น้ำยังท่วม 9 จว. ภาคใต้ ปัตตานีเฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง แม้ภาพรวมสถานการณ์เริ่มดีขึ้น

ที่มาของภาพ : Getty Photography

เด็กชายขี่จักรยานฝ่าน้ำท่วมที่หน้ามัสยิดแห่งหนึ่งใน จ.นราธิวาส (ภาพเมื่อ 25 พ.ย.)

อุทกภัยในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา เริ่มคลี่คลายลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (28 พ.ย.) หลังน้ำท่วมสูงนานหนึ่งสัปดาห์ คร่าชีวิตผู้คนไปกว่าร้อย และคนอีกจำนวนมากต้องสูญเสียทรัพย์สินและบุคคลอันเป็นที่รัก ทว่ายังมีหลายพื้นที่ในภาคใต้ที่สถานการณ์ยังน่าเป็นห่วง

ข้อมูลจากสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA) พบว่าในช่วงระหว่างวันที่ 25 พ.ย. – 1 ธ.ค. 2568 มีพื้นที่ถูกน้ำท่วมทั้งหมด 495,123 ไร่ ในพื้นที่ 9 จังหวัด ได้แก่ สงขลา ปัตตานี นครศรีธรรมราช พัทลุง นราธิวาส ยะลา สตูล ตรัง และสุราษฎร์ธานี

จากข้อมูลดังกล่าว พื้นที่ที่กระทบหนักสุดคือ จ.สงขลา มีพื้นที่น้ำท่วม 245,035 ไร่ รองลงมาคือ จ.ปัตตานี มีพื้นที่น้ำท่วม 72,251 ไร่, จ.นครศรีธรรมราช 69,899 ไร่ และ จ.พัทลุง 54,281 ไร่

เหตุน้ำท่วมดังกล่าวยังทำให้มีโรงเรียนได้รับผลกระทบ 103 แห่ง โรงพยาบาล 7 แห่ง และกระทบพื้นที่ถนนรวม 2,024 กม. อย่างไรก็ดี GISTDA ระบุในหมายเหตุว่า นี่เป็นเพียงการประเมินผลกระทบและความเสียหายได้จากการวิเคราะห์โดยประมาณ และยังมิได้ผ่านการตรวจสอบสภาพพื้นที่จริง

ด้านกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานข้อมูลภาพรวมว่า พื้นที่ภาคใต้ที่ประสบอุทกภัยจากฝนที่ตกหนักจากอิทธิพลมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ และคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามัน ตั้งแต่วันที่ 17 พ.ย. 2568 เป็นต้นมานั้น มีทั้งสิ้น 12 จังหวัด แต่ ณ ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายไปบ้างแล้วจนล่าสุดวันนี้เหลือเพียง 9 จังหวัด ซึ่งรายชื่อตรงกันกับข้อมูลของ GISTDA

ที่มาของภาพ : Getty Photography

ชาวบ้านใน จ.นราธิวาส ต้องฝ่าน้ำท่วมขังออกมาจ่ายตลาด หลังฝนตกหนักในพื้นที่ (ภาพวันที่ 23 พ.ย.)

รายงานสถานการณ์ล่าสุดของ ปภ. เมื่อเวลา 6.00 น. ของวันนี้ (1 ธ.ค.) สถานการณ์ใน 3 จังหวัด ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และกระบี่ คลี่คลายลงแล้ว แต่ปัจจุบันยังมี 9 จังหวัดภาคใต้ที่ยังมีสถานการณ์ ครอบคลุมพื้นที่ 79 อำเภอ 508 ตำบล 3,394 หมู่บ้าน โดยมีประชาชนได้รับผลกระทบ 1,093,723 ครัวเรือน หรือ 2,752,723 คน

