
ตำรวจ สน.บางซื่อ นำผู้ต้องหา 15 คน ฝากขัง ศาลอาญารัชดาภิเษก คดีตึกสตง.แห่งใหม่ถล่ม-อีก 2 ราย ขอเลื่อนการเข้ามอบตัว เป็น 19 พ.ค.68 ด้านดีเอสไอ ลงพื้นที่ 7 จุดเป้าหมาย-จุดส่งคอนกรีตผสมเสร็จที่ใช้ในโครงการก่อสร้าง
สืบเนื่องจากกรณี คณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ออกหมายจับกับผู้ต้องหาทั้งหมด 17 ราย ในฐานะนิติบุคคลและส่วนตัว ในฐานเป็นผู้มีวิชาชีพในการออกแบบ ควบคุม หรือ ทำการก่อสร้าง ซ่อมแซมหรือรื้อถอนอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างใด ๆ ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ หรือวิธีการอันพึงกระทำการนั้น ๆ โดยประการที่น่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคลอื่น เป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความเสียชีวิต อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 227 และ 238 กรณีอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) หลังใหม่ถล่ม จากเหตุแผ่นดินไหวมีศูนย์กลางที่เมียนมา เมื่อวันที่ 28 มีนาคม ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมากนั้น
@ มอบตัว 15 อีก 2 ราย ส่งทนายขอเลื่อน
สำนักข่าวอิศรา . รายงานว่า วันที่ 16 พฤษภาคม 2568 ที่ สน.บางซื่อ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) มาติดตามความคืบหน้าคดี หลังศาลอนุมัติออกหมายจับ 17 ผู้ต้องหาเกี่ยวข้องกับ สตง.ถล่มพร้อมกล่าวว่า ผู้ต้องหา 17 คน ทั้งบริษัทผู้ออกแบบ ผู้ควบคุมการก่อสร้าง และผู้รับเหมาก่อสร้าง พบว่า มีผู้ต้องหาที่เดินทางเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาแล้วทั้งหมด 15 คน
ทั้งนี้ อีก 2 ราย คือ นายพลเดช เทิดพิทักษ์วานิช และ นางประณีต แสงอลังการ ที่เป็นผู้มีอำนาจของบริษัท ว.และสหาย นั้นส่งทนายความเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อขอเลื่อนการเข้ามอบตัวเป็นวันจันทร์ที่ 19 พฤษภาคม
“ขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาทั้งหมดระหว่างสอบปากคำผู้ต้องหาให้การปฏิเสธทั้งหมด พร้อมขอกลับไปเตรียมเอกสารคำให้การมาส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวนภายในวันที่ 23 พ.ค. 68 เบื้องต้นในชั้นพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ”พล.ต.ต.นพศิลป์กล่าว
พล.ต.ต.นพศิลป์กล่าวว่า ในส่วนพนักงานสอบสวนจะทำงานอย่างต่อเนื่อง โดยคำให้การใดที่เป็นประโยชน์ หรือคำให้การใดที่สอบปากคำไปแล้วจะเอาไปขยายผลต่อว่าจะมีผู้อื่นผู้ใดที่มีการกระทำความผิดหรือมีส่วนเกี่ยวข้องเพิ่มเติมก็จะดำเนินการต่อเนื่อง
พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่าส่วนจะมีการขยายผลไปถึงพนักงานข้าราชการที่เซ็นรับตึกด้วยหรือไม่นั้น รอข้อมูลข้อเท็จจริงจากคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงที่ทางนายกรัฐมนตรีจัดตั้งขึ้นมาก่อน เนื่องจากขณะนี้ยังไม่ได้รับข้อมูลและการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 17 คน หากมีพยานหลักฐานเพิ่มเติมต่อเนื่องหรือไปเกี่ยวกับบุคคลใด ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือบุคคลใดที่มีการตรวจรับร่างขอบเขตของงาน (TOR) ตั้งแต่เริ่มต้นก็จะขอหมายจับต่อไป
พล.ต.ต.นพศิลป์กล่าวว่า โดยในส่วนดังกล่าวได้ประสานงานกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) อย่างใกล้ชิดซึ่งส่วนดีเอสไอได้ดำเนินการเรื่องของตัวแทนอำพราง (Nominee) และการเสนองานกับหน่วยงานของรัฐ (ฮั้ว) ประมูล เนื่องจากได้รับเป็นคดีพิเศษอยู่ระหว่างดำเนินการเช่นเดียวกัน
