สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติค้าน อสส.ไม่ฏีกา พิพากษากลับให้ยกฟ้อง อดีตนายก อบต.เชิงทะเล จังหวัดภูเก็ต โดนคุก 2 ปี

เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา ‘มาแอ่น สำราญ' อดีตนายก อบต.เชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ดำเนินการคัดเลือกแต่งตั้งผู้บริหารมิชอบ ล่าสุด ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง หลังโดนโทษจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา – สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติค้านอสส.ไม่ฏีกาสู้

สำนักข่าวอิศรา . รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช. ) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายมาแอ่น สำราญ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดจังหวัดภูเก็ต ดำเนินการคัดเลือกพนักงานส่วนตำบลตำแหน่งผู้บริหารเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในระดับสูงขึ้นโดยมิชอบ ซึ่งถูกคณะกรรมการ​ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ​ ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา มาตรา 157 , พ.ร.ป. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 พ.ร.ป. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. 2561 มาตรา 192 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2567 ศาลอุทธรณ์ พิพากษากลับให้ยกฟ้อง

จากที่ก่อนหน้านี้ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 มีคำพิพากษาว่า นายมาแอ่น สำราญ จำเลยมีความผิดตาม ปอ. มาตรา 157 (เดิม) และ พ.ร.ป. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ.25 2542 มาตรา 123/1 พ.ร.ป.สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. 2561 มาตรา 172

การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตาม พ.ร.ป.สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 ซึ่งเป็นบทหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90

จำคุก 2 ปี

เบื้องต้น คณะกรรมการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ มีการประชุมเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2568 ได้พิจารณาแล้ว มีมติไม่เห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่ฏีกาคำพิพากษาดังกล่าว

สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