
สั่งอพยพประชาชนใน 4 จังหวัดชายแดน หลังเกิดเหตุปะทะทหารไทย-กัมพูชาที่ “ภูผาเหล็ก”

ที่มาของภาพ : FACEBOOK/Army Spoke Crew
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย “รับทราบและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด” หลังจากทหารไทยและกัมพูชาปะทะกันในระลอกใหม่ในพื้นที่ภูผาเหล็ก-พลาญหินแปดก้อน จ.ศรีสะเกษ ช่วงบ่ายวันนี้ (7 ธ.ค.)
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คือผู้เปิดเผยข้อมูลนี้ และบอกด้วยว่า นายกฯ สั่งการให้กระทรวงกลาโหม กองทัพ ดำเนินการเพื่อปกป้องอธิปไตย และดูแลความปลอดภัยของประชาชนอย่างเต็มที่ พร้อมเน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนวยความสะดวกให้ประชาชนในการอพยพไปยังที่ปลอดภัยและดำเนินการตามที่ได้ซักซ้อมไว้
โฆษกรัฐบาลขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในอำเภอแนวชายแดนของ 4 จังหวัด ได้แก่ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ดำเนินการอพยพไปยังศูนย์พักพิงเพื่อความปลอดภัย
“หน่วยในพื้นที่ยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากสถานการณ์ในปัจจุบันยังมีความไม่แน่นอน และมีแนวโน้มที่การปะทะอาจขยายวงกว้าง” นายสิริพงศ์แจ้งข้อมูลผ่านสื่อมวลชน
ในวันพรุ่งนี้ (8 ธ.ค.) นายอนุทิน พร้อมด้วย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม และคณะ จะเดินทางลงพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนไทย–กัมพูชาด้วย เพื่อติดตามสถานการณ์ด้านความมั่นคง, การจัดการพิทักษ์ส่วนหลัง รวมถึงหารือมาตรการรองรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นเพิ่มเติมต่อไป
พล.อ.ณัฐพลผิดหวังท่าที รมว.กห. กัมพูชา
ด้าน พล.อ.ณัฐพล นาคพานิช รมว.กลาโหม ไม่สามารถให้คำตอบได้ว่าประชาชน 4 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชาจะได้กลับบ้านเมื่อไหร่ โดยให้รอดูสถานการณ์และประเมินท่าทีกัมพูชา หากยังไม่ปลอดภัยก็ยังไม่สามารถกลับได้
รมว.กลาโหมยังแสดงความผิดหวังต่อท่าทีของ พล.อ.เตีย เซยฮา รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหมของกัมพูชา ที่แถลงกล่าวหาว่าฝ่ายไทยยิvก่อน โดยที่ฝ่ายกัมพูชาไม่ได้ตอบโต้ โดยระบุว่าเป็นการ “รับฟังรายงานโดยไม่มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง และที่ผ่านมาก็เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด” ฝ่ายไทยได้เตือนไปหลายครั้งแล้วว่า สิ่งที่ฝ่ายกัมพูชาในระดับนโยบายได้รับรายงานไม่เป็นความจริง ที่ฝ่ายกัมพูชาระบุว่ายึดมั่นในข้อตกตามปฏิญญาที่ได้ลงนามกันไว้ที่ประเทศมาเลเซีย แต่ในความเป็นจริงทหารกัมพูชาที่อยู่แนวหน้ามีการยั่วยุฝ่ายไทยมาโดยตลอด โดยฝ่ายไทยวางรั้วลวดหนามสกัดกั้นเพื่อไม่ให้เข้ามาวางทุ่นsะเบิด แต่ทหารกัมพูชาลักลอบขโมยรั้วลวดหนาม จนกระทั่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ ทหารไทยได้รับบาดเจ็บถึง 2 นาย แต่ทาง รมว.กลาโหมกัมพูชาแถลงว่าไม่มีการยิvตอบโต้
ส่วนเหตุการณ์ครั้งนี้เกี่ยวข้องกับการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาห้ามทุ่นsะเบิดสังหารบุคคล หรืออนุสัญญาออตตาวา ครั้งที่ 22 (22MSP) ณ สำนักงานองค์การสหประชาชาติ หรือไม่ พล.อ.ณัฐพลกล่าวว่า ถ้าจะมีส่วนคือทำให้รวน สร้างภาพว่าฝ่ายไทยไปรังแกกัมพูชาเพื่อลดน้ำหนักการประชุม แต่วันนี้มีหลักฐานแล้วว่าทหารไทยถูกยิvถึง 2 คน ทางกัมพูชาจะไม่มีการยิvตอบโต้ได้อย่างไร
