มารู้จัก ‘เรือผี' ที่เวเนซุเอลาใช้หลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรน้ำมันของสหรัฐฯ

ที่มาของภาพ : Reuters

สหรัฐฯ ยึดเรือบรรทุกน้ำมันลำหนึ่งนอกชายฝั่งเวเนซุเอลาเมื่อวันที่ 10 ธ.ค. ที่ผ่านมา
Article Knowledge
    • Creator, อังเคล เบอร์มูเดซ
    • Role, บีบีซีนิวส์ แผนกภาษามุนโด

ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐอเมริกาและเวเนซุเอลายกระดับขึ้นไปอีกขั้น หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ สั่งปิดล้อมทางทะเลเพื่อสกัดกั้นเรือบรรทุกน้ำมันที่ถูกคว่ำบาตรไม่ให้เข้าและออกจากประเทศในอเมริกาใต้

เวเนซุเอลา ประเทศที่ถูกพิสูจน์แล้วว่ามีปริมาณสำรองน้ำมันใหญ่ที่สุดในโลก พึ่งพารายได้จากการส่งออกน้ำมันเป็นอย่างมากสำหรับการใช้จ่ายของรัฐบาล

แต่มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ที่มุ่งเป้าไปที่ PDVSA บริษัทน้ำมันแห่งชาติของเวเนซุเอลา ทำให้การส่งออกน้ำมันเป็นเรื่องยากสำหรับรัฐบาลเวเนซุเอลา ส่งผลให้พวกเขาต้องหันมาใช้กอง “เรือผี” (ghost ships)

เรารู้อะไรแล้วบ้างเกี่ยวกับเรือเหล่านี้และวิธีการทำงานของกองเรือดังกล่าว

‘การปิดล้อมอย่างสมบูรณ์และเบ็ดเสร็จ'

จากข้อมูลที่รวบรวมโดย แทร็กเกอร์ดอตคอม (TankerTrackers.com) บริการออนไลน์ที่ติดตามและรายงานการขนส่งน้ำมันดิบพบว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เรือมากกว่า 30 ลำจากทั้งหมด 80 ลำที่อยู่ในน่านน้ำเวเนซุเอลา หรือกำลังเข้าใกล้เวเนซุเอลา ตกอยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ

ประธานาธิบดีทรัมป์ กำลังเล็งเป้าหมายไปยังเรือเหล่านี้ด้วย “การปิดล้อมอย่างสมบูรณ์และเบ็ดเสร็จต่อเรือบรรทุกน้ำมันที่ถูกคว่ำบาตรทั้งหมดที่เข้าและออกจากเวเนซุเอลา” ตามที่เขาประกาศในบัญชีทรูธโซเชียล (Truth Social) เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.

โพสต์ดังกล่าวเกิดขึ้นไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์หลังจากที่สหรัฐฯ ยึดเรือบรรทุกน้ำมันลำหนึ่ง ซึ่งเชื่อว่าเป็นส่วนหนึ่งของ “กองเรือผี” นอกชายฝั่งเวเนซุเอลา ซึ่งใช้กลยุทธ์ต่าง ๆ เพื่อปกปิดการทำงานของเรือ

ทรัมป์ได้กำหนดมาตรการคว่ำบาตรต่ออุตสาหกรรมน้ำมันของเวเนซุเอลามาตั้งแต่ปี 2019 ในช่วงวาระแรกของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี

Skip ได้รับความนิยมสูงสุด and proceed studyingได้รับความนิยมสูงสุด

Cease of ได้รับความนิยมสูงสุด

ในปีนั้นการส่งออกน้ำมันดิบของเวเนซุเอลาลดลงมากกว่าครึ่ง จากประมาณ 1.1 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือน ม.ค. เหลือประมาณ 495,000 บาร์เรลภายในสิ้นปี 2019 ตามข้อมูลของสำนักงานข้อมูลพลังงานแห่งสหรัฐอเมริกา

หกปีต่อมา มาตรการคว่ำบาตรยังคงมีผลบังคับใช้ แต่การส่งออกน้ำมันของเวเนซุเอลาเติบโตขึ้นอีกครั้งเป็นประมาณ 920,000 บาร์เรลต่อวัน ณ เดือน พ.ย. ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์

