
กสทช.สนธิ เจ้าหน้าที่ฯ มั่นคงบุกยึดโดรน 2,500 ลำ หลังมีข่าวโดรนส่อเป็นรุ่นเดียวกับที่ยูเครนใช้โจมตีฐานทัพรัสเซียขึ้นบินแถวสุวรรรภูมิ ด้าน เจ้าหน้าที่รวบ 4 ผู้ต้องหาอ้างนายจ้างเมียนมาจ้างให้มาบังคับโดรน
สำนักข่าวอิศรา . รายงานข่าวสถานการณ์ความมั่นคงอ้างอิงจากเฟซบุ๊กกองทัพภาคที่ 2 ว่า สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. พบโดรนต้อนสงสัยขึ้นบินใกล้สุวรรณภูมิ
มีลักษณะคล้าย “โมเดลยูเครนโจมตีฐานทัพรัฐเซีย” จึงได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง โดยร่วมกันประเมินความเสี่ยงอาจถูกลำเลียงซุกซ้อนเข้ามาทางบก ก่อนนำขึ้นบินภายในประเทศ และอาจเป็นภัยคุกคามรูปแบบใหม่ จึงจำเป็นต้องดำเนินการสะกัดตั้งแต่ต้นทาง
ล่าสุดหน่วยงานความมั่นคง ดำเนินการตรวจยึดโดรนต้องสงสัยกว่า 2,500 ลำ และอยู่ระหว่างตรวจสอบ รายละเอียดจะแจ้งให้ทราบ ต่อไป
ต่อมาในช่วงบ่ายมีรายงานข่าวว่า พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น.พล.ต.ต.ประสงค์ อานมณี ผบก.น.3 พันตำรวจเอกสมคิด ประเชิญสุข ผู้กำกับสน.ลาดกระบัง พันตำรวจเอกกฤษ ก้อมน้อย ผู้กำกับสส.บกน.3 พร้อมชุดสืบสวนกก.สส.บกน.3และชุดสืบสวนสน.ลาดกระบัง ได้รวบผู้ต้อง 4 ราย ที่เกี่ยวข้องกับการบินโดรนในครั้งนี้ โดยเจ้าหน้าที่ร่วมกันเข้าตรวจค้นห้องพัก เลขที่2114และ2115 โรงแรมแกรนด์ บีเอส แอร์พอร์ต สุวรรณภูมิ ซอยลาดกระบัง30/4 แขวงและเขตลาดกระบัง กรุงเทพฯหลังสืบทราบว่าเป็นแหล่งบังคับโดรนดังกล่าว พบผู้ต้องสงสัย 1.MR.ZWE HTET AUNG อายุ 32 ปี สัญชาติ เมียนมา 2.MR.SA NAY LIN HTET อายุ 24 ปี สัญชาติ เมียนมา 3.MR.KYAW ZIN HEIN อายุ 21 ปี สัญชาติ เมียนมา 4.MR.THEIN ZAW อายุ 34 ปี สัญชาติ เมียนมา พร้อมของกลาง โดรน ยี่ห้อ DJI จำนวน 10 ลำ จากการตรวจสอบพบว่าทั้งหมดเข้ามาพักเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยมีนายเดวิด (ไม่ทราบชื่อสกุลจริง) เป็นคนเปิดจองห้องพักทางออนไลน์
จากการสอบสวนผู้ต้องสงสัยที่4คน ให้การว่า ตนได้รับการติดต่อจากหัวหน้าซึ่งเป็นบุคคลสัญชาติพม่า ให้มารอรับโดรน ในประเทศไทย เพื่อนำออกไปยังประเทศwม่าอีกทีหนึ่ง จึงได้มารอรับโดรนจากรถขนส่งบริษัทลาล่ามูฟ ที่โรงแรม ส่วนวิธีการนำโดรนออกไปยังประเทศwม่า ต้องแยกชิ้นส่วนออกเป็นกล่องๆ ยังไม่ได้ประกอบเป็นตัวเครื่อง สามารถนำออกทางเครื่องบินโดยสารได้ตามปกติ โดยจะแบ่งหน้าที่กันนำออกไปคนละ 2-3 กล่อง เมื่อไปถึงยังประเทศwม่า จะนำส่งให้กับหัวหน้า คือนายเควินโช ที่เปิดบริษัทอยู่ที่พม่า เพื่อขายต่อให้กับกองทัพในประเทศwม่าต่ออีกทีหนึ่ง
เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดโดรนทั้งหมด ส่งมอบ ให้ พนักงานสอบสวนสน.ลาดกระบัง ไว้ตรวจสอบ โดยรอนายรัชพลฯ กลับมาจากประเทศโอมาน เพื่อนำหลักฐานมาแสดงต่อพนักงานสอบสวน และดำเนินการ เพิกถอนวีซ่าชาวพม่าทั้ง4คน ต่อ ผบก.ตม.1 ควบคุมตัวไว้ที่ห้องกัก เพื่อทำหารสืบสวนขยายผลต่อไป
ด้าน นายรัชพล พรชีวโชติ ชาวจ.นครราชสีมา ปัจจุบันอยู่ประเทศโอมาน แจ้งว่า ตนได้รับการติดต่อจากเพื่อนชาวพม่า ชื่อนายเควินโช ซึ่งรู้จักและเคยทำงานร่วมกัน ในช่วงที่ ทำงานอยู่ที่บริษัททีอาร์ดี ด้วยกัน ซึ่งขณะนี้ตนก็ยังทำงานให้กับบริษัททีอาร์ดี อยู่ โดยนายเควินโช ได้ติดต่อให้ช่วยซื้อโดรนจากบริษัทในประเทศไทย เนื่องจากในประเทศไทยมีสินค้า และราคาถูกกว่าท้องตลาดทั่วไป ตนจึงได้ติดต่อซื้อโดรนจากบริษัท ซิสทรอนิกส์ จำกัด สำนักงานตั้งอยู่ จ.นนทบุรี
จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ บริษัท ซิสทรอนิกส์ฯ ได้ความว่า นายรัชพล เคยติดต่อซื้อโดรนก่อนหน้ามาจำนวนประมาณ 2-3 ครั้ง ครั้งละประมาณ 3 – 4 ลำ จนกระทั่งล่าสุดได้ติดต่อซื้อโดรนรุ่น DJI FLYCart 30 จำนวน 10 ลำ ราคาลำละประมาณ 5 แสนบาท รวมภาษีแล้วเป็นเงิน 7.5 ล้านบาท ซึ่งนายรัชพลฯ ได้โอนเงินชำระค่าโดรนเป็นที่เรียบร้อย ทางบัญชีของบ.ซิสทรอนิกส์ฯ และมีกำหนดการส่งมอบให้เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. แต่เนื่องจากในวันดังกล่าว นายรัชพล ไม่สะดวก จึงนำมาส่งมอบในวันนี้(21ธ.ค.) ต่อมา บริษัท ซิสทรอนิกส์ฯ ได้รับการติดต่อจากนายรัชพลฯ ให้นำโดรนมาส่งมอบให้ที่โรงแรม แกรนด์ บีเอส แอร์พอร์ต โฮเทล ทางบริษัทฯ จึงได้ว่าจ้างรถขนส่งของบริษัทลาล่ามูฟฯ นำโดรนมาส่งมอบให้ที่โรงแรมดังกล่าว
ประวัติ นายรัชพล พรชีวโชติ พอสังเขป เป็นบุคคลที่เชี่ยวชาญเรื่องโดรน และมีส่วนร่วมกับทีม Anti Dron ของบริษัท ทีอาร์ดี (เคยถูก กสทช. เข้าค้นและตรวจยึดโดรนจำนวนหลายลำ ที่ จว.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 8 ส.ค.2568 ที่ผ่านมา)
ประวัติ บริษัท ซิสทรอนิกส์จำกัด เป็นบริษัทนำเข้าโดรน รายใหญ่ของประเทศไทย ให้กับหน่วยงานรัฐและเอกชน













