อิสราเอลเผยนักโทษชาวปาเลสไตน์ 90 คนได้รับการปล่อยตัว หลังฮามาสปล่อย 3 ตัวประกันในฉนวนกาซา
เรือนจำอิสราเอลเปิดเผยว่า ได้ปล่อยตัวนักโทษชาวปาเลสไตน์ 90 คน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงหยุดยิงระยะแรกระหว่างอิสราเอลและฮามาสที่รอคอยกันมาเนิ่นนาน ก่อนหน้านี้ในวันอาทิตย์ (19 ม.ค.) กลุ่มฮามาสได้ปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอล 3 คนให้กับสภากาชาดในเมืองกาซา ไม่กี่ชั่วโมงหลังเริ่มต้นการหยุดยิง ก่อนจะส่งมอบตัวประกันให้กับกองทัพอิสราเอล โดยอิสราเอลระบุว่าทั้ง 3 คนกลับมายังดินแดนอิสราเอลแล้ว
ตัวประกันชุดแรกที่ได้รับการปล่อยตัวเป็นผู้หญิงทั้งหมด ได้แก่ โดรอน สไตน์เบรเชอร์ วัย 31 ปี เอมิลี ดามารี ลูกครึ่งชาวอังกฤษ-อิสราเอล วัย 28 ปี งถูกจับตัวไปจากคิบบุตซ์ของพวกเขา และ โรมี โกเนน วัย 24 ปี ซึ่งถูกลักพาตัวไประหว่างร่วมงานเทศกาลซูเปอร์โนวา โดยทั้งหมดกำลังเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเทลอาวีฟ และอาการอยู่ในเกณฑ์คงที่
เอมิลี อยู่ในสภาพมีผ้าพันแผลพันนิ้วที่หายไป 2 นิ้ว ขณะที่เธอกำลังกอดมารดาของเธอ ในวิดีโอคอลที่แชร์กับ ลูซี แมนนิง ผู้สื่อข่าวบีบีซี
ด้านกลุ่มฮามาสระบุว่า ทุกครั้งที่มีการปล่อยตัวประกัน จะแลกกับการปล่อยตัวนักโทษชาวปาเลสไตน์ 30 คนที่อยู่ในเรือนจำของอิสราเอล ถ้าเป็นเช่นนั้นย่อมหมายความว่าจะมีการปล่อยตัวชาวปาเลสไตน์ 90 คนในเร็ววันนี้
ต่อมาเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์อิสราเอลเปิดเผยว่า ได้ปล่อยตัวนักโทษชาวปาเลสไตน์ 90 คนในเรือนจำออฟเฟอร์ในเขตเวสต์แบงก์ที่ยึดครองโดยอิสราเอลแล้ว
Skip เรื่องแนะนำ and continue learningเรื่องแนะนำ
Cease of เรื่องแนะนำ
การหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและฮามาสมีผลบังคับใช้เมื่อ 19 ม.ค. แม้เกิดความล่าช้าในนาทีสุดท้ายก็ตาม
บรรยากาศในฉนวนกาซาเต็มไปด้วยการเฉลิมฉลองด้วยความดีใจระคนกับความเศร้าโศก เมื่อชาวปาเลสไตน์พลัดถิ่นได้หวนคืนบ้านเรือนและชุมชนของพวกเขา ซึ่งถูกถล่มด้วยการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลเป็นเวลาต่อเนื่องหลายเดือน
รถบรรทุกความช่วยเหลือเริ่มเข้าสู่ฉนวนกาซาด้วยเช่นกัน โดยข้อตกลงหยุดยิงกำหนดให้รถบรรทุก 600 คันต้องข้ามชายแดนทุกวัน
ภาพนาทีตัวประกันชุดแรกได้คืนสู่อ้อมกอดครอบครัว
กองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอล (IDF) เผยแพร่ภาพและวิดีโอ 3 ตัวประกันในนาทีที่พวกเธอได้กลับมาพบกับครอบครัวอีกครั้งที่โรงพยาบาลเชบาในกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล หลังถูกฮามาสจับตัวไปตั้งแต่ 7 ต.ค. 2023
ช่วงชุลมุนก่อนเริ่มข้อตกลงหยุดยิง
ช่วงเวลาเริ่มต้นข้อตกลงหยุดยิง เดิมกำหนดไว้ที่เวลา 08.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ของวันนี้ (19 ม.ค.) หรือตรงกับเวลา 13.30 น. ของไทย ทว่าก่อนกำหนดการจะมีผลใช้บังคับไม่ถึง 1 ชั่วโมง นายกรัฐมนตรีอิสราเอลได้สั่งการให้กองกำลังป้องกันอิสราเอล (IDF) ไม่เริ่มเข้าสู่ระยะหยุดยิง
