กมธ.พ.ร.บ.ปปง. เพิ่ม 7 ความผิดมูลฐานฟอกเงิน – หมอชลน่าน กังวล ยุบสภาก่อน-แท้ง

กมธ.วิสามัญร่างพ.ร.บ. ปปง. ฯ เห็นชอบ เพิ่ม 7 ความผิดมูลฐานเข้าข่ายกระทำผิดฟอกเงิน ไม่เห็นชอบ-ถอน 3 – ‘หมอชลน่าน’ แจ้ง หากรัฐบาลยุบสภาก่อน 31 ม.ค.69 อาจไม่ทันสภาฯชุดนี้ – ลุ้นรัฐบาลใหม่ หยิบขึ้นมาพิจารณาภายใน 60 วัน

สำนักข่าวอิศรา . รายงานว่า คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … ได้พิจารณาผลการศึกษาของคณะอนุกมธ.ฯ พิจารณาศึกษาการแก้ไขเพิ่มเติมความผิดมูลฐาน ร่าง พ.ร.บ.ปปง. (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. เกี่ยวกับร่างบทนิยามความผิดมูลฐานและมีมติเห็นชอบเพิ่มความผิดมูลฐานของมาตรา 10 ดังต่อไปนี้

1. ความผิดมูลฐานเกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว (28)

2. ความผิดมูลฐานเกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (29)

3. ความผิดมูลฐานเกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (30)

4. ความผิดมูลฐานเกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (31)

5. ความผิดมูลฐานเกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (32)

6. ความผิดมูลฐานเกี่ยวกับกฎหมายสิ่งแวดล้อม (33)

7. ความผิดมูลฐานเกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยการให้สินบนเจ้าพนักงานของรัฐ (34)

อย่างไรก็ตาม ความผิดมูลฐานที่ที่ประชุมกมธ.พ.ร.บ.ปปง.ฯ มีมติรอ-ไม่เห็นชอบ และถอนเรื่อง มีดังนี้ 1. ความผิดมูลฐานเกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยการประกอบกิจการกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม หรือ กฎหมายว่าด้วยวิทยุคมนาคม (รอ/ไม่เห็นชอบ) 2. ความผิดมูลฐานเกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยเครื่องหมายการค้า (ถอน) และ 3. ความผิดมูลฐานเกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง (ถอน)

ทั้งนี้ ความผิดมูลฐานในร่างพ.ร.บ.ปปง.ฉบับใหม่ ตามมาตรา 10 มีดังนี้

(22) ความผิดตามประมวลรัษฎากร มาตรา 37 มาตรา 37 ทวิ หรือ มาตรา 90/4 (หลีกเลี่ยง-ขอคืนภาษี) ที่ได้กระทำในลักษณะเป็นเครือข่ายอาชญากรรม

(23) ความผิดเกี่ยวกับการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย หรือ ความผิดเกี่ยวกับการสนับสนุนทางการเงินแก่การแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง

(24) ความผิดเกี่ยวกับการบังคับใช้แรงงานหรือบริการตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ที่ได้กระทำในลักษณะเป็นเครือข่ายอาชญากรรม หรือเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำได้รับอันตรายสาหัสหรือถึงแก่ความเสียชีวิต

(25) ความผิดเกี่ยวกับการยักยอกหรือฉ้อโกงหรือประทุษร้ายต่อทรัพย์ หรือกระทำโดยทุจริต ซึ่งกระทำโดยกรรมการ ผู้จัดการ พนักงาน ตัวแทน หรือบุคคลใดซึ่งต้องรับผิดชอบในการดำเนินงาน หรือได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติงานของนิติบุคคลหรือจัดการกองทรัสต์

ทั้งนี้ ตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กฎหมายว่าด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า กฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล หรือกฎหมายว่าด้วยทรัสต์เพื่อธุรกรรมในตลาดทุน แล้วแต่กรณี

(26) ความผิดเกี่ยวกับการเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราตามกฎหมายว่าด้วยการห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา ซึ่งผู้กระทำได้ทวงถามหนี้ในลักษณะข่มขู่ ใช้ความรุนแรงหรือกระทำการอื่นใดที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ร่างกาย ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของลูกหนี้หรือผู้อื่น หรือทวงถามหนี้ในลักษณะที่เป็นเท็จ หรือทำให้เกิดความเข้าใจผิด โดยการแสดงหรือการใช้ข้อความ เครื่องหมายสัญลักษณ์ หรือเครื่องแบบที่ทำให้เข้าใจว่าเป็นการกระทำของศาล เจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือหน่วยงานของรัฐ อันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการทวงถามหนี้ และได้กระทำในลักษณะเป็นเครือข่ายอาชญากรรม

(27) ความผิดเกี่ยวกับการร่วมกันหรือสมยอมในการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐข่xขืxใจผู้อื่นให้จำยอม ใช้อุบายลวงลวง หรือกระทำการโดยวิธีการอื่นใดเป็นเหตุให้ผู้อื่นไม่มีโอกาสเข้าทำการเสนอราคาอย่างเป็นธรรมหรือให้มีการเสนอราคาโดยหลงผิด หรือกระทำการใดๆ เพื่อกีดกันการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม ตามกฎหมายว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ

@ ยุบสภาก่อน 31 ม.ค.69 – ไม่ทันสภาฯชุดนี้

รายงานข่าวแจ้งว่า กมธ.วิสามัญร่างพ.ร.บ.ปปง.ฯ ได้พิจารณามาถึงครั้งที่ 22 เมื่อวันที่ 2 ต.ค.68 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ประธานกมธ. ฯ ได้แจ้งต่อที่ประชุมว่า จากการแถลงนโยบายของรัฐบาลกำหนดไทม์ไลน์ยุบสภาในวันที่ 31 ม.ค.69 อาจจะทำให้ไม่สามารถพิจารณาได้ทันในสมัยประชุมนี้ อย่างไรก็ตาม หากร่างกฎหมายสามารถเข้าสู่การพิจารณาของสภาในช่วงเดือนธันวาคมและผ่านความเห็นชอบได้ จะสามารถส่งให้วุฒิสภาพิจารณาต่อ และหากวุฒิสภามีมติเห็นชอบโดยไม่มีการแก้ไขเพิ่มเติม สามารถทูลเกล้าฯ ได้ก่อนวันที่ 30 ม.ค.69 ก็จะทำให้ร่างกฎหมายมีโอกาสสูงที่จะประกาศใช้

“หากยุบสภาก่อนที่จะเสร็จสิ้นกระบวนการ กฎหมายที่ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาจะตกไปตามรัฐธรรมนูญ เว้นแต่รัฐบาลชุดใหม่หลังการเลือกตั้งจะแจ้งความประสงค์ต่อสภาฯ ภายใน 60 วัน นับแต่วันเข้ารับตำแหน่ง เพื่อให้พิจารณาร่างกฎหมายเดิมต่อไปได้”นพ.ชลน่านระบุ