แม้ว่าตัวเลขนี้จะต่ำกว่าระดับสูงสุดของการส่งออกน้ำมันของประเทศที่ 3 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 1998 แต่การฟื้นตัวบางส่วนนี้บ่งชี้ว่ามาตรการคว่ำบาตรต่อเวเนซุเอลาไม่ได้ผลตามที่สหรัฐฯ หวัง

นี่เป็นสิ่งที่บ่งชี้ว่ารัฐบาลของนิโคลัส มาดูโร ได้ค้นพบวิธีการใหม่ในการขายน้ำมันของเวเนซุเอลา โดยมี “กองเรือผี” เป็นศูนย์กลางของวิธีการนี้

ไม่ใช่แค่เวเนซุเอลาประเทศเดียวที่ใช้ ‘กองเรือผี'

กองเรือผี (Ghost fleets) เป็นปรากฏการณ์ที่กำลังเพิ่มขึ้น ไม่ได้มีแต่ในเวเนซุเอลาเท่านั้น แต่อีกสองประเทศผู้ผลิตน้ำมันที่อยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรของชาตะวันตก ได้แก่ รัสเซีย และอิหร่าน ก็ใช้วิธีการนี้

บริษัทข่าวกรองทางการเงินเอสแอนด์พี โกลบอล (S&P International) ประเมินว่าเรือบรรทุกน้ำมันจำนวน 1 ใน 5 ของโลก ถูกใช้ในการลักลอบขนน้ำมันจากประเทศที่ถูกคว่ำบาตร

ในจำนวนนี้ 10% บรรทุกน้ำมันจากเวเนซุเอลาเท่านั้น 20% บรรทุกน้ำมันจากอิหร่าน ในขณะที่ 50% บรรทุกน้ำมันจากรัสเซียโดยเฉพาะ ส่วนอีก 20% ที่เหลือไม่ได้ผูกติดกับประเทศใดประเทศหนึ่ง และสามารถขนส่งน้ำมันได้มากกว่าหนึ่งประเทศ

มาตรการคว่ำบาตรน้ำมันมีจุดประสงค์เพื่อยับยั้งประเทศหรือบริษัทต่าง ๆ จากการซื้อหรือทำธุรกรรมน้ำมันดิบที่มาจากประเทศที่ถูกคว่ำบาตร

บริษัทและประเทศที่ถูกจับได้ว่าซื้อน้ำมันจากประเทศที่ถูกคว่ำบาตร เช่น เวเนซุเอลา อาจเสี่ยงต่อการถูกสหรัฐฯ คว่ำบาตรเช่นกัน

ประเทศที่ถูกคว่ำบาตรเสนอขายน้ำมันในราคาลดพิเศษ เพื่อให้บริษัทหรือประเทศต่าง ๆ เต็มใจที่จะรับความเสี่ยงในการซื้อ โดยใช้กลอุบายเพื่อปกปิดแหล่งที่มาของน้ำมัน

จงใจใช้ธงผิดและเปลี่ยนชื่อเรือ

หนึ่งในกลยุทธ์ที่พบบ่อยที่สุดของเรือบรรทุกน้ำมันผี คือการเปลี่ยนชื่อหรือธงบ่อยครั้ง โดยในบางครั้งอาจเปลี่ยนหลายครั้งภายในหนึ่งเดือน

ตัวอย่างเช่น เรือบรรทุกน้ำมันที่ถูกยึดเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (17 ธ.ค.) มีชื่อว่าเดอะ สคิปเปอร์ (The Skipper) ตามรายงานของสำนักงานข่าวซีบีเอส นิวส์ ซึ่งเป็นพันธมิตรของบีบีซีในสหรัฐฯ

เรือลำนี้ถูกกระทรวงการคลังสหรัฐฯ คว่ำบาตรตั้งแต่ปี 2022 เนื่องจากถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายลักลอบขนน้ำมันที่ช่วยสนับสนุนทางการเงินแก่กองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่านและกลุ่มติดอาวุธฮิซบอลเลาะห์ของเลบานอน ตามรายงานของซีบีเอส

