
เผยมติ ก.ต.พิจารณารายงานผลสอบสวนผู้พิพากษา 3 ราย ลงโทษให้ออกราชการ 2 กรณีแทรกแซงการเพิกถอนหมายจับ สว.อุปกิต ปาจรียางกูร -พิพากษาเกินคำฟ้องคดีวิคตอเรียซีเครท ส่วนอีก 1 ราย ให้ประกันตัวจำเลยคดีพนันออนไลน์ โดนไล่ออก – ส่งเรื่อง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติด้วย
สำนักข่าวอิศรา . รายงานว่า เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 ที่ประชุมคณะกรรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) มีวาระสำคัญในการพิจารณารายงานผลการสอบสวนข้าราชการตุลาการ จำนวน 3 ราย
โดยที่ประชุมมีมติให้ข้าราชการตุลาการที่ถูกสอบสวน ให้ออกจากราชการ 2 ราย ส่วนอีก 1 ราย ให้ไล่ออกจากราชการ และมีมติเอกฉันท์ให้ส่งเรื่องคณะกรรมการป่องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช. ) ดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป
สำหรับรายละเอียดการพิจารณารายงานผลการสอบสวนข้าราชการตุลาการ จำนวน 3 ราย มีดังต่อไปนี้
รายแรก
เป็นกรณีมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมไม่สุภาพ ไม่สำรวมกิริยามารยาท และเข้าไปก้าวก่ายแทรกแชงการพิจารณาพิพากษาคดีของข้าราชการตุลาการอื่นอันเป็นการไม่ถือและปฏิบัติตามระเบียบแบบแผนและประเพณีปฏิบัติของราชการ และจริยธรรมของข้าราชการตุลาการกรณีเป็นความผิดวินัยร้ายแรง เห็นควรให้ออกจากราชการ
รายสอง
เป็นกรณีเป็นผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนทำคำพิพากษาโดยกล่าวถึงบุคคลภายนอกที่ไม่ไม่ใช่คู่ความ และไม่ได้ถูกฟ้องเป็นจำเลยว่ามิได้กระทำความผิดโดยไม่ปรึกษาและแจ้งให้องค์คณะและผู้บริหารทราบ เป็นเหตุให้มีการนำคำคำพิพากษาส่วนดังกล่าวไปใช้ประโยชน์โดยมิชอบ อันเป็นความผิดวินัยร้ายแรง เห็นควรให้ออกจากราชการ
รายสาม
เป็นกรณีมีพติการณ์เป็นที่สงสัยว่ากระทำผิดวินัย ร่วมรู้เห็นเรื่องการขอแลกเปลี่ยนเวร และร่วมขบวนการเกี่ยวกับการยื่นคำร้องอทธรณ์คำสั่งปล่อยชั่วคราวโดยมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวขัดต่อกฎหมายอันเป็นดุลพินิจที่ไม่ชอบ และไม่ถือปฏิบัติตามระเบียบแบบแผนและประเพณีปฏิบัติของราชการ และจริยธรรรมของข้าราชการตลาการ เป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรงเห็นควรไล่ออกจากราชการ และมีมติเอกฉันท์ให้ส่งเรืองแก่คณะกรรมการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เพื่อดำเนินการต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับผู้พิพากษารายแรก ที่ถูกลงโทษให้ออกจากราชการ เป็นกรณีแทรกแซงการเพิกถอนหมายจับ นายอุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในคดีพัวพันกับการฟอกเงินขบวนการค้ายาเสพติดของ ‘ทุนมินลัต’ ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจาก พ.ต.ท.มานะพงษ์ วงศ์พิวัฒน์ สารวัตร (ยศและตำแหน่งในขณะนั้น) กองกำกับการสืบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ร้องเรียนต่อกรรมการ ก.ต.รายหนึ่งว่า ได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาเพื่อขอออกหมายจับนายอุปกิต ในความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและการฟอกเงินในวันที่ 3 ต.ค. 2565 และศาลได้อนุมัติตามคำขอแล้ว แต่ต่อมาในวันเดียวกัน ได้มีการเพิกถอนหมายจับ “โดยอ้างว่า เป็นบุคคลสำคัญ จึงเชื่อได้ว่าไม่มีพฤติการณ์หลบหนี” โดยหนังสือร้องเรียนกล่าวหารองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญารายหนึ่งแทรกแซงให้มีการเพิกถอนหมายจับ ปัจจุบันผู้พิพากษารายนี้ไปอยู่ศาลอุทธรณ์ภาค 1
ผู้พิพากษารายสอง ที่ถูกลงโทษให้ออกจากราชการเช่นกัน ถูกร้องเรียนว่ามีคำพิพากษาเกินคำฟ้อง คดีวิคตอเรียซีเครท เนื่องจากผู้ต้องหาในคดี 3 รายคือ นายกำพล นางนิภา และนายธนพล วิระเทพสุภรณ์ ที่ยังไม่ได้นำตัวมาดำเนินคดี แต่มีคำพิพากษา ว่าไม่ผิด ต่อมามีการนำคำพิพากษาไปขอถอนออกหมายจับ ทำให้จำเลยทั้ง 3 ราย หลุดคดี
ส่วนผู้พิพากษารายสาม ที่ถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ และส่งเรื่องให้คณะกรรมการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เป็นกรณีการให้ประกันตัวจำเลยคดีพนันออนไลน์ เป็นผู้พิพากษาระดับศาลอุทธรณ์
อ่านประกอบ :
ที่มา สำนักข่าวอิศรา ( isranews.org )