นายเบนจามิน เนทันยาฮู ระบุในแถลงการณ์จากสำนักนายกรัฐมนตรีว่า ข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซาจะไม่เดินหน้าต่อไปจนกว่าฮามาสจะให้รายชื่อตัวประกันที่จะได้รับการปล่อยตัวชุดแรก
สำทับด้วยการแถลงอย่างสั้น ๆ ที่รายงานโดยสำนักข่าวรอยเตอร์ แดเนียล ฮาการี โฆษก IDF ระบุว่า การหยุดยิงในกาซาจะยังไม่เริ่มต้นขึ้นตราบใดที่ฮามาสไม่ปฏิบัติตาม “พันธะตามข้อตกลง”
ตามข้อตกลงหยุดยิงของ 2 ฝ่าย ระบุว่า รายชื่อของตัวประกันควรได้รับการเปิดเผยจากฮามาสอย่างน้อยเป็นเวลา 24 ชั่วโมงก่อนการแลกเปลี่ยนตัวประกัน
โฆษก IDF กล่าวด้วยว่า ปฏิบัติการทางการทหารของอิสราเอลในฉนวนกาซาจะเดินหน้าต่อไปจนกว่าฮามาสจะปฏิบัติตามข้อตกลง
ด้านฮามาสระบุว่า ความล่าช้าเกิดจาก “เหตุผลทางเทคนิคในภาคสนาม”
1 ชั่วโมงหลังพ้นเส้นตายที่ข้อตกลงหยุดยิงควรมีผลใช้บังคับ ดูเหมือนว่าอิสราเอลจะเดินหน้าโจมตีพื้นที่ฉนวนกาซา หลักฐานภาพถ่ายหลายภาพแสดงให้เห็นกลุ่มควันขนาดใหญ่เหนือพื้นที่ทางตอนเหนือของฉนวนกาซา
กองกำลังป้องกันอิสราเอลเผยแพร่แถลงการณ์ความคืบหน้าระบุว่า “IDF กำลังเดินหน้าปฏิบัติการและโจมตีกลุ่มเป้าหมายก่อการร้ายในฉนวนกาซา เมื่อชั่วครู่ ปืนใหญ่และเครื่องบินรบของกองกำลังป้องกันอิสราเอลได้โจมตีเป้าหมายของกลุ่มก่อการร้ายหลายแห่งในพื้นที่ตอนเหนือและกลางของฉนวนกาซา และ IDF ยังคงพร้อมในการป้องกันและการโจมตี และจะไม่ยอมให้มีอันตรายเกิดขึ้นกับพลเมืองของอิสราเอล”
ด้าน มะห์มุด บาซาล โฆษกหน่วยงานกลาโหมในกาซาที่ควบคุมโดยฮามาส เปิดเผยว่า ในช่วง 1 ชั่วโมงที่ข้อตกลงหยุดยิงควรจะมีผลใช้บังคับได้เกิดการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลในฉนวนกาซา เป็นผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 8 คน แบ่งเป็น ในเมืองกาซาซิตี 5 คน และทางตอนเหนืออีก 3 คน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกกว่า 25 คน
ภาพวิดีโอจากบริเวณจุดผ่านแดนราฟาห์ทางตอนใต้ของกาซา เผยให้เห็นว่ากลุ่มพลเรือนเริ่มออกเดินทาง ทว่าทหารอิสราเอลเตือนพวกเขาไม่ให้เดินทางเข้าไปในเขตกันชนที่อิสราเอลกั้นเขตไว้ และไม่ให้เข้าใกล้ทหารอิสราเอลหรือโครงสร้างพื้นฐานใด ๆ ของอิสราเอล
ต่อมาเวลา 09.15 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับเวลา 16.15 น. ของไทย สำนักงานนายกรัฐมนตรีอิสราเอลเปิดเผยว่า การหยุดยิงในฉนวนกาซาเริ่มต้นแล้ว ภายหลังกลุ่มฮามาสเปิดเผยชื่อตัวประกันชาวอิสราเอล 3 คนแรกที่วางแผนจะปล่อยตัว
อิสราเอลยังเปิดเผยรายชื่อตัวประกัน 33 คนที่คาดว่าฮามาสเตรียมปล่อยตัวผ่านบัญชีเอกซ์ของทางการอิสราเอลด้วย
ตัวประกันชาวอิสราเอลที่ฮามาสจะปล่อยตัวตามข้อตกลงหยุดยิงระยะแรกนั้นรวมถึงตัวประกันที่อายุน้อยที่สุดและอายุมากที่สุดที่ถูกฮามาสจับตัวไปเมื่อ 7 ต.ค. 2023 ด้วย
เคฟีร์ บิบาส ชมีอายุเพียง 9 เดือนตอนที่เขาถูกลักพาตัวไป และตอนนี้มีอายุครบ 2 ปีแล้ว ส่วน ชโลโม มานต์ซูร์ อายุ 86 ปี เป็นตัวประกันที่อายุมากที่สุดที่ถูกจับตัวไป
สารจากผู้นำอิสราเอล ก่อนวันเริ่มข้อตกลงหยุดยิง
ก่อนหน้านี้เมื่อคืนวันเสาร์ (18 ม.ค.) เนทันยาฮู ปรากฏตัวในแถลงการณ์ทางโทรทัศน์กล่าวว่า ประเทศของเขาพร้อมกลับไปทำสงครามสู้รบกับฮามาส หากการเจรจาเพื่อข้อตกลงหยุดยิงในระยะที่สองล้มเหลว
เนทันยาฮู กล่าวย้ำว่า นี่เป็นการหยุดยิง “ชั่วคราว” และอิสราเอลสงวนสิทธิ์ในการกลับมาเปิดการโจมตีในฉนวนกาซา และได้รับการสนับสนุนจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้ทำเช่นนั้น
ตอนหนึ่ง เนทันยาฮู ยังได้กล่าวถึงสิ่งที่เขาเรียกว่าความสำเร็จของปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลในช่วง 15 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงการสังหาร ยาห์ยา ซินวาร์ ผู้นำกลุ่มฮามาสด้วย
“เราได้เปลี่ยนโฉมหน้าของตะวันออกกลาง” เนทันยาฮูกล่าว และเสริมว่า ตอนนี้ฮามาส “โดดเดี่ยวอย่างสิ้นเชิง”
เนทันยาฮู ยังบอกว่า อิสราเอลจะไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงจนกว่าจะได้รับรายชื่อของตัวประกันที่ฮามาสจะปล่อยตัว
“อิสราเอลจะไม่ทนต่อการละเมิดข้อตกลง” เขากล่าว
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (15 ม.ค.) ฮามาสเปิดเผยว่า อิสราเอลได้โจมตีทางอากาศไปยังพื้นที่เป้าหมายของฮามาสและกลุ่มอิสลามิก ญิฮาด เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 120 คน
จะเกิดอะไรขึ้นบ้างตามแผนข้อตกลงหยุดยิง
เมื่อวันศุกร์ (17 ม.ค.) รัฐบาลอิสราเอลอนุมัติข้อตกลงหยุดยิงและการปล่อยตัวประกันหลังจากการหารือยาวนานหลายชั่วโมง
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า คาดการณ์ตัวประกันของฝ่ายอิสราเอล 33 คน จะได้รับการปล่อยตัวเพื่อแลกเปลี่ยนกับนักโทษชาวปาเลสไตน์ 1,890 คน
ตามข้อตกลงครั้งนี้ อิสราเอลจะเริ่มต้นถอนทหารออกจากฉนวนกาซา
สำหรับสถานที่ที่ตัวประกันคนแรกจะได้ถูกปล่อยตัวยังไม่ชัดเจน แต่นายทหารระดับสูงของอิสราเอลระบุว่า จุดรับตัวประกัน 3 จุด ได้ถูกจัดเตรียมไว้ในพื้นที่ชายแดนทางตอนเหนือ ตอนกลาง และตอนใต้ของกาซา
ก่อนหน้านี้แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับกลุ่มฮามาสบอกกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า ตัวประกัน 3 คนแรกที่จะได้รับการปล่อยตัว เป็นผู้หญิงทั้งหมด
หลังจากนั้นในวันที่ 16 ของการหยุดยิง การเจรจาในระยะที่ 2 จะเริ่มต้นขึ้น และจะเน้นที่การบรรลุ “ข้อตกลงถาวรเพื่อยุติสงคราม”
รายละเอียดของการเจรจาระยะที่ 2 ยังมีความไม่แน่นอนและคาดว่าจะเป็นการปล่อยตัวประกันส่วนที่เหลือ ซึ่งรวมทั้งตัวประกันเพศชาย ขณะที่นักโทษชาวปาเลสไตน์ที่ถูกคุมขังในเรือนจำอิสราเอลก็จะได้รับการปล่อยตัวเช่นกัน
การเจรจายังรวมถึงการถอนทหารทั้งหมดของอิสราเอลออกจากฉนวนกาซา และบีบีซีเข้าใจว่าตำรวจฮามาส ซึ่งจะไม่ติดอาวุธเว้นแต่จำเป็น จะจัดการส่งชาวปาเลสไตน์ผู้พลัดถิ่นหลายแสนคนกลับไปยังพื้นที่ทางตอนเหนือของฉนวนกาซา
