
DSI ร่วมกรมศุลกากรยึดบุหรี่ไฟฟ้าลักลอบนำเข้าจากต่างประเทศ ยึดของกลาง 591,692 ชิ้น มูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท
สำนักข่าวอิศรา . รายงานว่า เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2568 ณ สำนักงานศุลกากร ท่าเรือกรุงเทพ พลตํารวจโท รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายสันติ ปิยะทัต รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และคณะ พร้อมด้วย นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ อธิบดีกรมศุลกากร นายกฤษฎา สุขการีย์ รองผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการเรือและสินค้าการท่าเรือแห่งประเทศไทย นายแพทย์ชยนันท์ สิทธิบุศย์ ผู้อำนวยการกองงานคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พลตำรวจตรี ทัศน์ภูมิ จารุปรัชน์ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญกรรมทางเศรษฐกิจ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกันแถลงข่าวกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้บูรณาการร่วมกับกรมศุลกากรปราบปรามการลักลอบนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าจากต่างประเทศผ่านทางด่านศุลกากรต่าง ๆ โดยตั้งแต่ปลายปี 2567 ถึงปัจจุบัน
กรมสอบสวนคดีพิเศษและกรมศุลกากรได้ร่วมกันตรวจยึดบุหรี่ไฟฟ้า อะไหล่ น้ำยาและอุปกรณ์ต่าง ๆ จำนวน 591,692 ชิ้น มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท และล่าสุดในเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม 2568 ตรวจยึดสินค้าผ่านแดน
ในตู้สินค้าหมายเลข XYLU8213816 SELU4217253 FFAU4958617 SEKU6494840 CULU6000391 BEAU4582139 CAIU 7980444 รวมทั้งหมด 7 ตู้ พบบุหรี่ไฟฟ้าชนิดใช้แล้วทิ้ง จำนวนรวม 46,260 ชิ้น มูลค่ารวม 10,000,000 บาท จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลางอันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 และเป็นของต้องห้ามตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้บารากู่และบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า
เป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2557 และประกาศกรมศุลกากรที่ 185/2564 เรื่อง
พิธีการศุลกากรว่าด้วยการผ่านแดนทางอิเล็กทรอนิกส์ ลงวันที่ 1 ธันวาคม 2564 ข้อ 6
ทั้งนี้ ของกลางที่ตรวจยึดได้ดังกล่าว กรมศุลกากรจะได้ประเมินราคาเป็นทางการอีกครั้ง เพื่อแจ้งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินคดี โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษจะได้เร่งทำการสืบสวนสอบสวนและขยายผล
ไปยังตัวการ ผู้ใช้และผู้สนับสนุนภายใต้การบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องและมาตรการพิเศษอย่างเด็ดขาดเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป












