ศาลรธน. มติเอกฉันท์ พ.ร.บ.เวนคืนฯ-ไม่รับเงินค่าทดแทนเกิน10ปี ตกเป็นของแผ่นดิน ขัดรัฐธรรมนูญ

‘ศาลรัฐธรรมนูญ’ มีมติเอกฉันท์ ‘พ.ร.บ.เวนคืนฯ’ มาตรา 48 – ไม่ขอรับเงินค่าทดแทนเกิน 10 ปี ‘ตกเป็นของแผ่นดิน’ ขัดรัฐธรรมนูญ ชี้ เป็นหน้าที่ของรัฐต้องชดเชยให้เกิดความเป็นธรรมแก่เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ที่ถูกเวนคืน

สำนักข่าวอิศรา . รายงานว่า วันที่ 26 พฤศจิกายน 2568 สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เผยแพร่ เอกสารข่าวเลขที่ 43/2568 เกี่ยวกับผลการประชุมปรึกษาคดีสำคัญและเป็นที่สนใจ เรื่องพิจารณาที่ 23/2568 กรณีผู้ตรวจการแผ่นดินเสนอเรื่องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 231 (1) ว่า พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการเวนคืนและการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2562 มาตรา 48 มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา 26 วรรคหนึ่ง และมาตรา 37 วรรคสามหรือไม่

สืบเนื่องจากกรณี ผู้ตรวจการแผ่นดิน (ผู้ร้อง) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 231 (1) ว่า พ.ร.บ.ว่าด้วยการเวนคืนและการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2562 มาตรา 48 ที่บัญญัติว่า เงินค่าทดแทนที่วางไว้ ถ้าผู้มีสิทธิไม่ไปขอรับเงินภายในสิบปีนับแต่วันที่มีหนังสือแจ้งหรือวันที่ปิดประกาศให้ตกเป็นของแผ่นดิน มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา 26 วรรคหนึ่ง และมาตรา 37 วรรคสาม หรือไม่

ผลการพิจารณา ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า เป็นหน้าที่ของรัฐที่ต้องชดเชยให้เกิดความเป็นธรรมแก่เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ที่ถูกเวนคืน วินิจฉัยว่า พ.ร.บ.ว่าด้วยการเวนคืนและการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2562 มาตรา 48 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ จึงมีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา 26 วรรคหนึ่ง และมาตรา 37 วรรคสาม