ส่วนการตกลงหยุดยิงระยะที่ 3 และระยะสุดท้าย จะเกี่ยวข้องกับการฟื้นฟูกาซา ซึ่งในช่วงนี้จะใช้เวลาหลายปี และจะมีการส่งคืนร่างของตัวประกันที่เสียชีวิตด้วย
ย้อนเส้นทางข้อตกลงหยุดยิง อิสราเอล-ฮามาส
ข้อตกลงดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากสองฝ่าย – อิสราเอล กับ ฮามาสซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธและขบวนการทางการเมืองของปาเลสไตน์ ต่อสู้กันมานาน 15 เดือน
สงครามในฉนวนกาซาเริ่มต้นขึ้นเมื่อนักรบฮามาสหลายร้อยคนเปิดฉากโจมตีชายแดนทางใต้ของอิสราเอลเมื่อ 7 ต.ค. 2023 สังหารผู้คนไปราว 1,200 ราย และจับตัวประกันกว่า 250 รายกลับฉนวนกาซา
อิสราเอลตอบโต้กลับด้วยการปฏิบัติการทางทหาร โดยเริ่มจากการโจมตีทางอากาศทันที ก่อนบุกโจมตีภาคพื้นดินเต็มรูปแบบ 27 ต.ค. 2023 นับจากนั้น อิสราเอลก็โจมตีเป้าหมายทั่วฉนวนกาซาทั้งทางบก ทางทะเล และทางอากาศ ในขณะที่ฮามาสโจมตีอิสราเอลด้วยจรวด
กระทรวงสาธารณสุขของกลุ่มฮามาสในกาซารายงานว่า มีผู้เสียชีวิตจากการโจมตีของอิสราเอลกว่า 46,700 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพลเรือน
ต่อไปนี้คือเหตุการณ์สำคัญในระหว่างการเจรจาเพื่อยุติสงครามระหว่างอิสราเอล-ฮามาสในรอบ 15 เดือน โดยมีสหรัฐฯ อียิปต์ กาตาร์ พยายามรับบทผู้ไกล่เกลี่ยระหว่างอิสราเอลและฮามาส
อะไรนำไปสู่ข้อตกลงหยุดยิง
2023
7 ต.ค. กลุ่มติดอาวุธฮามาสจำนวนหลายร้อยคนเปิดฉากโจมตีอิสราเอลจากทางตอนใต้ชนิดที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน โดยบุกทะลุรั้วชายแดนและโจมตีชุมชนใกล้เคียง สถานีตำรวจ และฐานทัพทหาร มีผู้เสียชีวิตประมาณ 1,200 คน และจับตัวประกัน 251 คนกลับไปยังฉนวนกาซา นอกจากนี้ กลุ่มฮามาสยังยิงจรวดหลายพันลูกเข้าไปในอิสราเอล ทำให้กองทัพอิสราเอลตอบโต้กลับทันควัน ด้วยการโจมตีทางอากาศและปืนใหญ่ใส่กาซา
27 ต.ค. อิสราเอลบุกกาซาจากภาคพื้นดิน โดยกองทัพอิสราเอลเดินหน้ากวาดล้างกาซา ทำให้ประชากรกว่า 2.3 ล้านคนต้องกลายเป็นผู้พลัดถิ่น และมีผู้คนกว่า 46,000 คนถูกสังหาร ตามข้อมูลกระทรวงสาธารณสุขของกลุ่มฮามาส
21 พ.ย. ข้อตกลงที่จัดทำขึ้นโดยสหรัฐฯ กาตาร์ และอียิปต์ ทำให้กลุ่มฮามาสยอมปล่อยตัวประกัน 105 คน เพื่อแลกกับนักโทษชาวปาเลสไตน์ประมาณ 240 คนที่ถูกคุมขังอยู่ภายในเรือนจำของอิสราเอล ในช่วงหยุดยิงนาน 1 สัปดาห์ ทว่าอิสราเอลและฮามาสต่างกล่าวโทษกันไปมาว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้ข้อตกลงหยุดยิงล้มเหลว
28 ธ.ค. การทูตแบบเดินสายเจรจาไป-มา (shuttle deplomacy) เกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิงและปล่อยตัวตัวประกันฉบับใหม่เริ่มต้นขึ้น
2024
31 พ.ค. ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ร่างข้อเสนอของอิสราเอลสำหรับการหยุดยิง 3 ระยะเพื่อแลกกับการปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอล ทั้งนี้ข้อเสนอดังกล่าวเป็นพื้นฐานของข้อตกลงที่ตกลงกันในอีก 8 เดือนต่อมา
