรุ๊ป ในกัมพูชา

วันนี้ (20 ต.ค.) .เดินทางไปยังสำนักงานของ บจก.ปริ้นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งตั้งอยู่ในอาคารซิโน-ไทย ทาวเวอร์ ย่านอโศก และมีโอกาสได้ฟังคำชี้แจงจากตัวแทนบริษัทฯ ซึ่งไม่ประสงค์ให้เอ่ยชื่อและนามสกุลต่อสาธารณะ โดยทางตัวแทนบริษัทฯ ชี้แจงในหลายประเด็น

ทั้งนี้ เพื่อป้องกันความสับสน บทความนี้จะมีการกล่าวถึงบริษัทต่าง ๆ ที่มีชื่อคล้ายกัน 4 บริษัท ดังนี้

  • บจก. ปริ้นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล เป็นบริษัทจดทะเบียนในประเทศไทย นายหวัง ยู่ถัง ชาวไต้หวัน เป็นกรรมการบริษัท โดยตัวแทนของบริษัทที่ไม่ประสงค์ให้เอ่ยนาม เป็นผู้ชี้แจงข้อมูลกับทาง.ในวันนี้
  • บจก. ปรินซ์ เรียล เอทสเตท อินเวสเมนท์ เป็นบริษัทจดทะเบียนในไต้หวัน ครั้งหนึ่งนายหวัง ยู่ถัง เคยถือหุ้น
  • เครือบริษัทปรินซ์ โฮลดิง กรุ๊ป หรือ ปรินซ์กรุ๊ป เป็นเครือบริษัทในกัมพูชา ที่มีนายเฉิน จื้อ ชายเชื้อสายจีน สัญชาติสหราชอาณาจักรและกัมพูชา เป็นผู้บริหารและผู้ก่อตั้ง ทางการสหรัฐฯ ระบุเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า นายเฉิน จื้อ “ได้ทำให้กลุ่มปรินซ์กรุ๊ปเติบโต กลายเป็นหนึ่งในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย”
  • บจก. ปรินซ์ เรียล เอสเตท (กัมพูชา) กรุ๊ป เป็นบริษัทจดทะเบียนในกัมพูชา และอยู่ในเครือบริษัทปรินซ์ โฮลดิง กรุ๊ป ของนายเฉิน จื้อ

บจก.ปริ้นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล ยอมรับเคยเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ บจก.ปรินซ์ เรียล เอทสเตท อินเวสเมนท์ ในไต้หวัน แต่ปฏิเสธว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับเครือปรินซ์ โฮลดิง กรุ๊ป ในกัมพูชา

ตัวแทน บจก.ปรินซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเป็นชาวไทยชี้แจงกับ.ว่า บริษัทเริ่มทำธุรกิจในปี 2565 โดยจุดเริ่มต้นมาจากการชักชวนของ นายหวัง ยู่ถัง ซึ่งเป็นชาวไต้หวัน โดยในตอนนั้นนายหวังถือหุ้น บจก.ปรินซ์ เรียล เอทสเตท อินเวสเมนท์ ซึ่งมีสำนักงานตั้งอยู่ในกรุงไทเปของไต้หวันด้วย

Skip ได้รับความนิยมสูงสุด and continue discovering outได้รับความนิยมสูงสุด

Stop of ได้รับความนิยมสูงสุด

“ตอนนั้นได้เดินทางไปดูบริษัทปรินซ์ โฮลดิง กรุ๊ป ในกัมพูชา และเดินทางไปดูปรินซ์ เรียล เอทสเตท อินเวสเมนท์ ที่ไต้หวัน ทำให้เราเดินทางกลับมาเปิดบริษัทในไทยเมื่อปี 2566” พร้อมกับอธิบายว่าในห้วงเวลานั้น เครือปรินซ์ โฮลดิง กรุ๊ป เป็นบริษัทที่น่าเชื่อถือมาก เพราะมีธุรกิจในด้านการเงิน การธนาคาร อสังหาริมทรัพย์ และภาคบริการต่าง ๆ ครอบคลุมภาคส่วนต่าง ๆ

“เรียกได้ว่าปัจจัย 4 ของคนกัมพูชา ต้องใช้บริการของเครือบริษัทนี้” ตัวแทน บจก.ปริ้นซ์ฯ ในไทย อธิบาย และเล่าต่อว่า ประกอบกับพวกเขาทราบว่า นายเฉิน จื้อ ผู้บริหารเครือปรินซ์ โฮลดิง กรุ๊ป เป็นที่ปรึกษาของผู้นำกัมพูชา ยิ่งทำให้พวกเขามีความมั่นใจในช่องทางธุรกิจมากขึ้น และกลับมาเปิดบริษัทในไทย

ในช่วงเริ่มต้น ทาง บจก.ปริ้นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล รับหน้าที่เป็นนายหน้าหาลูกค้าในไทยที่สนใจไปลงทุนใน 2 โครงการของเครือปรินซ์ โฮลดิง กรุ๊ป ในกัมพูชา ได้แก่ โครงการปรินซ์ อินเตอร์เนชันแนล พลาซ่า ซึ่งเป็นพื้นที่ให้เช่าสำหรับผู้ประกอบการร้านค้าและร้านอาหารต่าง ๆ

อีกโครงการหนึ่ง คือ ปรินซ์ แฮปปีเนส พลาซ่า ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมที่ปล่อยขายให้กับลูกค้าที่ต้องการซื้อเพื่อไปให้เช่าต่อ โดยทางโครงการดังกล่าวมีการรับประกันผลตอบแทนประมาณ 6% ต่อปี ภายในระยะเวลา 5-6 ปี

แต่สุดท้าย บจก.ปริ้นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล ไม่สามารถปิดยอดการขายในโครงการดังกล่าวได้ เนื่องจากเผชิญปัญหาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านการตลาด การบริหารจัดการ ไปจนถึงประสบปัญหาตัวลูกค้าที่ไปเช่าพื้นที่ในโครงการปรินซ์ อินเตอร์เนชันแนล พลาซ่า เพื่อเปิดร้าน ไม่สามารถก่อสร้างร้านได้ตามระยะเวลาที่กำหนด จึงทิ้งการลงทุนไป ทำให้พวกเขาปิดดีลไม่สำเร็จ

ส่วนการเป็นนายหน้าหาลูกค้าในไทยไปซื้อคอนโดฯ ปรินซ์ แฮปปีเนส พลาซ่า ในกัมพูชา ก็พบว่ามีราคาสูงกว่าคอนโดมิเนียมที่เปิดขายในไทย ทำให้ลูกค้าไม่ค่อยสนใจมากนัก

เอกสารแนะนำโครงการปรินซ์ แฮปปีเนส พลาซ่า ในกัมพูชา

เมื่อพบว่าธุรกิจเป็นนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ในกัมพูชาไม่ประสบความสำเร็จ พวกเขาจึงเปลี่ยนทิศทางธุรกิจมาเป็นนายหน้าขายอสังหาริมทรัพย์ในไทย และในขณะนั้นเอง นายหวัง ยู่ถัง ซึ่งเป็นหุ้นส่วนของ บจก.ปรินซ์ เรียล เอทสเตท อินเวสเมนท์ ในกรุงไทเปอยู่ด้วย ก็นำข้อมูลโครงการต่าง ๆ ที่บริษัทปริ้นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล เป็นนายหน้าในไทย ส่งต่อไปให้บริษัทในไต้หวันและสหราชอาณาจักร โดยมองว่าเป็นอีกช่องทางหนึ่งสำหรับการโปรโมทหาลูกค้าต่างชาติ รวมถึงลงข้อมูลที่อยู่สำนักงานของ บจก.ปริ้นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนลในไทย บนเว็บไซต์ของ บจก.ปรินซ์ เรียล เอสเตท อินเวสเมนท์ ของไต้หวัน เพื่อสร้างความมั่นใจให้ลูกค้า

“เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าว่าเมื่อซื้อ เช่า หรือดำเนินการอะไรก็ตาม ก็จะมีออฟฟิศที่กรุงเทพฯ คอยเป็นผู้ดูแล หากคุณติดขัดหรือมีปัญหาอะไร” ตัวแทน บจก.ปริ้นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวกับ.

ที่มาของภาพ : Prince Staunch Estate Investment Co., Ltd.

สถานที่ตั้งสำนักงานในกรุงเทพฯ ซึ่งเคยระบุไว้ในหน้าเว็บเพจของ บจก.ปรินซ์ เรียล เอทสเตท อินเวสเมนท์ ซึ่งปัจจุบันหน้าเว็บเพจนี้ถูกลบออกไปแล้ว

ตัวแทน บจก.ปริ้นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล ในไทย บอกว่า นายหวังลาออกจากการเป็นหุ้นส่วน บจก.ปรินซ์ เรียล เอทสเตท อินเวสเมนท์ ในไต้หวันในช่วงคาบเกี่ยวปลายปี 2566 ถึงต้นปี 2567 และเหลือนั่งเป็นกรรมการบริษัท บจก.ปริ้นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล ในไทยเท่านั้น

นั่นถือเป็นจุดสิ้นสุดความเกี่ยวข้องกันระหว่าง บจก.ปริ้นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนลในไทย กับ บจก.ปรินซ์ เรียล เอทสเตท อินเวสเมนท์ ในกรุงไทเป หรือที่เรียกในอีกชื่อหนึ่งว่า “ไต้หวัน ปรินซ์ เรียล เอทสเตท อินเวสเมนท์” ตามคำบอกเล่าของตัวแทน บจก.ปริ้นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล ที่อธิบายกับ.

จากนั้นมา พวกเขาก็พบว่าลูกค้าไม่นิยมซื้ออสังหาฯ ผ่านนายหน้า เนื่องจากมีราคาสูงกว่าการขายที่ดำเนินการโดยเจ้าของโครงการหรือผู้พัฒนาโครงการโดยตรง ทำให้ทาง บจก.ปริ้นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนลในไทย หันมาทำธุรกิจเป็นนายหน้าเช่าอสังหาริมทรัพย์ เช่น บ้านมือสอง และคอนโดมิเนียมในไทยแทน

พวกเขาบอกว่าปัจจุบันมีอสังหาริมทรัพย์ประมาณ 3,000 หน่วยที่บริษัทดูแลอยู่ โดย 98% มีคนไทยเป็นเจ้าของ ขณะที่อีกประมาณ 2% เป็นคอนโดมิเนียมที่ผู้ถือครองเป็นชาวอเมริกันและอังกฤษ แต่ต้องการปล่อยให้เช่า

ตัวแทน บจก.ปริ้นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล ที่ชี้แจงข้อมูลกับ.บอกว่า จากข้อมูลที่พวกเขาทราบจากทาง ไต้หวัน ปรินซ์ เรียล เอทสเตท อินเวสเมนท์ ก่อนหน้านี้ คือบริษัทดังกล่าวไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับปรินซ์ โฮลดิง กรุ๊ป ของนายเฉิน จื้อ

.ถามแย้งว่า หาก บจก.ปรินซ์ เรียล เอทสเตท อินเวสเมนท์ ในไต้หวัน ไม่มีความเกี่ยวข้องกันกับเครือบริษัทปรินซ์ โฮลดิง กรุ๊ป ของนายเฉิน จื้อ แต่เหตุใดพวกเขาจึงใช้โลโก้บริษัทเครือปรินซ์กรุ๊ปบนเว็บไซต์ของตนเอง และเว็บไซต์ของ บจก.ปรินซ์ เรียล เอทสเตท อินเวสเมนท์

ตัวแทน บจก.ปริ้นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล บอกว่า พวกเขาไม่ทราบว่าเหตุใดเว็บไซต์ของบริษัทในไต้หวันจึงใส่ข้อมูลเช่นนั้น พร้อมกับย้ำว่าความเป็นพันธมิตรระหว่างพวกเขาจบลงไปแล้วนับตั้งแต่นายหวังลาออกจากการเป็นผู้ถือหุ้นบริษัทในไต้หวัน และที่จริงแล้ว บจก.ปริ้นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล ในไทยก็มีเว็บไซต์เป็นของตนเองแยกออกมาต่างหาก นั่นคือ http://princeth.com