@ ออกแบบ-ควบคุม-ก่อสร้าง ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ ต่ำมาตรฐาน
พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่าพฤติการณ์ที่ทำให้พนักงานสอบสวนไปขอหมายจับตามมาตรา 227 ต่อเนื่องมาตรา 238 นั้นเนื่องจากการออกแบบ ควบคุม และการก่อสร้างไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ จึงเป็นเหตุให้อาคารถล่มและมีผู้เสียชีวิต โดยจากการรวบรวมพยานหลักฐานในเรื่องออกแบบมีพยานผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่า แบบแปลนการก่อสร้างดังกล่าวไม่สอดคล้องกับกฎกระทรวงและไม่ได้มาตรฐาน
“ส่วนการควบคุมงานและการก่อสร้างตรวจพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ ทั้งจากกองพิสูจน์หลักฐาน ดีเอสไอ และกรมโยธาธิการและผังเมือง โดยเป็นการตรวจสอบวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างปูน เหล็ก ปรากฏว่าผลการตรวจสอบออกมาชัดเจนว่าไม่ได้มาตรฐาน โดยตาม TOR จะถูกกำหนดไว้แล้วว่าจะต้องใช้เหล็กเส้น ปูน ตามมาตรฐานแบบไหน แต่การก่อสร้างดังกล่าว ไม่เป็นไปตาม TOR ที่กำหนดหลักเกณฑ์ไว้ และต่ำกว่ามาตรฐาน จึงถือว่ามีความผิด”พล.ต.ต.นพศิลป์กล่าว
พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า รวมถึงมีการแก้ไขแบบแปลนในตัวปล่องลิฟท์ และคอลิฟท์ โดยใช้ลายเซ็นปลอม เพื่อปลอมวุฒิวิศวกร เพื่อใช้ยืนยันการแก้ไขแบบ ซึ่งนายสมเกียรติ ชูแสงสุข อ้างว่าถูกปลอมลายมือชื่อ ทางตำรวจจึงส่งลายเซ็นที่ถูกแอบอ้างไปตรวจที่กองพิสูจน์หลักฐานปรากฏว่าลายเซ็นดังกล่าวเป็นลายเซ็นปลอมจริง ดังนั้นทั้งหมดจึงไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และไม่ได้มาตรฐาน จึงใช้เป็นพยานหลักฐาน เพื่อขอศาลออกหมายจับ
ผู้สื่อข่าวถามว่าสรุปมีการตรวจรับงานทั้งหมดกี่งวดนั้น พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่าก่อนหน้านี้ทาง สตง. ตรวจรับงานไปแล้วทั้งหมด 22 งวด โดยพนักงานสอบสวนเรียกเจ้าหน้าที่ตรวจรับพัสดุมาสอบปากคำไปแล้ว ทั้งคณะกรรมการตรวจรับการออกแบบ การก่อสร้าง และการควบคุม แต่กระบวนการยังไม่เสร็จสิ้นทั้งหมด ซึ่งใน 22 งวด ความคืบหน้าจริงๆ ต้องคืบหน้า 80% แต่ทำได้จริงแค่ 33% คณะกรรมการตรวจสอบการออกแบบก่อสร้างที่ตรวจรับงานในงวดที่ 22 ได้บอกเลิกสัญญาแล้วยื่นเรื่องไปยังผู้ว่า สตง. เพื่อส่งต่อคณะกรรมการ สตง. ตั้งแต่ 15 มกราคม 2568 -28 มีนาคม 2568 แต่ยังไม่ได้บอกเลิกสัญญา ปรากฎว่าตึกถล่มก่อน ซึ่งส่วนนี้จึงอยู่ระหว่างการสอบปากคำให้เสร็จ
พล.ต.ต.นพศิลป์กล่าวว่า โดยหลังจากนี้จะขยายผลว่ามีผู้เกี่ยวข้องกับความผิดต่อเนื่องกับบุคคลใดเพิ่มเติมและใน 22 งวด สตง. จ่ายเงินไปแล้ว 900 ล้านบาท เป็นงบประมาณที่ สตง. ได้รับการจัดสรรมาแล้ว
เมื่อถามว่า สตง.จะมีความผิดหรือไม่นั้น พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่าหลักฐานที่รวบรวมถ้ามีความเกี่ยวข้องหรือไปถึงบุคคลใดจะดำเนินการขยายผลต่อ