10 มิ.ย. คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติผ่านมติสนับสนุนแผนการหยุดยิง
31 ก.ค. การเจรจาถูกระงับลงหลังจากที่อิสราเอลลอบสังหาร อิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำทางการเมืองและหัวหน้าคณะเจรจาของฮามาส ในกรุงเตหะราน เมืองหลวงของอิหร่าน ก่อนที่การเจรจาจะกลับมาดำเนินต่อในอีก 2 สัปดาห์ต่อมา โดยในช่วงแรกไม่มีตัวแทนกลุ่มฮามาสเข้าร่วมแต่อย่างใด
17 ต.ค. กองกำลังอิสราเอลสังหาร ยาห์ยา ซินวาร์ ผู้นำกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาตอนใต้ โดย เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เรียกเหตุการณ์นี้ว่า “จุดเริ่มต้นของจุดจบ” ของสงคราม
9 พ.ย. หลังจากไม่มีความคืบหน้ามาหลายเดือน กาตาร์ระงับความพยายามในการเป็นตัวกลางในการเจรจาระหว่าง 2 ฝ่าย โดยกล่าวว่าอิสราเอลและฮามาสจำเป็นต้องเปลี่ยนจุดยืน ทั้ง 2 ฝ่ายต่างตำหนิซึ่งกันและกันสำหรับความขัดแย้งที่เกิดขึ้น
20 พ.ย. สหรัฐฯ ใช้สิทธิยับยั้งร่างมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่เรียกร้องให้หยุดยิงทันที โดยระบุว่า “ละทิ้ง” ความจำเป็นในการ “เชื่อมโยงการหยุดยิงกับการปล่อยตัวประกัน”
27 พ.ย. อิสราเอลตกลงหยุดยิงกับเลบานอน เพื่อยุติความขัดแย้งที่ดำเนินมา 13 เดือนกับกลุ่มติดอาวุธฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของฮามาส ข้อตกลงนี้จุดประกายความหวังให้กับข้อตกลงในกาซาอีกครั้ง โดยประธานาธิบดีไบเดนกล่าวว่าเขาจะผลักดันอีกครั้งกับมหาอำนาจในภูมิภาค
2 ธ.ค. ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 47 โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า “จะต้องเจอเรื่องเลวร้ายมากมาย” หากตัวประกันที่ยังถูกกักขังอยู่ในกาซาไม่ได้รับการปล่อยตัวภายในเวลาที่เขาหวนคืนสู่ทำเนียบขาวในวันที่ 20 ม.ค. 2025
17 ธ.ค. เจ้าหน้าที่ระดับสูงของปาเลสไตน์กล่าวว่า การเจรจาทางอ้อมอยู่ใน “ขั้นตอนสุดท้ายและเด็ดขาด” ในขณะที่รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอลกล่าวว่าข้อตกลงใกล้ความเป็นจริงมากกว่าที่เคย
2025
13 ม.ค. ไบเดน และ เนทันยาฮู พูดคุยทางโทรศัพท์เกี่ยวกับการเจรจา ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายที่ ไบเดน ยังอยู่ในตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ หลังจาก แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า ข้อตกลงนั้น “ใกล้สำเร็จ” และเขาหวังว่าจะ “บรรลุข้อตกลง” ได้ก่อนที่ทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่ง
15 ม.ค. นายกรัฐมนตรีกาตาร์เปิดเผยว่า อิสราเอลและฮามาสบรรลุข้อตกลงในการหยุดยิงและปล่อยตัวประกันในกาซา และข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 19 ม.ค. ส่วนประธานาธิบดีไบเดนกล่าวว่าจะ “ยุติการสู้รบในกาซา เพิ่มความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่จำเป็นอย่างยิ่งแก่พลเรือนชาวปาเลสไตน์ และทำให้ตัวประกันได้กลับไปใช้ชีวิตกับครอบครัวของพวกเขาอีกครั้ง”
ที่มา BBC.co.uk