
ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน เรียกร้องให้เวียดนามต่อต้าน “การกลั่นแกล้ง” จากการที่ทรัมป์เรียกเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มเติม

ที่มาของภาพ : Getty Photos
Article files
- Writer, แอนนาเบลล์ เหลียง
- Characteristic, ผู้สื่อข่าวธุรกิจ
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน เรียกร้องให้เวียดนามต่อต้าน “การกลั่นแกล้งเพียงฝ่ายเดียว” เพื่อรักษาระบบของโลกด้านการค้าเสรี แม้ว่าเขาจะไม่ได้ระบุถึงชื่อประเทศสหรัฐฯ ออกมาตรง ๆ
ถ้อยแถลงดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่ สี จิ้นผิง อยู่ระหว่างการเดินทางเยือน ซึ่งถูกเรียกว่า “ปฏิบัติการสร้างเสน่ห์” (appeal offensive) ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเขาจะเดินทางไปมาเลเซีย และกัมพูชาด้วย
แม้ว่าการเดินทางครั้งนี้จะถูกวางแผนมานานแล้ว แต่มันมีความสำคัญมากขึ้นหลังสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน กลับมาทวีความรุนแรง ก่อนหน้านี้เวียดนามถูกสหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตรา 46% จนกระทั่งฝ่ายบริหารของทรัมป์ประกาศระงับการเรียกเก็บภาษีดังกล่าวไปก่อน 90 วัน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เรียกการพบปะระหว่าง สี จิ้นผิง กับผู้นำเวียดนามว่าเป็นอุบายในหาวิธี “สร้างความเสียหายให้สหรัฐอเมริกา”
สำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานว่า สี จิ้นผิง ได้บอกกับ โต เลิม เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ให้ “ร่วมกันต่อต้านการกลั่นแกล้งฝ่ายเดียว”
Skip ได้รับความนิยมสูงสุด ได้รับความนิยมสูงสุด
ได้รับความนิยมสูงสุด
“เราต้องเสริมสร้างการแก้ปัญหาเชิงยุทธศาสตร์ และรักษาเสถียรภาพของระบบการค้าเสรีโลก ตลอดจนห่วงโซ่อุตสาหกรรมและห่วงโซ่อุปทาน” เขาระบุ
สตีเฟน โอลสัน อดีตผู้เจรจาการค้าของสหรัฐฯ มองว่าคำกล่าวของสี จิ้นผิง เป็น “การเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์ที่ฉลาดมาก”
“ในขณะที่ทรัมป์ดูเหมือนจะมุ่งมั่นที่จะทำลายระบบการค้า แต่ สี จิ้นผิง กำลังวางตำแหน่งจีนในฐานะผู้พิทักษ์การค้าตามกฎระเบียบ ขณะเดียวกันยังวาดภาพให้สหรัฐฯ เป็นประเทศอันธพาลบุ่มบ่ามไปด้วย” เขากล่าวเสริม
ในการแถลงข่าวต่อสื่อที่ห้องทำงานรูปไข่ (Oval set up of job) เมื่อวันจันทร์ ทรัมป์ระบุว่าเขาไม่ได้ “กล่าวโทษ” จีน หรือเวียดนาม แต่กล่าวหาว่า พวกเขาต่างหากที่กำลังมุ่งเป้าว่าจะทำร้ายสหรัฐฯ ได้อย่างไร
“นั่นเป็นการประชุมที่น่ารักเชียว เป็นการประชุมแบบ พยายามจะหาคำตอบว่า พวกเราจะสร้างความเสียหายให้สหรัฐอเมริกาได้อย่างไร” ทรัมป์ระบุ
สองประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก กำลังติดอยู่ในการต่อสู้ทางการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้น จากการที่ฝ่ายบริหารของทรัมป์กำหนดอัตราภาษีศุลกากรที่อัตรา145% กับสินค้าจีนส่วนใหญ่ที่สหรัฐฯ นำเข้า ตั้งแต่ช่วงก่อนหน้าในเดือนนี้ ก่อนที่รัฐบาลจีนจะตอบสนองด้วยการกำหนดอัตราภาษีศุลกากร 125% สำหรับสินค้านำเข้าจากอเมริกา
