
‘สีหศักดิ์' ชี้แจง ‘ทรัมป์' โพสต์ ‘Truth Social’ โต้ ทหารไทยเหยียบทุ่นsะเบิด ‘ไม่ใช่อุบัติเหตุ' ยืนยัน ไทยตอบโต้ ‘ไม่เกินกว่าเหตุ' เผย ผิดหวัง-กระทบความรู้สึกคนไทย
สำนักข่าวอิศรา . รายงานว่า วันที่ 13 ธันวาคม 2568 ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ แถลงกรณีนายโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โพสต์โซเชียลมีเดียส่วนตัว ‘Truth Social’ ถึงผลการหารือทางโทรศัพท์กับนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีไทย กับนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ถึงเหตุการณ์ปะทะทางการทหารบริเวณตามแนวชายแดนไทยกับกัมพูชา ว่า มีหลายประเด็นที่ประเทศไทยต้องการชี้แจง ไทยอยากเห็นสันติภาพ แต่สันติภาพต้องมาจากทั้งสองฝ่าย
“มีหลายประเด็นที่อยู่ในการโพสต์ของปธน.ทรัมป์ ที่ฝ่ายไทยคิดว่า อาจจะสะท้อนว่าสหรัฐฯยังไม่เข้าใจสถานการณ์ที่แท้จริง หรือ ได้รับข้อมูลคลาดเคลื่อน หรือ ได้รับข้อมูลจากแหล่งที่จงใจทำให้ข้อมูลคลาดเคลื่อน”นายสีหศักดิ์กล่าว
@ ไม่ใช่อุบัติเหตุ-ตอบโต้ ไม่เกินกว่าเหตุ
นายสีหศักดิ์กล่าวว่า ประเด็นแรก ฝ่ายไทยไม่สบายใจ คือ ข้อความของปธน.ทรัมป์ที่ระบุว่า เหตุการณ์ที่ทหารไทยเหยียบทุ่นsะเบิดและได้รับบาดเจ็บสาหัสนั้น เป็น roadside bomb ที่เป็นอุบัติเหตุ ขอยืนยันว่า ไม่ใช่อุบัติเหตุ
“เป็นที่ประจักษ์ชัดแล้วว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เกิดจากฝ่ายกัมพูชาได้วางทุ่นsะเบิดใหม่ ไม่ใช่ครั้งเดียว 7 ครั้ง และได้รับการยืนยันจากคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT)”นายสีหศักดิ์กล่าว
นายสีหศักดิ์กล่าวว่า วันนี้ (13 ธ.ค. 68) ยังเกิดเหตุการณ์กัมพูชายิvจรวด BM-21 ไปยังพื้นที่พลเรือนที่ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งแน่นอนว่า ไม่ใช่อุบัติเหตุ เกิดจากความจงใจของฝ่ายกัมพูชา
นายสีหศักดิ์กล่าวว่า ปธน.ทรัมป์ยังพูดถึงการโต้ตอบของไทยว่ารุนแรง การโต้ตอบของฝ่ายไทยได้สัดส่วนกับการปฏิบัติการทางการทหารของฝ่ายกัมพูชา “เราไม่ได้โต้ตอบเกินกว่าเหตุ”
“ประเทศไทยเป็นมิตรประเทศกับสหรัฐฯ เรารู้สึกผิดหวัง ที่ข้อความดังกล่าวกระทบต่อความรู้สึกของคนไทยและประเทศไทย ในฐานะที่เราภูมิใจที่เราเป็นพันธมิตรทางสนธิสัญญาที่เก่าแก่ที่สุดของสหรัฐฯ ในภูมิภาคนี้ และยังเป็นพันธมิตรแม้จะไม่ได้เป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) เพราะว่าไทยกับสหรัฐฯ การเป็นพันธมิตรระหว่างกันผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ เราได้ต่อสู้เผชิญกับความท้าทายด้านความมั่นคงร่วมกันมาในอดีต และถือว่ายังมีความสัมพันธ์ทางผลประโยชน์ด้านความมั่นคงอยู่และจะมีอยู่ต่อไป”นายสีหศักดิ์กล่าว
@ ท้า ‘ฮุน มาเนต' ใช้ดาวเทียม ตรวจสอบทุ่นsะเบิดด้วย
