เพื่อนกำลังดูดพลังงานของคุณอยู่หรือเปล่า ? 3 วิธีรับมือกับ “แวมไพร์สังคม”

Article Recordsdata
    • Writer, เอมิลี โฮลท์
    • Characteristic, บีบีซี นิวส์

คุณมีเพื่อนที่เหมือนผีดิบสูบพลังงานชีวิต หรือ “แวมไพร์พลังงาน” (energy vampire) อยู่ในชีวิตหรือเปล่า ?

นี่ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติที่หิวกระหายเลืoด แต่ “แวมไพร์พลังงาน” หมายถึงเพื่อนฝูงที่ดูเหมือนจะดูดพลังงานของคุณไปในยามที่คุณใช้เวลาอยู่กับพวกเขา

คนเหล่านี้อาจบ่นมาก พูดแต่เรื่องของตัวเอง และไม่ได้แสดงออกว่าสนใจคุณหรือชีวิตของคุณจริง ๆ เลย

แล้วคุณจะรู้ได้อย่างไรว่ามีเพื่อนแบบนี้อยู่ ?

ซูซี รีดดิง นักจิตวิทยาและนักเขียน ชี้ว่าสัญญาณทั่วไปของคนกลุ่มนี้ คือความต้องการความสนใจและต้องการการยืนยันจากคนอื่นมากเกินไป

แวร์ไพร์สังคมอาจค่อย ๆ ลดทอนอารมณ์ของคุณลงด้วยคำชมเชยแบบประชดประชัน หรือกดดันให้คุณมองโลกในแง่ดี โดยไม่อนุญาตให้คุณแสดงออกว่าแท้จริงแล้วคุณรู้สึกอย่างไร

ราธิกา สังฆานี นักเขียนและนักข่าว กล่าวว่า ความรู้สึกของคุณหลังจากพบปะคนประเภทนี้มักเป็นสัญญาณเตือนให้รู้

“ฉันกลับมาแล้วคิดว่ามันไม่ดีเลย ฉันเหนื่อยมากจริง ๆ และฉันก็มองเห็นว่าพวกเขาต่างหากที่เป็นปัญหา ไม่ใช่ฉัน”

Skip ได้รับความนิยมสูงสุด ได้รับความนิยมสูงสุด

of ได้รับความนิยมสูงสุด

หากคุณกำลังประสบปัญหานี้ นี่คือ 3 วิธีในการรับมือกับ “แวมไพร์สังคม”

1. บอกไปตรง ๆ ว่าพวกเขาทำให้คุณรู้สึกอย่างไร

ที่มาของภาพ : Getty Photos

ราธิกาเชื่อว่าคนเราควรมีความซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกของตนเอง

หลายคนอาจไม่ตระหนักว่าพฤติกรรมของตัวเองส่งผลกระทบต่อคุณอย่างไร

มันอาจเป็นการสนทนาที่ชวนอึดอัด แต่การพูดออกไปและบอกพวกเขาไปตรง ๆ ว่าคุณรู้สึกอย่างไรอาจมีประสิทธิผลมาก

“มีตัวอย่างมากมายที่ผู้ได้รับฟีดแบ็กแบบนั้นจะรู้สึกตกอกตกใจ พวกเขาไม่รู้เลยว่าพฤติกรรมของตัวเองส่งผลกระทบต่อคนอื่นมากแค่ไหน” ซูซี กล่าว

ความซื่อสัตย์กับตัวเองสามารถช่วยให้คุณรักษามิตรภาพเอาไว้ได้

ราธิกาเสนอให้เปิดสนทนาในทำนองว่า “เวลาเราไปแฮงก์เอาท์ด้วยกัน ฉันรู้สึกว่าไม่มีพื้นที่สำหรับฉันมากนัก ฉันไม่รู้สึกว่ามีใครรับฟัง และไม่มีใครถามคำถามอะไรฉันเลย”

ถ้าพวกเขาเป็นเพื่อนแท้ พวกเขาจะฟังสิ่งที่คุณพูดและไม่เพิกเฉย

“ถ้าพวกเขาปฏิเสธทันทีหรือตอบโต้กลับ นั่นแสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่ใช่คนที่คุณต้องการในชีวิตอีกต่อไป” เธอกล่าว

2. ตั้งกฎในการอยู่ร่วมกันให้ชัดเจน

ที่มาของภาพ : Getty Photos

การเปลี่ยนแปลงกิจกรรมที่ทำกับเพื่อน ๆ อาจช่วยแก้ปัญหาได้

ถ้าเพื่อนของคุณไม่แสดงความปรารถนาที่จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของตัวเอง และคุณไม่สามารถแยกขาดจากชีวิตของกันและกันได้ สิ่งสำคัญคือต้องกำหนดเส้นแบ่งให้ชัดเจนเพื่อปกป้องตัวเอง

นี่อาจทำได้โดยการลดเวลาที่คุณใช้กับพวกเขา หรือตั้งกฎในการอยู่ด้วยกัน “ให้ชัดเจนว่าอะไรทำได้และอะไรทำไม่ได้”

ซูซียกตัวอย่างเช่น คุณสามารถบอกว่า “อย่าส่งข้อความแบบรัว ๆ มาหาฉัน” หรือ “เราจะไม่คุยเรื่องชีวิตที่ดรามา”

การเปลี่ยนแปลงสิ่งที่คุณทำเมื่อใช้เวลาร่วมกันสามารถช่วยได้ หากปกติคุณออกไปกินข้าว พูดคุย หรือดื่มกาแฟด้วยกัน ลองหากิจกรรมอื่นทำดู

“ทำไมคุณไม่ไปเดินเล่นด้วยกันล่ะ ทำไมไม่ออกกำลังกายด้วยกันล่ะ จะได้มีแรงทำในสิ่งที่ต้องการบ้าง แบบนี้จะช่วยลดแนวโน้มที่พวกเขาจะครอบงำทุกสิ่งลงได้” ซูซี แนะนำ

3. เตรียมใจกรณีต้องตัดเพื่อน

ที่มาของภาพ : Getty Photos

ราธิกาเสนอให้บันทึกความรู้สึกของตัวเองหลังจากพบปะกับเพื่อน

ให้สังเกตความรู้สึกของคุณหลังจากได้พบกับเพื่อนให้ดี

“ถ้าคุณเคยพบปะสังสรรค์กัน ลองคิดดูว่า มันเป็น +2 หรือเปล่า คุณรู้สึกมีกำลังใจขึ้นไหม หรือเป็น 0 เท่าเดิม หรือเป็น -2 ที่พวกเขาทำให้คุณหมดพลัง”

คุณอาจมีความอดทนแตกต่างจากคนอื่น ดังนั้นคุณต้องเชื่อมั่นในการตัดสินใจของตัวเองว่าควรเริ่มจำกัดเวลาอยู่กับคน ๆ นั้นหรือไม่

ถ้าคุณรู้สึกว่าแก้ไขไม่ได้ ราธิกาบอกว่าคุณไม่ควรกลัวที่จะยุติความสัมพันธ์นี้

“ในบางสถานการณ์ ถ้ามันง่ายพอ ฉันก็จะถอนตัว โดยเฉพาะถ้าเป็นคนที่ฉันเพิ่งเจอ” ราธิกา บอก