เมื่อถามว่า การออกหมายจับครั้งนี้ทั้ง 17 คนเป็นบริษัทเอกชนทั้งหมด และในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ข้าราชการที่เซ็นรับอาคารจะมีการขยายผลหรือไม่ พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่าอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ข้อเท็จจริงที่ได้จากคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงยังไม่ได้มาต้องรอผู้เชี่ยวชาญในส่วนนั้นด้วย ทางพนักงานสอบสวนทำงานอย่างตรงไปตรงมา ตามพยานหลักฐานไม่มีการกลั่นแกล้งบุคคลหนึ่งบุคคลใด ใครกระทำความผิดเหมือนที่บอกว่ากรรมใครที่ไปก่อไว้ ก็ย่อมจะสนองในชาตินี้อย่างแน่นอน
ส่วนตอนนี้มีผู้เสียชีวิตถึงที่เจอศw 89 ราย ทางนายกรัฐมนตรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็มีความกังวลใจ เพราะตึก สตง. ความสูงถึง 30 ชั้น และอยู่ห่างไกลจากจุดศูนย์กลางที่เกิดแผ่นดินไหวกว่า 1,000 กิโลเมตร ทำไมถึงพังถล่มมาในลักษณะแพนเค้กซีเมนต์ได้จึงนำพยานแวดล้อมทั้งคนที่ถ่ายคลิปไว้ในขณะที่อาคารยุบตัวว่ายุบตัวอย่างไรมาประกอบทั้งหมด
@ ฝากขัง 15 ผู้ต้องหา ศาลอาญารัชดาภิเษก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการควบคุมตัวผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดาเดิมเจ้าหน้าที่ตำรวจจัดเตรียมรถตู้ทั้งหมดสามคันเพื่อใช้ในการควบคุมตัวผู้ต้องหาแต่คนใกล้ชิดและพยาบาลส่วนตัวนายเปรมชัย กรรณสูต กรรมการบริหารผู้มีอำนาจลงนามบริษัท อิตาเลียนไทย ขอมาดูที่นั่งในรถตู้ พบว่านายเปรมชัย ไม่สามารถนั่งที่นั่งในรถได้เนื่องจากมีขนาดตัวใหญ่ และเบาะคับแคบ ทำให้เคลื่อนไหวลำบาก จึงขอนั่งรถส่วนตัวเดินทางไปศาล แต่ พันตำรวจเอกสนอง แสงมณี ผู้กำกับสน.บางซื่อ ไม่ยินยอมและให้นายเปรมชัย ไปนั่งรถกระบะเบาะหน้าของเจ้าหน้าที่ตำรวจแทน เพราะมีความกว้างมากกว่า ทั้งนี้ จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจประกบควบคุมตัวไปด้วย โดยอนุญาตให้เพียงแต่พยาบาลส่วนตัวขึ้นรถไปพร้อมกัน
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.บางซื่อ คุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับได้แก่ นายเปรมชัย กรรณสูต , นายพิมล เจริญยิ่ง , นายเกรียงศักดิ์ กอวัฒนา , นายสุชาติ ชุติปภากร , นายธีระ วรรธนะทรัพย์ , นายสุพล อัครอารีสุข , นายชัยณรงค์ เสียงไพรพันธ์ , นายอภิชาติ รักษา , นายปฏิวัติ ศิริไทย , นายกฤตภัฎ ปล่องกระโทก , นายสมชาย ทรัพย์เย็น , นายนิจพร จรณะจิตต์ , นายชวนหลิง จาง , นายอนุวัฒ คันษร และ นายธิปัตย์ รัตนวงษา รวมผู้ต้องหา 15 ราย โดยมีรถตู้คุมขัง จำนวน 4 คัน, กระบะ 1 คัน พร้อมรถนำของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อนำตัวผู้ต้องหาไปส่งฝากขังศาลอาญารัชดาภิเษก
@ ‘เปรมชัย’ นั่งวีลแชร์ พบ ตำรวจตามหมายจับ
ขณะที่ควบคุมตัวผู้ต้องหาอยู่นั้น ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า มีอะไรอยากจะชี้แจงกับสังคมหรือไม่ ด้านนายเกรียงศักดิ์ กึ่งเดินกึ่งวิ่งรีบขึ้นรถตู้และไม่ตอบคำถามสื่อในทุกประเด็น ส่วนนายพิมล มีสีหน้าเรียบเฉยไม่ตอบทุกคำถามเช่นกัน
ส่วนนายเปรมชัย ถูกเจ้าหน้าที่คุมตัวมาจากทางด้านหน้า สน.บางซื่อ เพียงผู้เดียว เนื่องจากมีปัญหาทางด้านสุขภาพ ต้องนั่งรถวิลแชร์โดยมีพยาบาลวิชาชีพดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งนายเปรมชัย ใส่แมสก์ปิดบังใบหน้าและไม่ตอบคำถามสื่อในทุกประเด็นเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ ภายในสน.บางซื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจนำแผงเหล็กมากั้นทางเอาไว้เพื่อจัดระเบียบ ไม่ให้สื่อมวลชนเข้าไปภายในพื้นที่การสอบปากคำ
@ ดีเอสไอ ค้น 7 จุดเป้าหมาย-แพลนท์ปูน ก่อสร้างตึกสตง.