ชี้แจงเหตุใดปิดเว็บไซต์และสื่อสังคมออนไลน์ของบริษัท หลังเครือปรินซ์ โฮลดิง กรุ๊ป ของนายเฉิน จื้อ ถูกจัดการ

ย้อนกลับไปในวันที่ 16 ต.ค. 2025 .ยังสามารถเข้าถึงเว็บไซต์และสื่อออนไลน์อื่น ๆ ของ บจก.ปริ้นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนลได้ แต่ทั้งหมดถูกปิดไปในเวลาต่อมา และไม่สามารถเข้าถึงได้ในช่วงสายของวันที่ 17 ต.ค.

ตัวแทน บจก.ปริ้นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล ชี้แจงว่าเมื่อสื่อต่าง ๆ รายงานคลาดเคลื่อนว่าบริษัทฯ อาจเชื่อมโยงกับเครือบริษัทปรินซ์ โฮลดิง กรุ๊ป ในกัมพูชา เนื่องจากมีชื่อคล้ายกัน และพบชื่อ บจก.ปริ้นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล ในเว็บไซต์ “ไต้หวัน ปรินซ์ เรียล เอทสเตท อินเวสเมนท์” ที่แสดงโลโก้บริษัทในเครือนายเฉิน จื้อ ทำให้พวกเขาตัดสินใจปิดเว็บไซต์และสื่อสังคมออนไลน์ทั้งหมดของบริษัท

“สิ่งแรกคือพวกเราตั้งใจถอยตัวเองให้ห่างออกมาก่อน จึงปิดเว็บไซต์ของบริษัท เพราะในเว็บไซต์มีลิงก์ไปยังไอจี เฟซบุ๊ก ไลน์ของบริษัท ที่มีหน้าพนักงานบริษัทซึ่งเป็นเซลล์ของบริษัท ทั้งหมดทำไปเพื่อปกป้องพนักงานตัวเล็ก ๆ ไม่ให้ได้รับผลกระทบจากเรื่องดังกล่าว เพราะมันมีชื่อและใบหน้าของพวกเขาอยู่บนโลกออนไลน์” เขากล่าว

ตัวแทนบริษัทคนนี้ชี้แจงด้วยว่า พวกเขาไม่ได้ปิดเว็บไซต์และแพลตฟอร์มต่าง ๆ เพื่อหนีความผิด เพราะบริษัทยังเปิดดำเนินการตามปกติในปัจจุบัน พนักงานยังมาทำงานที่สำนักงานตามปกติ แม้บริษัทได้รับผลกระทบด้านชื่อเสียงแล้ว

บจก.ปริ้นซ์ อินเตอร์แนชั่นแนล ระบุอดีตพันธมิตรในไต้หวันเป็นผู้ดูแลเว็บไซต์อยู่ระยะหนึ่ง

.ได้สืบค้นเว็บไซต์ของ บจก.ปริ้นซ์ อินเตอร์แนชั่นแนล ย้อนหลังด้วย Web Archive ซึ่งเป็นเว็บไซต์องค์กรไม่แสวงหากำไรที่เก็บข้อมูลเว็บไซต์ในลักษณะหอจดหมายเหตุดิจิทัล และพบว่า http://princeth.com ซึ่งเป็นที่อยู่เว็บไซต์ของ บจก.ปริ้นซ์ อินเตอร์แนชั่นแนล นั้น มีความเคลื่อนไหวที่ถูกบันทึกประวัติไว้ดังนี้

ที่มาของภาพ : Google

บจก.ปริ้นซ์ อินเตอร์แนชั่นแนล ที่จดทะเบียนในไทยใช้ที่อยู่เว็บไซต์ว่า http://princeth.com ปัจจุบันเว็บไซต์ดังกล่าวเข้าถึงไม่ได้แล้ว

ที่มาของภาพ : Web Archive/ http://princeth.com

หน้าเว็บเพจ http://princeth.com ณ วันที่ 14 พ.ย. 2024 ระบุว่าเป็น บริษัท ปรินซ์ เรียลเอสเตท (กัมพูชา) กรุ๊ป จำกัด (Prince Staunch Estate (Cambodia) Team Co., Ltd) ในเครือปรินซ์ โฮลดิง กรุ๊ป

วันที่ 14 พ.ย. 2024 หน้าเว็บดังกล่าว (http://princeth.com) ระบุว่า บริษัท ปรินซ์ เรียลเอสเตท (กัมพูชา) กรุ๊ป จำกัด (Prince Staunch Estate (Cambodia) Team Co., Ltd) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือปรินซ์ โฮลดิง กรุ๊ป (Prince Holding Team) ก่อตั้งขึ้นในเดือน มี.ค. 2015 เพื่อดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

.พบว่า ข้อมูลดังกล่าวตรงกันกับชื่อบริษัทในเครือปรินซ์กรุ๊ปของนายเฉิน จื้อ แต่ในหน้าเว็บเพจช่วงเวลานี้ ยังไม่ปรากฏที่อยู่ติดต่อในไทย มีเพียงที่อยู่ของสำนักงานในกรุงพนมเปญ

ที่มาของภาพ : Prince Staunch Estate Team

ข้อมูลบริษัท ปรินซ์ เรียลเอสเตท (กัมพูชา) กรุ๊ป จำกัด ในเว็บไซต์ของกลุ่มบริษัทปรินซ์กรุ๊ป จะเห็นได้ว่าทั้งชื่อบริษัทและข้อมูลการก่อตั้งบริษัทตรงกัน

ในปีถัดมา .พบประวัติบันทึกหน้าเว็บไซต์ http://princeth.com อีกครั้งในช่วงเดือน เม.ย. 2025 แต่ข้อมูลบริษัทเปลี่ยนเป็นชื่อบริษัท Prince World (ปริ้นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล) แทน

ที่มาของภาพ : Web Archive/ http://princeth.com

หน้าเว็บเพจ http://princeth.com วันที่ 27 เม.ย. 2025 ข้อมูลบริษัทเปลี่ยนเป็น Prince World แต่ที่อยู่ในการติดต่อตรงกันกับที่ให้ไว้ในอีกเว็บไซต์หนึ่งของ บจก.ปรินซ์ เรียล เอสเตท อินเวสเมนท์ ในไต้หวัน

หน้าเว็บเพจในช่วงเวลานี้ใส่ที่อยู่สำนักงานว่าอยู่ในอาคารซิโน-ไทย ทาวเวอร์ พร้อมกับขึ้นเบอร์โทรติดต่อและอีเมล ตรงกันกับข้อมูลหน้าเว็บเพจของ บจก.ปรินซ์ เรียล เอสเตท อินเวสเมนท์ ที่ตอนแรกเชื่อว่าเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มบริษัทปรินซ์ โฮลดิง กรุ๊ปของนายเฉิน จื้อ เนื่องจากมีชื่อคล้ายกัน และใช้โลโก้เดียวกัน

ทั้งนี้ เว็บไซต์ของ บจก.ปรินซ์ เรียล เอสเตท อินเวสเมนท์ เคยระบุว่า เข้ามาลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ของไทยก่อนหน้านี้ ขณะที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์ในไทยหลายแห่งต่างเรียงหน้าออกมาปฏิเสธ

ที่มาของภาพ : PRINCE REAL ESTATE INVESTMENT CO., LTD

ที่อยู่ติดต่อสำนักงานในไทยที่ระบุไว้บนเว็บไซต์ของ บจก.ปรินซ์ เรียล เอทสเตท อินเวสเมนท์ ปัจจุบันหน้าเพจนี้ถูกลบไปแล้ว