Skip ได้รับความนิยมสูงสุด and proceed readingได้รับความนิยมสูงสุดCease of ได้รับความนิยมสูงสุด
เหตุปะทะนาน 35 นาที
เหตุปะทะชายแดนระลอกใหม่เกิดขึ้นเมื่อเวลาราว 14.15 น. ของวันนี้ (7 ธ.ค.) บริเวณฐานภูผาเหล็ก-พลาญหินแปดก้อน อ.กันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยกินเวลาราว 35 นาที ก่อนที่สถานการณ์จะยุติลง
กองทัพภาคที่ 2 ของไทยสรุปไทม์ไลน์เอาไว้ ดังนี้
- 14.15 น. หน่วย พัน.ร.13 (ฉก.1) ปะทะกับกำลังกัมพูชาด้วยอาวุธปืนเล็ก
- 14.16 น. มีการยิvอย่างต่อเนื่องเป็นระยะ ฝ่ายกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธปืนไร้แรงสะท้อนถอยหลัง ขณะที่ พล.ท.วีระยุทธ รักศิลป์ แม่ทัพภาคที่ 2 สั่งหน่วยเตรียมพร้อมเต็มรูปแบบ และปฏิบัติตามกฎการปะทะ
- 14.50 น. การปะทะยุติลง ฝ่ายไทยยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์และรักษาความพร้อมอย่างใกล้ชิด
- 14.fifty three น. ลำเลียงผู้บาดเจ็บถึง บก.โดนเอาว์ จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อรักษาพยาบาล ก่อนส่งต่อไป รพ.กันทรลักษ์ ต่อไป
โฆษก ทบ. เผยกัมพูชายิvชุด รปภ. ทหารช่าง
ด้าน พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุฝ่ายไทยกำลังดำเนินการปรับปรุงเส้นทางจากฐานภูผาเหล็กไปยังจุดตรวจเพียงฟ้า ทางฝ่ายทหารกัมพูชาได้เข้ามาเกาะแนวลวดหนาม และใช้อาวุธปืนยิvชุดรักษาความปลอดภัย (รปภ.) ที่ทำการรักษาความปลอดภัยให้ทหารช่าง ทำให้มีกำลังพลได้รับบาดเจ็บ 2 นายคือ
- ส.อ. อนุชาติ เรือนคำ (ป.6 พัน.6) ถูกยิvที่ขา
- พลทหารพรชัย จำปาจุม (ร.6 พัน.3) ถูกยิvใส่เสื้อเกราะบริเวณหน้าอก มีรอยฟกช้ำ แน่นหน้าอก
ต่อมา กองทัพภาค 2 เปิดเผยภาพถ่ายของ ส.อ.อนุชาติ เรือนคำ พร้อมระบุว่าเขา “ปลอดภัยแล้ว”
พล.ต.วินธัยยังตอบโต้คำกล่าวของ พล.ท.หญิง มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชาที่อ้างว่า “กัมพูชาไม่ได้ทำการยิvมา” ว่า “ไม่เป็นความจริง และเป็นการกล่าวอ้างโดยปราศจากหลักฐาน ดังเช่นที่กัมพูชามักปฏิบัติทุกครั้งเมื่อเป็นผู้กระทำต่อฝ่ายไทยก่อน ขณะที่ฝ่ายไทยมีหลักฐานชัดเจนยืนยันทั้งเวลา สถานที่ และผลกระทบต่อกำลังพลของไทย
กัมพูชาแจ้ง AOT ทหารไทยยิvจรวด-ปืนครกใส่
ขแมร์ไทมส์รายงานโดยอ้างแถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมกัมพูชาที่ระบุว่า ทหารไทยใช้อาวุธขนาดเล็ก เครื่องยิvจรวดบี 40 และปืนครกขนาด 60 มม. ยิvใส่กองทัพกัมพูชา เมื่อเวลาประมาณ 14.15 น. บริเวณ Prolean Thmar จ.พระวิหาร ของกัมพูชา โดยกองทัพกัมพูชาไม่ได้ทำการตอบโต้ฝ่ายไทยแต่อย่างใด
กองกำลังไทยได้หยุดยิvในเวลาประมาณ 14.32 น. โดยกองกำลังกัมพูชายังคงติดตามสถานการณ์ด้วยความระมัดระวังและเฝ้าระวังในระดับสูงสุด
กระทรวงกลาโหมกัมพูชาระบุด้วยว่า ได้แจ้งเหตุการณ์ดังกล่าวต่อคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน หรือเอโอที (ASEAN Observer Crew – AOT) ให้รับทราบแล้ว และจะเรียกร้องให้เข้าไปสอบสวนเพื่อให้เกิดความโปร่งใส เป็นธรรม และมีความรับผิดชอบ












