
เหตุใดคำทำนายของนอสตราดามุสจึงถูกพูดถึงอีกครั้ง หลังโป๊ปฟรานซิสสิ้นพระชนม์

ที่มาของภาพ : Getty Pictures
- Creator, แผนกตรวจสอบข่าวบิดเบือนโลก (Global Disinformation Unit)
- Role, บีบีซี เวิลด์ เซอร์วิส
หลังจากการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา การค้นหาชื่อ นอสตราดามุส นักพยากรณ์ชาวฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 16 เพิ่มขึ้นอย่างมากในโลกออนไลน์ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คำทำนายของเขาปรากฏขึ้นในช่วงที่เกิดเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ของโลก เพราะเหตุใดจึงยังมีคนสนใจนักพยากรณ์ผู้นี้อยู่จนถึงปัจจุบัน ?
มิเชล เดอ นอเทรอดาม หรือที่รู้จักกันในชื่อ นอสตราดามุส เป็นแพทย์ชาวฝรั่งเศสที่รักษาผู้ป่วยโรคระบาด นอกจากนี้เขายังเป็นนักโหราศาสตร์สมัครเล่นที่เขียนคำทำนายที่ชื่อว่า เล-พรอเฟซี (Les Prophéties) ซึ่งตีพิมพ์ในปี 1555 โดยชุดคำทำนายประกอบด้วยบทกวีสี่บรรทัดอันลึกลับ 942 บท ซึ่งเขากล่าวอ้างว่าสามารถทำนายอนาคตได้ โดยส่วนใหญ่มักเกี่ยวกับเหตุการณ์ร้ายแรง
บทกวีเหล่านี้มักถูกอธิบายว่าเป็นการกล่าวที่มีความคลุมเครือและขาดบริบท โดยหนึ่งในบทกวีเหล่านี้ได้รับการแปลความว่าหมายถึง “การสิ้นพระชนม์ของพระสันตะปาปาองค์ชรา” ซึ่งโพสต์บนโซเชียลมีเดียและบทความออนไลน์ในสัปดาห์ที่ผ่านมาบางส่วนได้เชื่อมโยงบทกวีนี้กับการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส
อย่างไรก็ตาม มีพระสันตะปาปาหลายสิบพระองค์ที่สิ้นพระชนม์ตั้งแต่ปี 1555 เป็นต้นมา ดังนั้นจึงไม่ชัดเจนว่าเหตุใดบทกวีดังกล่างจึงยังเกี่ยวข้องกับพระสันตะปาปาฟรานซิส

ที่มาของภาพ : Getty Pictures
โหราศาสตร์ เป็นศาสตร์ที่ในทางปฏิบัติแล้วไม่มีการสนับสนุนในทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งอ้างว่าดวงดาวสามารถมีอิทธิพลต่อเหตุการณ์ของมนุษย์ ศาสตร์นี้ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงศตวรรษที่ 16
Skip ได้รับความนิยมสูงสุด and proceed readingได้รับความนิยมสูงสุด
ได้รับความนิยมสูงสุด
ร้านหนังสือโหราศาสตร์ผุดขึ้นทุกมุมถนน และมีผู้ทำอาชีพโหรหรือนักทำนายคอยให้คำแนะนำในทุกเรื่อง ตั้งแต่เรื่องอาชีพการงาน ความสัมพันธ์ ไปจนถึงสุขภาพ
หนึ่งในนั้นคือนอสตราดามุส ที่เปิดให้บริการด้านโหราศาสตร์ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมาก โดยเขาตีความทำนายดวงชะตาให้กับคนรวยและผู้มีอำนาจ
อย่างไรก็ตาม นอสตราดามุส ไม่เคยได้รับการฝึกอบรมอย่างเป็นทางการในด้านโหราศาสตร์ ซึ่งถือเป็นสาขาวิชาในสมัยนั้น และเพื่อนร่วมสมัยในยุคนั้นของเขาบางคนก็มองว่านอสตราดามุสเป็นคนลวงลวง แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ บทกวีสั้น ๆ ที่แฝงความหมายลึกลับของเขาก็ยังได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ประชาชนในเวลานั้น และบทกวีหลายฉบับของเขากลายเป็นหนังสือขายดี
ศตวรรษที่ 16 เป็นช่วงเวลาที่ค่อนข้างยากลำบากสำหรับชาวยุโรปส่วนใหญ่ ซึ่งต้องเผชิญกับสงคราม พืชผลเสียหาย และความอดอยาก ขณะที่กาฬโรคก็กำลังบ่อนทำลายเมืองต่าง ๆ
ท่ามกลางความโกลาหลเหล่านี้ คำทำนายของนอสตราดามุสก็มอบทั้งคำเตือนและการปลอบใจที่แสนประหลาด
“ทุกคนมีความวิตกกังวลมาก ในช่วงศตวรรษที่ 16 ” ดร. มิเชลล์ พเฟฟเฟอร์ นักประวัติศาสตร์ด้านวิทยาศาสตร์และศาสนาจากวิทยาลัย แมกดาเลน มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด กล่าว
“ในช่วงเวลาที่มีความไม่แน่นอนอย่างมากเช่นนี้ ผู้คนต่างแสวงหาคำตอบ คำแนะนำ และแสวงหาความมั่นใจว่ามีแผนการที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นรออยู่ข้างหน้า”
เช่นเดียวกับผู้คนในปัจจุบันที่มักหันไปพึ่งการดูดวงชะตา ผู้ติดตามนอสตราดามุสในสมัยนั้นพบว่าผลงานของเขาช่วยให้พวกเขาเข้าใจโลกที่ปั่นป่วน และรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้น
หลายร้อยปีต่อมา ผู้สนับสนุนของนอสตราดามุสได้กล่าวอ้างว่า เขาได้ทำนายเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์มากมาย รวมถึงสงครามโลกทั้งสองครั้ง การทิ้งsะเบิดนิวเคลียร์ที่เมืองฮิโรชิมาและนางาซากิ ประเทศญี่ปุ่น การขึ้นสู่อำนาจของฮิตเลอร์ และการระบาดของโควิด-19 แม้ว่าเขาจะไม่เคยเอ่ยชื่อเหตุการณ์เหล่านี้ก็ตาม
คำทำนายของนอสตราดามุสเขียนขึ้นด้วย “คำพูดที่คลุมเครืออย่างยิ่ง ซึ่งสามารถเข้าได้กับสถานการณ์ใดก็ได้” โจเอลล์ โรลโล-คอสเตอร์ ศาสตราจารย์ด้านประวัติศาสตร์ยุคกลางที่มหาวิทยาลัยโรดไอส์แลนด์กล่าว “เมื่อคุณเกิดความไม่แน่ใจ กำกวม และไม่ชัดเจนเพียงพอ ก็สามารถหาคู่สถานการณ์ที่ตรง กับคำทำนาย ได้”
ถึงกระนั้น ชื่อและคำทำนายของนอสตราดามุสก็ยังคงเป็นที่จดจำของสาธารณชน
นอกเหนือจากคำทำนายของเขาที่เหนือกาลเวลา เนื่องจากมีเพียงไม่กี่เล่มที่มีวันที่ระบุอย่างชัดเจนแล้ว หนังสือที่ตีความงานเขียนของนอสตราดามุสยังมียอดขายมหาศาล โดยมีหนังสือมากกว่า 100 เล่มที่ถูกตีพิมพ์ในภาษาอังกฤษเพียงแค่ภาษาเดียวเท่านั้น
การตีความคำทำนายของเขาในสิ่งพิมพ์ที่ออกมาใหม่ ๆ ซึ่งเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ข่าวระดับโลกช่วยทำให้นอสตราดามุสเป็นที่รู้จักของสาธารณชนในศตวรรษที่ 20
