แชร์ลิ้งค์นี้ : https://ด่วน.com/jnwk | ดู : 10 ครั้ง
ราชกิจจาฯ-แพร่-พรก.ไซเบอร์ฉบับใหม่-แบงก์-ค่ายมือถือรับผิดด้วย-โทษปรับสูงสุด-5-แสน

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 – พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ให้สถาบันการเงิน-ค่ายมือถือ รับผิดชอบความเสียหายจากภัยไซเบอร์ โทษปรับสูงุสุด 5 แสนบาท-จำคุกสูงสุด 1 ปี  มีผลบังคับใช้ 13 เมษายน 2568


สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org.) รายงานว่า วันที่ 12 เมษายน 2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) จำนวน 2 ฉบับ ได้แก่ พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 และ พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 โดยมีสาระสำคัญดังต่อไปนี้

ฉบับแรก พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ประกอบด้วย 10 มาตรา สาระสำคัญ อาทิ มาตรา 3 ให้ยกเลิกบทนิยามคำว่า ผู้ประกอบการ ในมาตรา 3 ของพ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 และให้ใช้ความว่า ผู้ประกอบธุรกิจ หมายความว่า ผู้ประกอบธุรกิจตามกฎหมายว่าด้วยระบบการชำระเงินและผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลตามความหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล

มาตรา 4 ให้เพิ่มบทนิยามคำว่า “กระเป๋าสินทรัพย์ดิจิทัล” หมายความว่า ระบบที่ใช้ในการจัดเก็บสินทรัพย์ดิจิทัล (wallet) และ “บัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์” หมายความรวมถึงบัญชีสินทรัพย์ดิจิทัล

มาตรา 5 ให้ยกเลิกความในวรรคหนึ่งของมาตรา 4 แห่งพ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน

“มาตรา 4 เพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในกรณีที่มี ‘เหตุอันควรสงสัย’ ว่ามีหรืออาจมีการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ให้สถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจมีหน้าที่เปิดเผยหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีและธุรกรรมของลูกค้าที่เกี่ยวข้อง และกระเป๋าสินทรัพย์ดิจิทัลในระหว่างสถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจนั้นผ่านระบบหรือกระบวนการเปิดเผยหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เห็นชอบร่วมกัน”

มาตรา 6 ให้เพิ่มความมาตรา 4/1 วรรคสอง ว่า ให้ผู้บริการเครือข่ายโทรศัพท์และผู้ให้บริการโทรคมนาคมอื่นมีหน้าที่ตรวจสอบเพื่อคัดกรองเนื้อหาการบริการสารสั้น (SMS) ที่อาจเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีตามมาตรฐานหรือมาตรการที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทสช.) กำหนด

มาตรา 4/2 เมื่อศูนย์ปฏิบัติการเพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ “ศปอท.” (ศูนย์จัดตั้งใหม่ในสำนักงานปลัดกระทรวงดีอีเอส ตามมาตรา 8/5) ได้แจ้งรายชื่อบุคคลหรือเลขที่กระเป๋าสินทรัพย์ดิจิทัลที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยีให้สถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจปฏิเสธการเปิดบัญชี ระงับการให้บริการหรือการทำธุรกรรม หรือปิดบัญชีกับบุคคลที่มีรายชื่อหรือเลขที่กระเป๋าสินทรัพย์ดิจิทัลดังกล่าว จนกว่าจะมีการเพิกถอนรายชื่อบุคคลหรือเลขที่กระเป๋าสินทรัพย์ดิจิทัลนั้น

มาตรา 9 ให้เพิ่ม มาตรา 8/10 ให้สถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจ ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ ผู้ให้บริการโทรคมนาคมอื่น ผู้ให้บริการอื่นที่เกี่ยวข้อง หรือผู้ให้บริหารสื่อสังคมออนไลน์ มีส่วนร่วมรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าได้ปฏิบัติตามมาตรฐานหรือมาตรการเพื่อป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่กำหนดโดยธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ คณะกรรมการ กสทช. สำนักงาน กสทช. หรือคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์

มาตรา 8/11 สถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา 4/2 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าแสนบาท ในกรณีเกิดจากการสั่งการหรือการกระทำของกรรมการหรือผู้จัดการ หรือนิติบุคคล ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 10 ให้เพิ่ม มาตรา 11/1 ในกรณีที่ผู้ซื้อหมายเลขโทรศัพท์ลงทะเบียนเพื่อใช้บริการ หรือผู้ขายเลขหมายโทรศัพท์ที่มีหน้าที่เกี่ยวกับการลงทะเบียนให้แก่ผู้ใช้บริการ ลงทะเบียนไม่ถูกต้องครบถ้วนตามที่ คณะกรรมการ กสทช. หรือ สำนักงาน กสทช.กำหนด โดยรู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้กระทำความผิด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 11/2 ผู้ใดใช้ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลอื่นหรือผู้ถึงแก่กรรมซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลหรือผู้ถึงแก่กรรมนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม รวมถึงผู้ใดเก็บรวบรวม ครอบครอง หรือเปิดเผยข้อมูล เพื่อกระทำความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

อ่านฉบับเต็มได้ที่ลิงค์ : https://ratchakitcha.soc.plod.th/documents/67320.pdf

ฉบับที่สอง พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ประกอบด้วย 4 มาตรา โดยสาระสำคัญในมาตรา 3 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นวรรคสามของมาตรา 26 แห่งพ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561

“ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลตามวรรคหนึ่งให้รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลซึ่งประกอบธุรกิจอยู่นอกราชอาญาจักรไทยแต่ให้บริการแก่บุคคลซึ่งอยู่ในราชอาณาจักรไทย เว้นแต่เป็นการให้บริการตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต.ประกาศกำหนด”

อ่านฉบับเต็มได้ที่ลิงค์ : https://ratchakitcha.soc.plod.th/documents/67321.pdf

ที่มา สำนักข่าวอิศรา ( isranews.org )

เรื่องที่เกี่ยวข้อง:

ยิ่งเย็น สีลม ยิ่งคึกคัก ภาพมุมสูง ที่ถนนสีลม ขณะนี้มีพี่น้อ 2025-04-12 08:39:00

สันธนะ ถูกลอบยิvหนังสติ๊ก ท้าใช้ปืนจริงยิvเลย 100 วันชำระคืน 12 เม.ย

ผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร ขอเชิญร่วมสักการะพระพุทธสิหิงค์ เนื่องในเทศกาลม 2025-04-12 08:Forty eight:00

รวบหนุ่มยิvคนเสียชีวิต หลบหนีหมายจับนานกว่า 10 ปี . ตำรวจสอบสวนกลา

‘กฤษฎีกา’ ชี้ ‘บอร์ดสรรหา กกพ.’ มีส่วนได้เสียกับธุรกิจพลังงาน ไม่เป็นลักษณะต้องห้าม

รายงานสด แตงกวา เกาะติดสถานะการณ์ กู้ซากตึก สตง

ประชาชนดินทางกลับภูมิลำเนา รฟท.เพิ่มขบวนรถเสริมพิเศษ ยันไร้ตกค้ 2025-04-12 08:52:00

ก.ล.ต.กล่าวโทษ‘หมอบุญ วนาสิน’เผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จ-ปกปิดนำหุ้น Thg ที่ถืออยู่ไปจำนำ

ผู้เรียบเรียง

ให้คะแนนความพอใจของคุณ :

0 / 5 คะแนน 0

คุณให้คะแนน:

แชร์ลิ้งค์นี้ : https://ด่วน.com/jnwk | ดู : 10 ครั้ง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *


Share via
Click to Hide Advanced Floating Content
Send this to a friend