ในขณะนั้น เรือบรรทุกน้ำมันลำนี้มีชื่อว่าอดิซา (Adisa) แต่ก่อนหน้านั้นก็มีชื่อว่าโทโย (Toyo) และเรือลำนี้ก็เป็นหนึ่งในเรือที่เชื่อมโยงกับวิกเตอร์ อาร์เตมอฟ เจ้าพ่อธุรกิจน้ำมันชาวรัสเซีย ซึ่งก็ถูกคว่ำบาตรเช่นกัน

เรือเดอะ สคิปเปอร์ มีอายุกว่า 20 ปี ซึ่งถือเป็นลักษณะทั่วไปของเรือบรรทุกน้ำมันผี เพราะบริษัทเดินเรือขนาดใหญ่มักจะขายเรือทิ้งหลังจากใช้งานมาแล้ว 15 ปี และหลังจากนั้น 25 ปี เรือเหล่านี้มักจะถูกนำไปแยกชิ้นส่วน

คำบรรยายวิดีโอ, ชมวิดีโอ: วิดีโอเหตุการณ์ขณะกองทัพสหรัฐฯ ยึดเรือบรรทุกน้ำมันนอกชายฝั่งเวเนซุเอลา

‘เรือซอมบี้'

กลอุบายอีกอย่างที่เรือเหล่านี้ใช้คือการขโมยเอกลักษณ์ของเรือที่ถูกปลดระวางไปแล้ว โดยใช้หมายเลขทะเบียนเฉพาะที่ออกโดยองค์การทางทะเลระหว่างประเทศ คล้ายกับที่อาชญากรใช้สวมเอกลักษณ์ของคนเสียชีวิต โดยเรือเหล่านี้รู้จักกันในชื่อ “เรือซอมบี้”

เมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา เรือชื่อ วาราดา (Varada) เดินทางมาถึงน่านน้ำมาเลเซีย หลังเดินทางมาจากต้นทางเป็นเวลาสองเดือน ซึ่งคือประเทศเวเนซุเอลา

เรือลำนี้ได้สร้างความสงสัย เพราะเรือวาราดา เป็นเรืออายุ 32 ปี และชักธงของหมู่เกาะโคโมโรส ประเทศหมู่เกาะนอกชายฝั่งแอฟริกาตะวันออก ซึ่งเป็นธงยอดนิยมสำหรับเรือที่ต้องการหลีกเลี่ยงการตรวจจับ

จากการสืบสวนของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก พบว่าเป็นวาราดา เป็นเรือซอมบี้ เนื่องจากเรือวาราดาตัวจริงถูกปลดระวางในบังกลาเทศเมื่อปี 2017

สำนักข่าวบลูมเบิร์กได้เปรียบเทียบภาพถ่ายดาวเทียมกับภาพถ่ายในอดีต และตรวจพบเรือซอมบี้ 4 ลำที่บรรทุกน้ำมันดิบจากเวเนซุเอลา

กลยุทธ์ทั่วไปอื่น ๆ ได้แก่ การปลอมแปลงแหล่งที่มาของน้ำมันดิบ โดยการถ่ายโอนในน่านน้ำสากลไปยังเรือบรรทุกน้ำมันที่ถูกต้องตามกฎหมายซึ่งชักธงชาติอื่น ๆ จากนั้นเรือเหล่านี้จะขนส่งน้ำมันไปยังปลายทาง โดยแสดงให้เห็นว่าน้ำมันมาจากประเทศที่ไม่ถูกคว่ำบาตร

เหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นกับการส่งออกน้ำมันของเวเนซุเอลาไปยังจีน ในช่วงวาระแรกของทรัมป์ เมื่อมีมาตรการคว่ำบาตรเข้มงวด