หลังจากเหตุการณ์ 9/11 หนังสือของนอสตราดามุสก็ติดอันดับหนังสือขายดี เนื่องจากผู้ติดตามเชื่อมโยงคำทำนายของเขากับเหตุการณ์โจมตีดังกล่าว
หนังสือพิมพ์เดอะนิวยอร์กไทมส์ รายงานว่า อีเมลที่เป็นกระแสไวรัลหลังจากเหตุการณ์โจมตี 9/11 ได้รวบรวมข้อความต่าง ๆ ของนอสตราดามุสและคำพูดที่ไม่ใช่ของเขาเองเข้าด้วยกันเพื่อสร้างข้อความที่ชักจูงให้เห็นว่านอสตราดามุส ทำนายเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น โดยข้อความดังกล่าวมีใจความว่า “ไฟไหม้เมืองใหม่อันยิ่งใหญ่/ ในเมืองยอร์ก จะมีการพังทลายครั้งใหญ่”
ผู้สนับสนุนของเขาอ้างด้วยว่า นอสตราดามุสทำนายเหตุการณ์อื่น ๆ อีกด้วย เช่น การลงจอดบนดวงจันทร์ของยานอะพอลโล ภัยพิบัติจากกระสวยอวกาศชาเลนเจอร์ และแม้แต่การสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2
ทั้งนี้ในปัจจุบันมีความเป็นไปได้มากว่า คนส่วนใหญ่ไม่ได้สนใจข้อความต้นฉบับของนอสตราดามุส แต่กลับพบเห็นเขาในบทความออนไลน์หรือมีมบนโซเชียลมีเดีย

ที่มาของภาพ : Getty Pictures
คำทำนายอื่น ๆ เกี่ยวกับพระสันตะปาปาได้ปรากฏขึ้นอีกครั้งทางโลกออนไลน์
คำทำนายเกี่ยวกับพระสันตะปาปา ซึ่งเชื่อกันว่าเขียนโดยนักบุญมาลาคี ถูกบางคนตีความว่าพระสันตะปาปาฟรานซิสอาจเป็นพระสันตะปาปาองค์สุดท้าย แต่นักวิชาการได้ตั้งคำถามถึงที่มาที่แท้จริงของข้อความนี้ และระบุว่าข้อความนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเหตุผลทางการเมือง
“คำทำนายนั้นน่าสนใจและชวนหลงใหล และบางคนก็เอนเอียงไปทางแนวคิดประเภทนี้ ซึ่งอยู่นอกกระแสหลัก มันเป็นส่วนหนึ่งของตัวเรา” โจเซฟ อุสซินสกี ศาสตราจารย์ด้านรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยไมอามี กล่าว
“บางครั้งความบันเทิงก็ผลักดันให้ผู้คนมีความเชื่อ บางครั้งผู้คนก็แค่ยอมรับเพียงแนวคิดที่ให้ความสบายใจหรือน่าสบายใจ”
ในยุคสมัยที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน จึงไม่น่าแปลกใจที่คำทำนายของนอสตราดามุส และคำทำนายอื่น ๆ จะยังคงได้รับความนิยม ผู้เชี่ยวชาญกล่าว
“ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก โหราศาสตร์และการทำนายดวงชะตา การแสวงหาการทำนายเหตุการณ์ในอนาคตหรือค้นพบความรู้ที่ซ่อนอยู่ มีเสน่ห์น่าดึงดูดใจอย่างมาก” ดร. พเฟฟเฟอร์กล่าว
“มนุษย์ไม่ได้เก่งในเรื่องการจัดการกับความไม่แน่นอนเสมอไป นักโหราศาสตร์และนักพยากรณ์ได้รับการยกย่องตลอดมาในประวัติศาสตร์ เนื่องจากพวกเขาสามารถช่วยผู้คนในการตัดสินใจที่ยากลำบากได้ และพวกเขาก็ยังสามารถปลอบโยนผู้คนได้ โดยบอกเป็นนัยว่ามีแผนที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นรออยู่ข้างในอนาคต”
ที่มา BBC.co.uk