ด้านกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษได้เป็นประธานการประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีคุ้มครองผู้บริโภคและโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.ท.อมร หงษ์ศรีทอง ผู้อำนวยการกองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ และคณะพนักงานสอบสวนได้ร่วมหารือวางแนวทางการปฏิบัติการตรวจค้นเพื่อแสวงหาพยานหลักฐานในคดีอาคารสำนักงาน สตง.ถล่ม ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กรมโยธาธิการและผังเมือง และสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.)
โดยแบ่งกำลังเจ้าหน้าที่ออกเป็น 7 ชุด ปฏิบัติการตรวจค้นเป้าหมายเป็นจุดส่งคอนกรีตผสมเสร็จ (แพลนท์ปูน) ที่ถูกใช้ในโครงการสร้างอาคาร สตง. แห่งใหม่ พร้อมกันทั้ง 7 จุดเป้าหมาย ในพื้นที่ย่านถนนนวลจันทร์ ถนนเพชรพระราม ถนนพระราม 9 กรุงเทพมหานคร และย่านถนนนครอินทร์ ตำบลบางกระสอ จังหวัดนนทบุรี เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน รวมถึงยึดและอายัดเอกสารที่เกี่ยวข้องกับคดีพิเศษที่ 32/2568
โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ จะตรวจสอบแหล่งที่มาของซีเมนต์ที่นำมาใช้ และจากข้อมูลการข่าวพบว่าแพลนท์ปูนเหล่านี้มีลักษณะการดำเนินงาน 2 รูปแบบ คือ เป็นแพลนท์ของบริษัทที่เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ซีเมนต์โดยตรงและบางแห่งเป็นแพลนท์ที่ดำเนินการในลักษณะแฟรนไชส์ ซึ่งในกรณีหลังนี้จะต้องตรวจสอบให้แน่ชัดว่าวัตถุดิบซีเมนต์ที่ใช้มาจากบริษัทแม่ทั้งหมดหรือไม่
พ.ต.ต.วรณัน เปิดเผยว่า การปฏิบัติการในวันนี้มุ่งเน้นการตรวจสอบเอกสารย้อนหลังเป็นหลัก เพื่อดูรายละเอียดกระบวนการสั่งซื้อซีเมนต์ วิธีการชำระเงิน และแหล่งที่มาของวัตถุดิบ เนื่องจากพบว่ามีการสั่งซื้อซีเมนต์อย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2564 ดังนั้น การตรวจสอบจึงเป็นการพิสูจน์ข้อเท็จจริงในอดีต ไม่ได้เน้นการวิเคราะห์ตัวซีเมนต์ที่พบในแพลนท์ปัจจุบันการตรวจค้นในครั้งนี้ต้องการทราบแหล่งที่มาของซีเมนต์ว่าตรงตามที่ระบุในเอกสาร TOR หรือไม่ หรือมีการนำซีเมนต์จากแหล่งอื่นมาใช้รวมถึงตรวจสอบกระบวนการสั่งซื้อและการชำระเงินทั้งหมด ซึ่งผลการตรวจค้นทั้ง 7 จุดเป้าหมายพบพยานหลักฐาน เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีพอสมควร จะดำเนินการอายัดเพื่อใช้ประกอบในสำนวนคดีต่อไป
ที่มา สำนักข่าวอิศรา ( isranews.org )