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา การประกาศของหน่วยงานด้านศุลกากรสหรัฐฯ เปิดเผยว่า สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ที่นำเข้าจากจีน จะไม่รวมอยู่ในสินค้าที่จะต้องถูกจัดเก็บภาษีนำเข้าในอัตรา 125%
แต่ต่อมาทรัมป์ก็ออกมาระบุผ่านโซเชียลมีเดียว่า จะไม่การยกเว้นสำหรับสินค้าเหล่านี้ พร้อมบอกว่าประกาศศุลกากรดังกล่าวไม่เป็นความจริง ในทางกลับกัน เขากล่าวว่า “พวกมันแค่ถูกย้ายไปอยู่ใน ‘ตะกร้า' ภาษีอันใหม่แค่นั้น”
‘โอกาสทอง' ของ สี จิ้นผิง

ที่มาของภาพ : Getty Photos
สี จิ้นผิง เดินทางถึงกรุงฮานอยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งเขาได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีด้วยการโบกธงชาติจีนและเวียดนาม
จากนั้นเขาได้พบกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเวียดนาม รวมถึงเลขาธิการของรัฐบาล และนายกรัฐมนตรี ฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์
ก่อนหน้านี้ในวันอังคาร สี จิ้นผิง ได้เดินทางเยือนสุสานโฮจิมินห์ (Ho Chi Minh Mausoleum) เพื่อร่วมพิธีวางพวงหรีดที่สถานที่พักผ่อนในวาระสุดท้ายของอดีตผู้ก่อตั้งและผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม
แม้ สี จิ้นผิง จะมาเยือน แต่เวียดนามจะระมัดระวังในการ “บริหารการรับรู้เรื่องการสมรู้ร่วมคิดกับจีนเพื่อต่อต้านสหรัฐฯ เพราะสหรัฐฯ เป็นพันธมิตรที่สำคัญเกินกว่าจะละทิ้งได้” ซูซานนาห์ แพตตัน ผู้อํานวยการโครงการเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ของสถาบันคลังสมองโลวี (Lowy Institute) กล่าว
“ในหลาย ๆ ทางแล้ว จีนเป็นทั้งคู่แข่งทางเศรษฐกิจ เช่นเดียวกับที่เป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจ ต่อกลุ่มเศรษฐกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” เธอกล่าวเสริม
ในตอนนี้ สี จิ้นผิง เดินทางออกจากเวียดนามแล้ว และจะเดินทางไปถึงมาเลเซียในวันนี้ (15 เม.ย.) ซึ่งคาดว่าเขาจะได้พบกับกษัตริย์ของมาเลเซีย รวมถึงนายกรัฐมนตรี อันวาร์ อิบราฮิม
การมาเยือนของสี จิ้นผิง เกิดขึ้นในขณะที่บริษัท ยู โมบาย (U Cellular) ผู้ให้บริการข้อมูลมือถือของมาเลเซีย กล่าวว่าจะเปิดตัวเครือข่าย 5G แห่งที่สองของประเทศ โดยใช้เทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐานจากบริษัท หัวเว่ย (Huawei) และ แซดทีอี (ZTE) ของจีน
แพตตัน คาดว่า สี จิ้นผิง จะยังคงแสดงภาพให้เห็นว่าสหรัฐฯ เป็น “พันธมิตรที่ไม่น่าเชื่อถือ และ ปกป้องการค้า”
ในขณะเดียวกันก็มีแนวโน้มที่เขาจะ “แสดงบทบาทของจีนในการตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง ในฐานะพันธมิตรที่อยู่ข้าง ๆ” เธอเสริม
“ตอนนี้เป็นโอกาสทองของจีนจริง ๆ ในการคว้าชัยชนะจากการพูดคุย ฉันคิดว่านี่แหละคือสิ่งที่จะเห็นจากการเยือนเวียดนาม กัมพูชา และสหรัฐฯ ของ สี จิ้นผิง” เธอกล่าวทิ้งท้าย
ที่มา BBC.co.uk