
‘รมว.ยุติธรรม-ดีเอสไอ' หาแนวทางร่วม'อิตาเลียนไทยฯ-ไชน่า เรลเวย์ฯ' เยียวยาผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ กว่า 95 ล. ปมตึก สตง. ถล่ม โดยมีสภาทนายความช่วยดูแล หลังกิจการร่วมค้า ITD – CREC ร้องขอ
สำนักข่าวอิศรา . รายงานว่า วันที่ 29 เมษายน 2568 พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม พร้อมด้วย พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษนายธีรยุทธ แก้วสิงห์ รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ ร่วมหารือข้อเสนอแนวทางการเยียวยาด้านมนุษยธรรมผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อาคารสำนักงาน สตง. ถล่ม จำกัด จากตัวแทนจากกิจการร่วมค้า ITD – CREC โดยมี นายเกรียงศักดิ์ กอวัฒนา รองประธานบริหารอาวุโส บริษัท อิตาเลียนไทยฯ และ นายชวน หลิง จาง ตัวแทนบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด เข้าร่วมด้วย
จากการรับฟังข้อเสนอแนวทางการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อาคารสำนักงาน สตง. ถล่มฯ ดังกล่าว กิจการร่วมค้า ITD – CREC แจ้งความประสงค์ที่จะจ่ายเงินช่วยเหลือให้กับผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยประสงค์ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในการดำเนินการในฐานะเป็นผู้บังคับบัญชาของกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ และให้เป็นไป ตามกฎหมายไทย
โดยยืนยันว่าการจ่ายเงินช่วยเหลือในครั้งนี้เป็นการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินคดีอาญาใด ๆ ไม่ผูกพันต่อการฟ้องคดีแพ่งและคดีอาญาใด ๆ ทั้งสิ้น และประสงค์ให้สภาทนายความ ซึ่งเป็นคนกลางเข้าร่วมพิจารณาหลักเกณฑ์ในการจ่ายเงินเยียวยาให้กับผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บแต่ละราย เมื่อมีหลักเกณฑ์และข้อตกลงที่เห็นพ้องต้องกันแล้ว กิจการร่วมค้า ITD – CREC พร้อมจะชำระเงินให้กับผู้มีสิทธิหรือผู้แทนโดยชอบธรรมในทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข
เบื้องต้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้มอบหมายให้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ประสานข้อมูลกับกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ สภาทนายความในการกำหนดหลักเกณฑ์การตรวจสอบเพื่อยืนยันรายชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้เสียชีวิตเพื่อให้ทางกิจการร่วมค้า ITD – CREC มอบเงินช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมต่อไปตามความประสงค์ที่จะมอบให้แก่ทายาทที่แท้จริงและผู้ได้รับบาดเจ็บ
พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า การหารือกันในวันนี้ เป็นการแสดงและยืนยันเจตจำนงในการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม กับผู้ได้รับผลกระทบของทั้ง 2 บริษัทภาคเอกชน พร้อมยืนยันว่าการช่วยเหลือในครั้งนี้จะมีมีผลกระทบใดๆ กับการสืบสวน และต่อการพิจารณาคดีทั้งสิ้น ทุกอย่างยังคงดำเนินไปตามกฎหมายและข้อเท็จจริง โดยกิจการร่วมค้าได้เตรียมงบประมาณที่จะจ่ายเงินให้ครอบครัวผู้ประสบภัยเหล่านี้ไว้แล้วกว่า 95 ล้านบาท สำหรับบุคคลสูญหาย ยืนยันจะจ่ายเงินให้กับผู้ที่มีรายชื่อสูญหายตามหลักเกณฑ์เดียวกับผู้เสียชีวิตที่พบศwจะได้รับการเยียวยาทุกราย
ด้าน พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าว่า ในด้านการดำเนินคดีอาญาและคดีแพ่งยังคงดำเนินต่อไปตามขั้นตอน ส่วนการให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น ทั้ง 2 บริษัทจะให้เงินช่วยเหลือเบื้องต้นสำหรับญาติผู้เสียชีวิตที่รายละ 1,000,000 บาท และผู้บาดเจ็บจะได้รับเงินช่วยเหลือจำนวน 200,000 บาท เป็นเงินชดเชยรายได้ โดยไม่รวมค่ารักษาพยาบาล ซึ่งเงินช่วยเหลือในครั้งนี้จะไม่ทีผลเกี่ยวพันกับคดีใดๆ ทั้งสิ้น เป็นเพียงเงินช่วยเหลือตามวัตถุประสงค์เท่านั้น
ส่วนทาง นายเกรียงศักดิ์ กอวัฒนา รองประธานบริหารอาวุโส บริษัท อิตาเลียนไทยฯ ระบุว่า ขอบคุณหน่วยงานของรัฐที่ช่วยเป็นตัวกลางในการเจรจาระหว่างบริษัทกับผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์ตึก สตง. ถล่ม ยืนยันที่ผ่านมาไม่ได้นิ่งนอนใจ และเยียวยาเบื้องต้น ช่วยเหลือค่าทำศwในรายที่นิติเวชได้พิสูจน์ทราบแล้ว และจ่ายเงินช่วยเหลือผู้บาดเจ็บไปแล้ว ส่วนเงินช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม มีการพูดคุยมาตลอดว่าจำเป็นต้องจัดเงินก้อนหนึ่งเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ญาติผู้เสียชีวิต
ขณะที่ ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ กล่าวว่า หลังจากนี้หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกิจการร่วมค้าจะร่วมกันกำหนดหลักเกณฑ์ในการมอบเงินดังกล่าวส่งมอบให้กับผู้ได้รับผลกระทบ และญาติผู้เสียชีวิตได้อย่างถูกต้องต่อไป ซึ่งสำหรับผู้ที่สูญหาย ที่หากรื้อถอนเศษโครงสร้างจนแล้วเสร็จภารกิจแล้ว แต่ไม่พบร่าง หรือพบว่าเป็นบุคคลสูญหายนั้น หากอยู่ใน 103 ราย ที่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการว่าเป็นผู้ได้รับผลกระทบ ซึ่งถือว่าเป็นไปตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข โดยมีสภาทนายความเป็นผู้คัดกรอง และยืนยันความถูกต้องแล้ว ญาติก็จะได้รับเงินช่วยเหลือเช่นกัน ซึ่งต้องรอการกำหนดหลักเกณฑ์อย่างเป็นทางการก่อน
ที่มา สำนักข่าวอิศรา ( isranews.org )