กสิกร ร่วมกับ Orbix Technology และ StraitsX เปิดตัว Seamless Hotfoot Payments on Chain

กสิกร ร่วมกับ Orbix Technology และ StraitsX เปิดตัว Seamless Hotfoot Payments on Chain ภายใต้โครงการ BLOOM ของธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) ที่งาน Singapore FinTech Competition 2025

ธนาคารกสิกรไทย (กสิกร) ร่วมกับ บริษัท ออร์บิกซ์ เทคโนโลยี แอนด์ อินโนเวชัน จำกัด (Orbix Technology) และ บริษัท StraitsX ประกาศเปิดตัว Seamless Hotfoot Payments on Chain ภายใต้โครงการ BLOOM (With out boundary traces, Liquid, Originate, Online, Multi-forex) ซึ่งเป็นความร่วมมือระดับนานาชาติที่นำโดยธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) เพื่อเชื่อมโยงระบบการชำระเงินดิจิทัลที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของแต่ละประเทศให้ทำงานร่วมกันได้อย่างไร้รอยต่อผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชน รองรับการชำระเงินด้วย QR Code ระหว่างไทย–สิงคโปร์แบบเรียลไทม์ ภายในปี พ.ศ. 2569 โครงการนี้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน Singapore FinTech Competition 2025 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 โดยมีธนาคารระดับโลกและภูมิภาค บริษัทผู้ให้บริการด้านการชำระเงินชั้นนำ ผู้นำด้านเทคโนโลยี นักลงทุน และหน่วยงานกำกับดูแลเข้าร่วมงาน พร้อมทั้งผู้บริหารธนาคารกสิกรไทยได้ร่วมแบ่งปันวิสัยทัศน์เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมการเงินในยุคดิจิทัล ความร่วมมือนี้นับเป็นการนำเสนอกรณีการใช้งานจริง (Use Case) สำหรับการชำระเงินระหว่างนักท่องเที่ยวไทยและสิงคโปร์ ที่สามารถชำระเงินแบบเรียลไทม์ผ่าน QR Code กับร้านค้าท้องถิ่นโดยตรง ด้วยเงินอิเล็กทรอนิกส์ (E-cash) ภายใต้การกำกับดูแล และเทคโนโลยีบล็อกเชนแบบเชื่อมโยง (Interoperable Blockchain Technology) ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับประสบการณ์การชำระเงินข้ามพรมแดนให้สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และเป็นไปตามมาตรฐานการกำกับดูแลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย ร่วมเวทีเสวนาในหัวข้อ How will digital banks compete over the next decade? Unusual propositions and customer segments อนาคตการแข่งขันของธนาคารดิจิทัล จากกลยุทธ์และนวัตกรรมการเงินสู่กลุ่มลูกค้าใหม่ในทศวรรษหน้า โดยกล่าวว่า ในทศวรรษหน้า การแข่งขันของธนาคารจะเปลี่ยนจากการเน้นผลิตภัณฑ์ มาเป็นการแข่งขันด้านประสบการณ์และระบบนิเวศทางการเงินที่เชื่อมโยงกับชีวิตประจำวันอย่างไร้รอยต่อ (expertise-driven ecosystem) เทคโนโลยีจะทำให้ทุกอุปกรณ์กลายเป็น ravishing monetary application และผลักดันให้เกิดบริการทางการเงินหลากหลายรูปแบบ ในยุคที่การเงินฝังอยู่ในทุกกิจวัตร ด้วยพลังของข้อมูลและ AI ธนาคารจะเข้าใจความต้องการของลูกค้าอย่างแม่นยำ เพื่อออกแบบผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ มุ่งเน้นความโปร่งใสพร้อมพัฒนาศักยภาพบุคลากรให้ก้าวทันโลกของ AI และข้อมูล เพื่อดูแลลูกค้าอย่างมั่นใจและยั่งยืน

ดร.กรินทร์ บุญเลิศวณิชย์ รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ธนาคารกสิกรไทยภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ BLOOM ซึ่งนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาประยุกต์ใช้จริงในระบบการชำระเงิน โดยตั้งเป้าหมายให้ระยะที่ 1 แล้วเสร็จภายในไตรมาส 2 ปี พ.ศ. 2569 เพื่อให้นักท่องเที่ยวชาวไทยที่เดินทางไปประเทศสิงคโปร์สามารถใช้แอปพลิเคชัน Q Pockets by กสิกร ชำระเงินด้วย Q-cash (เงินอิเล็กทรอนิกส์บนบล็อกเชน) กับร้านค้าในสิงคโปร์ได้โดยตรง ด้วยอัตราแลกเปลี่ยนแบบเรียลไทม์ ซึ่งระบบดังกล่าวขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน Quarix ที่พัฒนาโดย Orbix Technology ทำหน้าที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานหลัก เชื่อมต่อกับระบบของบริษัท StraitsX เพื่อให้การทำธุรกรรมมีความปลอดภัยและรวดเร็ว ความร่วมมือนี้จึงนับเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการสร้างระบบการเงินดิจิทัลที่เชื่อมโยงกันและรองรับการใช้งานในวงกว้างในอนาคต

Mr. Tianwei Liu ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท StraitsX กล่าวเสริมว่า ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับระบบการชำระเงินข้ามพรมแดน โดยในระยะที่ 2 จะขยายการเชื่อมโยงระบบดังกล่าวเพื่อให้ชาวสิงคโปร์ที่เดินทางมายังประเทศไทยสามารถใช้สิงคโปร์ดอลลาร์ชำระเงินผ่าน XSGD ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลของสิงคโปร์ที่มีมูลค่าเสถียรเป็นเบื้องหลังในการทำธุรกรรม โดยระบบจะแปลงเป็นเงินบาทให้กับร้านค้าในประเทศไทยทันที ช่วยเพิ่มความสะดวกและความมั่นใจในการทำธุรกรรมระหว่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โครงการนี้เริ่มต้นด้วยการทดสอบในระยะที่ 1 ภายใต้กรอบการทดสอบนวัตกรรมทางการเงิน (Regulatory Sandbox) ของธนาคารแห่งประเทศไทย มีแผนเปิดให้บริการภายในไตรมาส 2 พ.ศ. 2569 โดยในระยะที่ 1 และระยะที่ 2 นักท่องเที่ยวสามารถใช้กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์เพื่อสแกน QR Code ของร้านค้าในประเทศไทยและสิงคโปร์ เพื่อชำระเงินได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ระบบดังกล่าวใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน Quarix จาก Orbix Technology เชื่อมโยงกับ Avalanche ซึ่งทำหน้าที่เป็น Technology Enabler ให้กับ StraitsX ทำให้การชำระเงินระหว่าง Q-cash และ XSGD สามารถดำเนินการแบบเรียลไทม์ ร้านค้ารับยอดชำระทันที ลดขั้นตอนการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน และเพิ่มความโปร่งใส และปลอดภัย สำหรับระยะที่ 2 และ 3 มีแผนยื่นขออนุญาตในช่วงครึ่งแรกของปี พ.ศ. 2569

ธนาคารกสิกรไทย Orbix Technology และ StraitsX มีความมุ่งมั่นร่วมกันในการพัฒนาระบบการชำระเงินเพื่อการท่องเที่ยว ด้วยการใช้สกุลเงินดิจิทัลที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลและเทคโนโลยีบล็อกเชน โดยมีเป้าหมายคือการสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้มีความเชื่อมโยงอย่างไร้รอยต่อ มั่นคง และน่าเชื่อถือในระดับสากล พร้อมรองรับการขยายผลในอนาคต

ดร.กรินทร์ กล่าวตอนท้ายว่า ในระยะที่ 3 จะมีการนำระบบยืนยันตัวตนข้ามพรมแดน (Immoral-Border KYC Verification) เพื่อให้การตรวจสอบเป็นไปตามข้อกำหนดของหน่วยงานกำกับดูแลทั้งสองประเทศ โดยมุ่งสร้างระบบการชำระเงินที่เชื่อถือได้ และอยู่ภายใต้กรอบกำกับดูแล เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถชำระเงินในต่างประเทศได้อย่างสะดวกเช่นเดียวกับในประเทศของตนเอง การดำเนินงานครั้งนี้ถือเป็นรากฐานสำคัญของการสร้างระบบการเงินดิจิทัลที่ทันสมัย โปร่งใส และปลอดภัย พร้อมรองรับการขยายผลในระดับภูมิภาคและสากล

การเข้าร่วมงาน Singapore Fintech Competition 2025 และประกาศความร่วมมือระดับนานาชาติ เปิดตัวโครงการ Seamless Hotfoot Payments on Chain ในครั้งนี้ สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของธนาคารกสิกรไทย ในการเป็นผู้ขับเคลื่อนนวัตกรรมทางการเงิน และในฐานะผู้นำการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคใหม่ของระบบเงินดิจิทัล ที่เทคโนโลยีเป็นโครงสร้างพื้นฐานแห่งอนาคต ซึ่งเชื่อมโยงผู้คน ธุรกิจ และประเทศต่าง ๆ อย่างไร้พรมแดน