กลวิธีอีกอย่างที่พบได้ทั่วไปในเรือบรรทุกน้ำมันเหล่านี้คือ การปิดใช้งานระบบระบุตัวตนอัตโนมัติ (Automated Identification System) ซึ่งส่งสัญญาณข้อมูลต่าง ๆ เช่น ชื่อเรือ ธง ตำแหน่ง ความเร็ว หรือเส้นทาง โดยวิธีนี้ทำให้เรือสามารถซ่อนตัวตนและตำแหน่งของตนได้

บริษัทบริหารความเสี่ยงทางทะเล แวนการ์ด เทค (Forefront Tech) เชื่อว่าเรือเดอะ สคิปเปอร์ “ปลอมแปลงตำแหน่งมาเป็นเวลานาน” กล่าวคือ เรือลำนี้ได้ส่งสัญญาณเท็จ ทำให้ดูเหมือนว่าเรืออยู่ในพิกัดที่แตกต่างออกไป

ที่มาของภาพ : Planet Labs PBC / Reuters

ภาพถ่ายดาวเทียมที่ถ่ายเมื่อวันที่ 18 พ.ย. นอกน่านน้ำเวเนซุเอลา แสดงให้เห็นเรือเดอะ สคิปเปอร์ ทางด้านขวา จอดเทียบข้างเรืออีกลำหนึ่ง

จากรายงานในเดือน ต.ค. ขององค์กรทรานสพาเลนเซีย เวเนซุเอลา (Transparencia Venezuela) องค์กรพัฒนาเอกชนต่อต้านการทุจริต พบว่ามีเรือบรรทุกน้ำมันต่างชาติ 71 ลำ จอดอยู่ที่ท่าเรือของบริษัทน้ำมันแห่งชาติของเวเนซุเอลา PDVSA ซึ่งในจำนวนนี้ 15 ลำอยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตร และ 9 ลำเชื่อมโยงกับกองเรือผี

รายงานพบว่าเรือบรรทุกน้ำมัน 24 ลำปฏิบัติการอย่างลับ ๆ โดยเรือเหล่านี้ปิดใช้งานสัญญาณระบุตำแหน่งที่จำเป็น

องค์กรพัฒนาเอกชนดังกล่าวระบุด้วยว่า มีการตรวจพบการถ่ายโอนสินค้าจากเรือลำหนึ่งสู่เรืออีกลำหนึ่งถึง 6 ครั้งในน่านน้ำนอกชายฝั่งตะวันตกของเวเนซุเอลา

เรือส่วนใหญ่ชักธงของประเทศที่ถือว่าเป็นแหล่งหลบเลี่ยงกฎหมาย ซึ่งมีการกำกับดูแลมาตรการคว่ำบาตรอย่างหละหลวม ซึ่งรวมถึงปานามา โคมอรอส และมอลตา

หลายลำใช้เวลามากกว่า 20 วัน โดยไม่เทียบท่าที่สถานีขนถ่ายน้ำมัน ซึ่งแตกต่างจากเรือที่ดำเนินการโดยเชฟรอน ซึ่งสหรัฐฯ อนุญาตให้ดำเนินการในเวเนซุเอลา โดยเรือเหล่านั้นจะบรรทุกน้ำมันและออกเดินทางภายใน 6 วัน

“การที่เรือเหล่านี้จอดอยู่ในบริเวณท่าเรือเป็นเวลานานโดยไม่ได้เข้าถึงสถานีขนถ่ายน้ำมันโดยตรง ทำให้เกิดข้อสงสัยอย่างมากเกี่ยวกับประเภทของการปฏิบัติการที่เรือเหล่านี้ดำเนินการอยู่” องค์กร Transparencia Venezuela กล่าวในรายงาน

ปฏิบัติการยึดเรือเมื่อวันที่ 10 ธ.ค. เป็นผลงานที่มาจากเรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส เจอรัลด์ ฟอร์ด (USS Gerald Ford) ซึ่งเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นส่วนหนึ่งของการวางกำลังทางทหารครั้งใหญ่ของสหรัฐฯ ในน่านน้ำทะเลแคริบเบียน ความสามารถของมาดูโร ประธานาธิบดีของเวเนซุเอลา ในการพึ่งพากองเรือผีจึงมีแนวโน้มที่จะลดลงอย่างมาก