เมื่อได้เห็นร่องรอยข้อมูลทางดิจิทัลที่ปรากฏบนเว็บไซต์ของ บจก.ปริ้นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล ตัวแทนของบริษัทฯ ที่เป็นผู้ชี้แจงกับ.ในวันนี้บอกว่า ในสมัยที่พวกเขายังคงเป็นพันธมิตรกับทางไต้หวัน บริษัทในกรุงไทเปเป็นผู้จัดเตรียมเว็บไซต์ แพลตฟอร์มการโปรโมทต่าง ๆ รวมถึงการดูแลระบบหลังบ้านต่าง ๆ ของเว็บไซต์ บจก.ปริ้นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จนกระทั่งถึงช่วงต้นปี 2568

สำหรับโดเมนอีเมล @phingp.com ก็เป็นโดเมนของ บจก.ปรินซ์ เรียล เอทสเตท อินเวสเมนท์ในไต้หวัน ซึ่งในห้วงที่พวกเขายังเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกัน บริษัทในไต้หวันยืนยันกับ บจก.ปริ้นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล ว่า “ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเครือปรินซ์ โฮลดิง กรุ๊ป” ในกัมพูชา และ “ไม่ใช่บริษัทในเครือ”

“เขาบอกเพียงว่าใช้ชื่อให้มีความเชื่อมโยงกัน เพื่อความน่าเชื่อถือ” ผู้ชี้แจง บจก.ปริ้นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวกับ.

ผู้ชี้แจงจาก บจก.ปริ้นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล ในไทย กล่าวต่อว่าก่อนปิดเว็บไซต์ “เพื่อปกป้องพนักงาน” ไป พวกเขาได้จัดทำเว็บไซต์ขึ้นใหม่ ซึ่งไม่มีระบบหลังบ้านเกี่ยวข้องกับบริษัทในไต้หวันแล้ว แต่เข้าใจว่าร่องรอยทางดิจิทัลที่ปรากฏอยู่นั้น น่าจะเป็นข้อความที่ทาง บจก.ปรินซ์ เรียล เอทสเตท อินเวสเมนท์ ในไต้หวัน เป็นผู้ดำเนินการใส่เข้าไปในเว็บไซต์เอง โดยที่ทาง บจก.ปริ้นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล ไม่ทราบมาก่อน

ส่วนสาเหตุที่พบว่าเคยใช้โดเมนอีเมลเดียวกัน พวกเขามองว่าน่าจะเป็น “ความคลาดเคลื่อนของข้อมูลบนหน้าเว็บไซต์” เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงพนักงานบริษัทที่ดูแลระบบเว็บไซต์หลายคนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้ข้อมูลบางส่วนอาจคลาดเคลื่อน หรือไม่ถูกต้อง หรือไม่เป็นปัจจุบัน

บจก.ปริ้นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล ยืนยันพร้อมให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบเส้นทางการเงิน

ตัวแทนของ บจก.ปริ้นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล ยังบอกกับ.ด้วยว่า ปัจจุบันบริษัทได้รับผลกระทบในทางชื่อเสียง พนักงาน และกรรมการบริษัทคนอื่น ๆ ก็กังวลกับข่าวที่ออกไป เพราะส่งผลลบต่อความเชื่อมั่นของบริษัท รวมถึงภาพลักษณ์ของทุกคนที่เกี่ยวข้อง

เมื่อสหรัฐอเมริกามีมาตรการคว่ำบาตรทางการเงิน พวกเขาเองก็กังวลว่าบริษัทอาจได้รับผลกระทบไปด้วย แต่ยืนยันว่ายินดีให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการตรวจสอบงบการเงิน เส้นทางการเงิน และข้อมูลต่าง ๆ ของบริษัท “เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจ” เนื่องจากมั่นใจว่าพวกเขาสามารถชี้แจงเส้นทางการเงินทั้งหมดได้

บจก.ปริ้นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล ยืนยันว่าไม่มีเงินก้อนใหญ่จากต่างประเทศที่โอนเข้ามาในบริษัท โดยในแต่ละเดือนมีเพียงงบรายจ่ายที่กรรมการบริหารอนุมัติลงมาเท่านั้น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายภายในบริษัทและเป็นเงินเดือนพนักงานเท่านั้น