นายสีหศักดิ์กล่าวว่า กรณีนายฮุน มาเนต ขอให้มีการตรวจสอบเหตุการณ์ปะทะด้วยวิธีทางดาวเทียม เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ประเทศไทยไม่มีปัญหา และขอให้ตรวจสอบเรื่องทุ่นsะเบิดด้วย เราพร้อมให้ตรวจสอบ
นายสีหศักดิ์กล่าวว่า ขณะนี้ภัยคุกคามตามแนวชายแดนไม่ได้มาจากการปฏิบัติการทางการทหารของฝ่ายกัมพูชาฝ่ายเดียว มาในรูปแบบสแกมทั้งหมาย ซึ่งมีผู้ได้รับผลกระทบมากมาย ทุกประเทศในประชาคมโลกต้องร่วมกันปราบปรามและไทยก็ดำเนินการอย่างเต็มที่ ซึ่งในวันที่ 17 ธ.ค.68 จะมีการประชุมระดับรัฐมนตรีว่าด้วยการสร้างความเป็นหุ้นส่วนการปราบปรามออนไลน์สแกม

@ ‘อนุทิน' คุย ‘ทรัมป์' ไม่มีเรื่องหยุดยิv
นายสีหศักดิ์กล่าวถึงเรื่องการหยุดยิvว่า การพูดคุยทางโทรศัพท์ระหว่างนายอนุทินกับปธน.ทรัมป์ ยังไม่ได้พูดถึงการหยุดยิv แต่การพูดคุยระหว่างตนเองกับนายมาโก รูบิโอ รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ การหยุดยิvนั้นไม่ได้เกิดขึ้นโดยทันที ฝ่ายทหารต้องประเมินสถานการณ์ และต้องมีการพูดคุยระหว่างทหารทั้งสองฝ่าย ซึ่งการหยุดยิvที่ไม่มีใครพร้อมเป็นการหยุดยิvที่ไม่ยั่งยืน การหยุดยิvจะเกิดขึ้นได้เมื่อทุกฝ่ายมีความพร้อม
“การหยุดยิvต้องถามฝ่ายกัมพูชาว่าพร้อมที่จะหยุดยิvหรือไม่ การหยุดยิv อยู่ดีๆ ไม่ได้เกิดขึ้นจากความปรารถนา ต้องเกิดขึ้นจากความพร้อมทุกฝ่าย และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อตอนเช้า (กัมพูชายิvจรวด BM-21 ใส่พื้นที่พลเรือน) อันนั้นคือความพร้อมที่จะหยุดยิvหรือไม่ ถ้าบริบทอย่างนี้ หยุดยิvไม่มีความหมาย เราจะพูดเรื่องการหยุดยิvได้อย่างไร ในเมื่อฝ่ายกัมพูชาก็ยังไม่หยุดยิv”นายสีหศักดิ์กล่าวและว่า
“เป็นเรื่องเดิมเหมือนที่ผ่านมา คือ วิธีการ พูดอย่าง ทำอย่าง และเบี่ยงเบนจากประเด็นที่เป็นปัญหาอย่างแท้จริง สร้างสถานการณ์ สร้างเรื่องราวอะไรเพื่อสร้างความได้เปรียบบนเวทีระหว่างประเทศ ซึ่งประเทศไทยมีความจำเป็นต้องชี้แจง ตอบโต้ เพราะไม่ใช่เป็นการต่อสู้ในชายแดนเท่านั้น แต่เป็นการต่อสู้บนเวทีระหว่างประเทศด้วย”นายสีหศักดิ์กล่าว
@ ขอบคุณ ‘ทรัมป์' ไม่โยงเจรจาภาษี
นายสีหศักดิ์กล่าวว่า ขอบคุณปธน.ทรัมป์ เรื่องการเจรจาการค้าภาษีศุลกากร ขอให้การเจรจาในระดับผู้ปฏิบัติดำเนินการต่อไป ซึ่งท่าทีของไทยชัดเจนมาตลอดเวลา ว่า สถานการณ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาไม่ควรนำมาโยงกับเรื่องการเจรจาการค้า ภาษีอากร
“เป็นหุ่วงที่สุด เพราะขณะนี้มีคนไทย 6,000-7,000 คน ที่อยู่ที่ด่านปอยเปตและอยากกลับเข้ามาฝั่งไทย เพราะไม่มั่นใจเรื่องความปลอดภัย ปัญหาคือ กัมพูชาไม่ยอมเปิดด่าน ทั้งที่เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับความขัดแย้งขณะนี้ เป็นเรื่องมนุษยธรรม ซึ่งฮุน เซน กล่าวว่า ระงับการเดินทางข้ามเขตแดนทั้งหมด ชัดเจนว่า เป็นการละเมิดหลักสิทธิมนุษยชน เป็นการละเมิดสิทธิมนุยธรรมภายใต้กติการะหว่างประเทศทั้งหมด โดยเฉพาะกฎหมายสิทธิมนุษยธรรมระหว่างประเทศ”นายสีหศักดิ์กล่าว