สำหรับพื้นที่ที่ยังมีสถานการณ์น้ำท่วม ตามการรายงานของ ปภ. ประกอบไปด้วย

  • จ.สุราษฎร์ธานี ได้รับผลกระทบ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.เคียนซา อ.พระแสง อ.บ้านนาสาร และ อ.พุนพิน
  • จ.นครศรีธรรมราช ได้รับผลกระทบ 13 อำเภอ ได้แก่ อ.ชะอวด อ.เมืองฯ อ.ร่อนพิบูลย์ อ.นาบอน อ.ฉวาง อ.เฉลิมพระเกียรติ อ.หัวไทร อ.บางขัน อ.ทุ่งใหญ่ อ.พระพรหม อ.ช้างกลาง อ.ปากพนัง และ อ.เชียรใหญ่ มีผู้เสียชีวิต 10 คน
  • จ.ตรัง ได้รับผลกระทบ 9 อำเภอ ได้แก่ อ.นาโยง อ.ห้วยยอด อ.รัษฎา อ.ย่านตาขาว อ.วังวิเศษ อ.กันตัง อ.เมืองฯ อ.สิเกา และ อ.ปะเหลียน
  • จ.พัทลุง ได้รับผลกระทบ 6 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองฯ อ.ควนขนุน อ.เขาชัยสน อ.บางแก้ว อ.ปากพะยูน และ อ.ป่าบอน
  • จ.สตูล ได้รับผลกระทบ 6 อำเภอ ได้แก่ อ.ควนโดน อ.ละงู อ.ท่าแพ อ.ควนกาหลง อ.เมืองฯ และ อ.ทุ่งหว้า
  • จ.สงขลา ได้รับผลกระทบ 16 อำเภอ ได้แก่ อ.รัตภูมิ อ.เมืองฯ อ.จะนะ อ.คลองหอยโข่ง อ.ระโนด อ.กระแสสินธุ์ อ.สทิงพระ อ.หาดใหญ่ อ.ควนเนียง อ.นาทวี อ.สิงหนคร อ.นาหม่อม อ.บางกล่ำ อ.สะเดา อ.เทพา และ อ.สะบ้าย้อย
  • จ.ปัตตานี ได้รับผลกระทบ 12 อำเภอ ได้แก่ อ.สายบุรี อ.แม่ลาน อ.โคกโพธิ์ อ.มายอ อ.ยะรัง อ.ไม้แก่น อ.ยะหริ่ง อ.ปะนาเระ อ.ทุ่งยางแดง อ.กะพ้อ อ.หนองจิก และ อ.เมืองฯ
  • จ.ยะลา ได้รับผลกระทบ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองฯ อ.รามัน และ อ.ยะหา
  • จ.นราธิวาส ได้รับผลกระทบ 10 อำเภอ ได้แก่ อ.ยี่งอ อ.ระแงะ อ.ตากใบ อ.สุไหงปาดี อ.ศรีสาคร อ.รือเสาะ อ.สุไหงโก-ลก อ.เจาะไอร้อง อ.สุคิริน และ อ.จะแนะ

โดย ปภ.รายงานว่าจากสถานการณ์ใน 9 จังหวัดข้างต้นทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 176 ราย ซึ่งจังหวัดที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ จ.สงขลา ที่มีผู้เสียชีวิตรวม 138 ราย และบาดเจ็บ 3 ราย รองลงมาคือ จ.นครศรีธรรมราช มีผู้เสียชีวิต 10 ราย และ จ.ปัตตานี มีผู้เสียชีวิต 9 ราย

Skip ได้รับความนิยมสูงสุด and continue finding outได้รับความนิยมสูงสุด

Give up of ได้รับความนิยมสูงสุด

อย่างไรก็ดี จากการแถลงข่าวของศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย (ศป.กฉ.) เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา รายงานจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุทกภัยเฉพาะในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยอ้างอิงข้อมูลจาก รพ.สงขลานครินทร์ วันที่ 1 ธ.ค. เวลา 16.00 น. มีผู้เสียชีวิตที่ถูกบันทึกในระบบของโรงพยาบาลเพิ่มอีก 2 ราย รวมมีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 140 ราย นั่นหมายความว่าตัวเลขภาพรวมผู้เสียชีวิตจากอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ได้รับการยืนยันแล้วอย่างน้อย 178 ราย

ทั้งนี้ ปภ. รายงานว่าสถานการณ์น้ำท่าใน 9 จังหวัดข้างต้น แต่ละจังหวัดต่างมีระดับน้ำที่ลดลง ทว่าก็มีประกาศแจ้งเตือนสาธารณภัยให้เฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่งและน้ำท่วมขังในพื้นที่ อ.เมืองฯ จ.ปัตตานี และแจ้งเตือนพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ให้ติดตามข้อมูลข่าวสารและติดตามสถานการณ์ฝนฟ้าคะนอง

ประกาศแจ้งเตือนของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยยังระบุถึงกรณีที่พายุโซนร้อน “โคโตะ” (KOTO) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ถูกคาดการณ์ว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศเวียดนามในวันที่ 1 – 2 ธันวาคม 2568 แต่จะอ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็วตามลำดับ และจะไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย

รายงานข่าวในแต่ละพื้นที่เป็นอย่างไร

  • สงขลา

สำนักข่าวเนชั่น รายงานในวันนี้ (1 ธ.ค.) แม้สถานการณ์ในหลายพื้นที่ของ อ.หาดใหญ่ น้ำจะเริ่มลดระดับลงแล้ว แต่ในอีกหลายอำเภอ อาทิ อ.ระโนด และ อ.สทิงพระ ยังคงมีน้ำท่วมสูง และบ้านบางหลังก็ยังมีน้ำท่วมขังภายในบ้าน

