เหตุใดจีนไม่ยอมอ่อนข้อต่อภาษีทรัมป์ ?

ที่มาของภาพ : Getty Photos

  • Creator, สตีเฟน แมคโดแนลล์
  • Role, ผู้สื่อข่าวประจำประเทศจีน
  • Reporting from กรุงปักกิ่ง

เหตุใดรัฐบาลจีนจึงไม่ยอมถอยให้กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐอเมริกาในเรื่องภาษีศุลกากร คำตอบคือ ไม่มีความจำเป็นที่รัฐบาลจีนต้องยอมทำเช่นนั้น

ผู้นำจีนอาจจะบอกว่าพวกเขาไม่มีแนวโน้มที่จะยอมจำนนต่อผู้รังแก ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลจีนได้ตราหน้ารัฐบาลทรัมป์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า อย่างไรก็ตาม จีนเองก็มีศักยภาพที่จะทำเช่นนั้นได้เหนือกว่าประเทศอื่นใดในโลก

ก่อนที่สงครามภาษีจะเริ่มต้นขึ้น ประเทศจีนมีปริมาณการค้าสินค้าไปยังสหรัฐฯ จำนวนมหาศาล แต่เมื่อพิจารณาตามบริบทแล้ว ปริมาณดังกล่าวคิดเป็นเพียง 2% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ หรือ จีดีพีของจีน

จึงกล่าวได้ว่า พรรคคอมมิวนิสต์ของจีนคงไม่อยากติดอยู่ในสถานการณ์สงครามการค้ากับสหรัฐฯ ในช่วงเวลาที่กำลังดิ้นรนแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของตนเองที่ย่ำแย่ หลังจากเผชิญวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ หนี้สินในระดับภูมิภาคที่เพิ่มสูงเกินควร และการว่างงานของกลุ่มคนหนุ่มสาวที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องมาหลายปี

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะเป็นเช่นนี้ รัฐบาลจีนได้แจ้งให้ประชาชนทราบว่า จีนยังคงอยู่ในฐานะที่เข้มแข็งที่สามารถต้านทานต่อการโจมตีจากสหรัฐฯ ได้

and continue finding outเรื่องแนะนำ

Conclude of เรื่องแนะนำ

ทางการจีนเองก็ทราบว่า มาตรการภาษีของจีนกำลังทำร้ายภาคการส่งออกของสหรัฐฯ เช่นกัน

ทรัมป์ได้คุยโวกับผู้สนับสนุนของเขาว่า การจะบังคับให้จีนยอมจำนนนั้นเป็นเรื่องง่ายเพียงแค่เรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีน แต่การกระทำดังกล่าวกลับกลายเป็นการเข้าใจผิดอย่างยิ่ง

ขณะที่รัฐบาลจีนจะไม่ยอมจำนนอย่างแน่นอน

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนเปิดเผยระหว่างการเข้าพบของนายกรัฐมนตรีเปโดร ซานเชซ ของสเปนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า ประเทศของเขาและสหภาพยุโรปควร “ร่วมกันต่อต้านการกลั่นแกล้งแต่เพียงฝ่ายเดียว” ของรัฐบาลทรัมป์

ในทางกลับกัน ซานเชซกล่าวว่า ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ไม่ควรเป็นอุปสรรคต่อความร่วมมือของจีนกับยุโรป

ทั้งนี้ การหารือดังกล่าวของผู้นำทั้งสองประเทศมีขึ้นในกรุงปักกิ่งไม่กี่ชั่วโมง ก่อนที่ทางการจีนจะประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ อีกครั้ง แม้ว่าก่อนหน้านี้บอกว่าจะไม่มีมาตรการตอบโต้สหรัฐฯ เพิ่มเติมก็ตาม

ในสัปดาห์หน้า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงมีกำหนดเดินทางเยือนมาเลเซีย เวียดนาม และกัมพูชา ซึ่งประเทศเหล่านี้ล้วนได้รับผลกระทบอย่างหนักจากมาตรการภาษีของทรัมป์

ขณะที่บรรดารัฐมนตรีต่าง ๆ ของผู้นำจีนได้เดินทางไปหารือกับคู่ค้าในแอฟริกาใต้ ซาอุดีอาระเบีย และอินเดีย เพื่อยกระดับความร่วมมือด้านการค้าให้ดียิ่งขึ้น

นอกจากนี้ มีรายงานว่าจีนและสหภาพยุโรปกำลังหารือกันถึงความเป็นไปได้ที่จะยกเลิกภาษีนำเข้าที่เรียกเก็บกับรถยนต์ของจีน และจะแทนที่ด้วยการกำหนดราคาขั้นต่ำแทน เพื่อควบคุมการทุ่มตลาดรอบใหม่

โดยสรุปแล้ว ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็จะเห็นว่า จีนมีทางเลือกอยู่แล้ว

นักวิเคราะห์กล่าวว่า การขึ้นภาษีศุลกากรซึ่งกันและกันของทั้งสองมหาอำนาจนั้นแทบจะไม่มีความหมายอีกต่อไป เนื่องจากทั้งสองมหาอำนาจได้ผ่านจุดที่ต้องตัดความสัมพันธ์ทางการค้าส่วนใหญ่ระหว่างกันไปแล้ว

ดังนั้น การขึ้นภาษีศุลกากรตอบโต้กันในทั้งสองฝั่งจึงกลายเป็นเพียงสัญลักษณ์เท่านั้น

กราฟิกแผนภูมิแสดงให้เห็นการขึ้นภาษีนำเข้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ที่เริ่มขึ้นในเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา

ขณะที่เมื่อสองวันที่ผ่านมา เหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ได้โพสต์รูปภาพของ ประธานเหมา หรือ “เหมา เจ๋อตุง” ผู้ก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน บนสื่อสังคมออนไลน์ รวมทั้งคลิปวิดีโอเหตุการณ์สงครามเกาหลี ที่เขาพูดถึงสหรัฐฯ ว่า “ไม่ว่าสงครามนี้จะยาวนานเพียงใดก็ตาม เราก็จะไม่ยอมแพ้”

นอกจากนี้ เธอยังได้โพสต์ข้อความที่เป็นคำพูดของเธอเองว่า “พวกเราคือคนจีน เราไม่กังวลกลัวต่อการยั่วยุใด ๆ พวกเราจะไม่ยอมจำนน”

เมื่อรัฐบาลจีนนำประธานเหมาออกมา คุณรู้ว่าพวกเขากำลังจริงจังแล้วในตอนนี้

Note Moments

คำบรรยายวิดีโอ, รับชม: สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนส่งผลกระทบต่อชาวจีนอย่างไร