
กมธ.ต่างประเทศ สภาคองเกรสผ่านร่างกฎหมายปราบสแกมเมอร์ รอเข้าที่ประชุมใหญ่คองเกรสโหวตให้ความเห็นชอบ ล่าสุดยังพบชื่อ ‘ยิม เลียก’ ติดในร่างกฎหมาย แม้ทนายส่วนตัวบอกทางสหรัฐฯ ถอนชื่อไปแล้ว
สำนักข่าวอิศรา . รายงานว่าเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมาคณะกรรมาธิการต่างประเทศของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริกา ได้อนุมัติร่างกฎหมายที่ได้รับการสนับสนุนจากทั้งสองพรรคได้แก่พรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกัน ซึ่งร่างกฎหมายมุ่งเป้าไปที่การรื้อถอนแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติที่ดำเนินการฉ้อโกงออนไลน์ขนาดใหญ่ต่อชาวอเมริกัน โดยร่างกฎหมายดังกล่าวคือ H.R. 5490 หรือ “Dismantle Foreign Rip-off Syndicates Act”
ร่างกฎหมายนี้ซึ่งนำโดย ส.ส. เจฟเฟอร์สัน ชรีฟ (Jefferson Shreve) จากพรรครีพับลิกัน รัฐอินเดียนา มีจุดประสงค์เพื่อปกป้องชาวอเมริกันที่ต้องสูญเสียเงินหลายพันล้านดอลลาร์ให้กับแก๊งฉ้อโกงเหล่านี้ตั้งแต่ปี 2566 โดยจะมีการจัดตั้งคณะทำงานข้ามหน่วยงานเพื่อปิดตัวแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติเหล่านี้
นายชรีฟ เน้นย้ำถึงผลกระทบในชีวิตจริงที่ชาวอเมริกันต้องเผชิญ โดยระบุว่าสำนักงานสอบสวนกลาง (FBI) รายงานว่าชาวอเมริกันสูญเสียเงินไปประมาณ 1.7 หมื่นล้านดอลลาร์จากการฉ้อโกงในปี 2567และรัฐอินเดียนาเป็นรัฐที่ถูกเป้าหมายมากที่สุดเป็นอันดับสองต่อหัวประชากร
“ครอบครัวสูญเสียบ้าน ผู้เกษียณอายุเห็นเงินเก็บหายไปในชั่วข้ามคืน และเหยื่อผู้บริสุทธิ์นับไม่ถ้วนต้องเผชิญกับความยากลำบาก” นายชรีฟ กล่าว
นายไบรอัน มาสต์ (Brian Mast) ประธานคณะกรรมาธิการต่างประเทศของสภาฯ กล่าวเสริมว่าการฉ้อโกงเหล่านี้ซับซ้อนอย่างไม่น่าเชื่อ
“องค์กรเหล่านี้มีการปฏิบัติการขนาดใหญ่และได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลที่ฉ้อฉล” นายมาสต์กล่าว “ลองนึกภาพการสูญเสียที่ประมาณค่าไม่ได้ที่ผู้ถูกลวงลวงต้องประสบเมื่อเงินเก็บทั้งชีวิตของพวกเขาถูกขโมยไป”
ยิ่งไปกว่านั้น แก๊งอาชญากรรมเหล่านี้ไม่เพียงแต่พุ่งเป้าไปที่เหยื่อของชาวอเมริกันเท่านั้น แต่ยังบังคับใช้แรงงานทาสกับเหยื่อการค้ามนุษย์หลายแสนคนเพื่อทำการฉ้อโกง โดยเหยื่อจะถูกบังคับให้ทำตามโควตาการฉ้อโกงที่ไม่สมเหตุสมผล ภายใต้การข่มขู่ว่าจะถูกทรมานหรือแม้กระทั่งสังหาร
นายมาสต์ยังระบุว่า การเผชิญหน้ากับภัยคุกคามที่ชาวอเมริกันต้องเผชิญจากต่างประเทศเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นระบอบการปกครองอันธพาล องค์กรก่อการร้าย หรือในกรณีนี้คือแก๊งอาชญากรรมไร้ความปรานีที่ดำเนินการฉ้อโกงออนไลน์ขนาดใหญ่
“นักต้มตุ๋นต่างชาติเหล่านี้กำลังฉ้อโกงครอบครัวที่ทำงานหนัก ผู้สูงอายุ และทหารผ่านศึกของเรา ขโมยเงินหลายพันล้านดอลลาร์และทำลายชีวิต” นายมาสต์กล่าวกล่าว
สำหรับร่างกฎหมาย H.R. 5490 ซึ่งมีผู้ร่วมสนับสนุนเป็น สส. 11 คน ได้ผ่านการพิจารณาของกรรมาธิการ เพื่อไปยังการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรพร้อมกับร่างกฎหมายอื่นๆ อีก 9 ร่างกฎหมายในวันเดียวกัน
โดยร่างกฎหมายอีก 8 ร่างที่เหลือได้แก่
- H.R. 6297 – ร่างกฎหมายคุ้มครองยุโรปจากการก่ออาชญากรรมและการก่อความรุนแรงต่อต้านชาวยิว
- H.R. 4291 –ร่าง กฎหมายว่าด้วยการประสานงานของบัญชีรายชื่อการคว่ำบาตร
- H.R. 1848 – ร่างกฎหมายว่าด้วยความรับผิดชอบด้านสิทธิมนุษยชนของกลุ่มฮูตี
- H.R. 6347 – ร่างกฎหมายว่าด้วยการอนุญาตให้ดำเนินการต่อโครงการ World Limited one Thrive อีกครั้งในปี 2025
- H.R. 5021 – ร่างกฎหมายว่าด้วยทศวรรษแห่งกีฬาของอเมริกา
- H.R. 4413 – ร่างกฎหมายยุติการคว่ำบาตรไซปรัส
- H.R. 6230 – ร่างกฎหมายว่าด้วยการยุยงให้เกิดความรุนแรงในกรุงเตหะราน
- H.R. 4397 – ร่างกฎหมายว่าด้วยการกำหนดให้กลุ่มภราดรภาพมุสลิมเป็นองค์กรก่อการร้ายในปี 2025
- H.R. 6338 – ร่างกฎหมายว่าด้วยการหยุดยั้งการทำประมงผิดกฎหมาย
สำนักข่าวอิศรารายงานข่าวว่าสำหรับร่างกฎหมาย H.R.5490 หรือ “Dismantle Foreign Rip-off Syndicates Act รายละเอียดตอนหนึ่งมีการเสนอให้ตั้งทีมพิเศษเพื่อดำเนินการจัดการกับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับขบวนการสแสกมเมอร์จำนวน 43 ราย ซึ่งปรากฎว่ามีชื่อของนายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ หรือ ‘เบน สมิธ’ ,นายยิมเลียก เจ้าของธนาคาร B.I.C. นายเฉินจื้อ เจ้าของกลุ่มบริษัทปริ๊นซ์กรุ๊ป และนายก๊กอาน สว.กัมพูชา ติดอยู่ด้วย
โดยนายยิมเลียกได้เคยออกมาชี้แจงเมื่อวันที่ 4 ธ.ค.ผ่านทางเอกสารของบริษัท พิสุทธิ์ แอนด์ พาร์ทเนอร์ส จำกัด ทนายความของนายยิม เลียกและภรรยา ระบุตอนหนึ่งว่าประเทศสหรัฐอเมริกาได้ถอดชื่อนายยิมออกร่างร่างกฎหมาย H.R.5490 ไปแล้ว ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ที่ https:://medical doctors.home.gov/meetings/FA/FA00/20251203/118670/BILLS-11954900h.pdf

เมื่อสำนักข่าวอิศรา นำลิงก์ดังกล่าว ไปสืบค้นข้อมูลใน Google ขึ้นโชว์ข้อมูลว่า No longer Found หรือ ไม่พบข้อมูล
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศราได้เข้าไปสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับร่างกฎหมาย H.R.5490 ณ เวลานี้ ก็ยังพบชื่อนายยิมเลียกและนายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ หรือเบน สมิธปรากฎอยู่ (ดูวิดีโอประกอบ)

อ่านประกอบ :