  • ปัตตานี

ข้อมูลจากศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดปัตตานี กรณีอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม ประจำปี 2568 รายงานสถานการณ์ล่าสุดวานนี้ (30 ธ.ค.) เวลา 20.00 น. ระบุว่าสถานการณ์อุทกภัยใน จ.ปัตตานีคลี่คลายลงเพียง 1 อำเภอ จาก 12 อำเภอที่ถูกน้ำท่วมก่อนหน้านี้ ทำให้ปัจจุบันยังคงเหลือพื้นที่ประสบอุทกภัยรวม 11 อำเภอ

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปัตตานี โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กในช่วงบ่ายวันนี้ (1 ธ.ค.) ระบุข้อมูลเมื่อเวลา 6.00 น. ว่ายังคงมีน้ำท่วมเส้นทางในความดูแลของแขวงทางหลวงปัตตานี สำนักงานทางหลวงที่ 18 (สงขลา) รวม 7 สายทาง 8 จุด โดยยังคงสามารถสัญจรผ่านได้ 5 จุด และมีเส้นทางที่ผ่านไม่ได้ 3 จุดบนทางหลวงหมายเลข 410 ตอนปัตตานี-ยะลา ที่ถูกน้ำท่วมสูง และทางหลวงหมายเลข 4092 ตอนจะรังดาตง-มายอ ซึ่งมีสะพานทรุด 2 จุด

ก่อนที่เวลา 14.41 น. จะโพสต์อัปเดตสถานการณ์ใน จ.ปัตตานี ระบุว่าสถานการณ์น้ำในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี โดยเฉพาะย่านเศรษฐกิจเริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ระดับน้ำได้ลดลงจนแห้งสนิทในหลายจุด ทว่ายังมีพื้นที่ได้รับผลกระทบคือชุมชนริมแม่น้ำปัตตานีในเขตอำเภอเมือง ได้แก่ ต.จะบังติกอ ต.สะบารัง ต.ปะกาฮารัง และ ต.บาราเฮาะ ซึ่งระดับน้ำบางจุดยังสูง 1 เมตร ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้เรือท้องแบนในการลำเลียงเสบียงและช่วยเหลือคนในพื้นที่

ที่มาของภาพ : สนง.ประชาสัมพันธ์ จ.ปัตตานี/Facebook

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปัตตานี รายงานสถานการณ์น้ำในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี โดยเฉพาะย่านเศรษฐกิจเริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติ มีประชาชนเริ่มออกมาทำความสะอาดบ้านเรือน ทว่าในพื้นที่ชุมชนริมน้ำหลายจุดยังท่วมสูง
  • นครศรีธรรมราช

สำนักข่าวไทย รายงานเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (30 พ.ย.) ว่าแม้สถานการณ์ในพื้นที่รับน้ำของจังหวัดจะเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ แต่น้ำได้ไหลไปเข้าท่วมพื้นที่หลายตำบลของ อ.ปากพนัง, อ.เชียรใหญ่ และ อ.เฉลิมพระเกียรติ เพื่อรอระบายลงสู่แม่น้ำปากพนัง โดยในพื้นที่เริ่มพบปัญหาน้ำรอระบายเน่าเสียส่งกลิ่นเหม็น

  • พัทลุง

ศูนย์ข่าวภาคใต้ ไทยพีบีเอส รายงานในวันนี้ (1 ธ.ค.) ว่าพื้นที่ 5 อำเภอที่อยู่ติดกับทะเลสาบสงขลายังคงมีน้ำท่วมสูง โดยบางจุดยังมีน้ำท่วมลึก 1-2 เมตร ชาวบ้านยังต้องใช้เรือสัญจรออกมารับถุงยังชีพ

  • ตรัง

ศูนย์ข่าวภาคใต้ ไทยพีบีเอส รายงานในวันนี้ (1 ธ.ค.) ว่าชุมชนที่อยู่ริมแม่น้ำตรังใน อ.เมืองฯ และ อ.กันตรัง ยังคงเผชิญกับน้ำท่วมสูง โดยระดับน้ำยังลดลงได้ช้าเนื่องจากมีน้ำทะเลหนุนสูง มีชาวบ้านส่วนหนึ่งที่ยังคงต้องอยู่ที่ศูนย์อพยพ

  • สตูล

สถานีโทรทัศน์ช่อง 7 รายงานในวันนี้ว่าสถานการณ์ในพื้นที่ อ.ละงู ในหลายพื้นที่น้ำเริ่มลดจนเข้าสู่ภาวะปกติ ทำให้มีประชาชนในพื้นที่เริ่มออกมาทำความสะอาดบ้านเรือน ทว่าบางพื้นที่ก็ยังพบน้ำท่วมขัง เช่น โรงเรียนบ้านดาหลำ ต.เขาขาว อ.ละงู แต่อยู่ในระดับที่สามารถเข้าไปตรวจสอบทรัพย์สินที่เสียหายและทำความสะอาดได้แล้ว