
‘แสวง-เลขาฯกกต.' เผย เตรียมหารือ เคาะ ‘วันเลือกตั้ง' ตาม ‘พ.ร.ฎ.ยุบสภา' ชี้ช่อง รัฐธรรมนูญ มาตรา 104 เปิดช่องกำหนด ‘วันเลือกตั้งใหม่' – ขยาย 30 วัน หลังจากเหตุการณ์ปะทะชายแดนไทย-กัมพูชาสิ้นสุด
สำนักข่าวอิศรา . วันที่ 12 ธันวาคม 2568 นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์ความพร้อมเกี่ยวกับการเลือกตั้งภายหลังมีพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ยุบสภาผู้แทนราษฎร ว่า เงื่อนไขตามกฎหมาย เมื่อมีพ.ร.ฎ.ยุบสภา กกต.ต้องประกาศวันเลือกตั้งและประกาศจำนวนเขตเลือกตั้ง ภายใน 5 วัน จะได้วันเลือกตั้ง ส่วนสถานการณ์จะเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ อย่างไรก็ดี กฎหมายสามารถแก้ปัญหาได้ทุกเรื่อง
นายแสวงกล่าวว่า ส่วนกรณีเหตุการณ์ปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา 4-5 จังหวัด ซึ่งกฎหมายกำหนดให้ต้องเลือกตั้งภายในวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักรจะกระทบกับการเลือกตั้งหรือไม่นั้น กฎหมายมีทางออกในเรื่องนี้อยู่แล้ว
นายแสวงกล่าวว่า รัฐธรรมนูญ มาตรา 104 เขียนไว้ว่า ในกรณีที่มีเหตุจำเป็นอันมิอาจหลีกเลี่ยงได้ เป็นเหตุให้ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งตามวันที่กกต. ประกาศกำหนดตามมาตรา 102 หรือ มาตรา 103 กกต.จะ กำหนดวันเลือกตั้งใหม่ก็ได้ แต่ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งภายใน 30 วัน นับแต่วันที่เหตุดังกล่าวสิ้นสุดลง
“คำตามกฎหมายใช้คำว่า กำหนดวันเลือกตั้งใหม่ ถ้าเป็นภาษาชาวบ้านก็คือ ขยาย เพราะกฎหมายให้วันเลือกตั้งเป็นวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร ซึ่งไม่เฉพาะเพียงวันเลือกตั้งอย่างเดียว พอมีพ.ร.ฎ.ยุบสภา พอประกาศวันเลือกตั้ง มันเริ่มตั้งแต่วันรับสมัคร การหาเสียง ต้องนำมาพิจารณาให้หมด”นายแสวงกล่าว
เมื่อถามว่า เมื่อครบ 30 วัน สามารถขยายได้อีกหรือไม่ นายแสวงกล่าวว่า อย่าเอาสถานการณ์มาเป็นตัวตั้ง ขออธิบายข้อกฎหมายก่อน คำว่า เหตุดังกล่าวสิ้นสุดลง หมายความว่า ไม่มีเหตุอีกแล้ว จึงจะกำหนดให้มีการเลือกตั้งภายใน 30 วัน
“ไม่ใช่ว่าเลือกตั้งภายใน 30 วัน แต่เหตุมันต้องจบแล้วจึงค่อยมากำหนดวันเลือกตั้งภายใน 30 วัน”นายแสวงกล่าว
นายแสวงกล่าวว่า ในวันที่ 15 ธ.ค.68 กกต.จะหารือเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้ง และในวันที่ 16 ธ.ค.68 จะหารือวันเลือกตั้ง วันสมัคร จำนวนเขต
“พอมาดูรัฐธรรมนูญมาตรา 104 ถ้าจะเลื่อนวันเลือกตั้ง ต้องกำหนดวันเลือกตั้งก่อน ไม่ใช่อยู่ๆ กกต. เลื่อนวันเลือกตั้งเลย ต้องมีเหตุตามกฎหมาย ซึ่งการประกาศเลื่อนเป็นอำนาจ กกต. แต่ต้องประเมินจากการฟังข้อมูลทุกฝ่าย”นายแสวงกล่าว
นายแสวงกล่าวว่า อีกทางออกหนึ่ง คือ การลงทะเบียนการไปออกเสียงลงคะแนนล่วงหน้าเพื่อให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปลงนอกหน่วย
เมื่อถามว่า ถ้าเป็นการจัดการเลือกตั้งล่วงหน้า เป็นไปได้หรือไม่ว่า ให้จัดการเลือกตั้งในศูนย์อพยพ นายแสวงกล่าวว่า ได้พิจารณากับผู้ที่เกี่ยวข้องแล้ว เหมือนกับกรณีผู้พิการที่มีกฎหมายรองรับเป็นการเฉพาะ แต่กรณีเลือกตั้งในศูนย์อพยพยังไม่มีกฎหมายรองรับ ต้องใช้วิธีลงทะเบียน โดย กกต. จัดหาพาหนะพาไปผู้มีสิทธิไปลงคะแนนล่วงหน้า
“ส่วนจะใช้ทางออกใด จะใช้ตามมาตรา 104 หรือไม่ หรือจะบริหารเฉพาะสถานการณ์นั้นเป็นพื้นที่พิเศษก็มีกฎหมายให้ทำ อยู่ที่เราประเมิน เราก็ต้องมาชั่งว่าจะทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตหรือเที่ยงทำหรือไม่”นายแสวงกล่าว
นายแสวงกล่าวว่ากกต.ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยมีเป้าหมายให้การจัดการเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และชีวิตของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง













