
ศาลรัฐธรรมนูญ เผยแพร่เอกสารข่าวผลการประชุมปรึกษาคำร้องของ ณฐพร โตประยูร ปม กกต.- พรรคภูมิใจไทย – สว. ล้มล้างการปกครองฯ แจ้ง สำนักงานอัยการสูงสุด ส่งหนังสือการดำเนินการตามคำร้อง-รวบรวมพยานหลักฐาน กลับมาภายใน 15 วัน เพื่อประโยชน์ในการพิจารณาว่าจะรับคำร้องหรือไม่
สำนักข่าวอิศรา . รายงานว่า วันที่ 12 มิถุนายน 2568 ศาลรัฐธรรมนูญเผยแพร่เอกสารข่าวผลการประชุมปรึกษาคดี คำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 (เรื่องพิจารณาที่ 16/2568) กรณีนายณฐพร โตประยูร (ผู้ร้อง) ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 กล่าวอ้างว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (ผู้ถูกร้องที่ 1) และเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (ผู้ถูกร้องที่ 2) จัดการเลือกสมาชิกวุฒิสภาไม่เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรมตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความช่วยเหลือ สนับสนุน และเอื้อประโยชน์ให้พรรคภูมิใจไทย (ผู้ถูกร้องที่ 3) กรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคภูมิใจไทย (ผู้ถูกร้องที่ 4) สมาชิกวุฒิสภา (สว.) รายชื่อปรากฏตามสำนวนการสอบสวนของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (ผู้ถูกร้องที่ 5) นายเนวิน ชิดชอบ (ผู้ถูกร้องที่ 6) นางกรุณา ชิดชอบ (ผู้ถูกร้องที่ 7) นายทองเจือ ชาติกิจเจริญ กับพวก (ผู้ถูกร้องที่ 8) นายศุภชัย โพธิ์สุ (ผู้ถูกร้องที่ 9) นางสาววาริน ชิณวงศ์ (ผู้ถูกร้องที่ 10) นายสมเจตน์ ลิมปะพันธุ์ (ผู้ถูกร้องที่ 11) และนายสุบิน ศักดา (ผู้ถูกร้องที่ 12) ร่วมกันกระทำการโดยทุจริตในกระบวนการเลือกสมาชิกวุฒิสภา
ผู้ถูกร้องที่ 3 (พรรคภูมิใจไทย) ที่ 4 (กก.บห.พรรคภูมิใจไทย) ที่ 6 (นายเนวิน ชิดชอบ) และที่ 7 (นางกรุณา ชิดชอบ) เป็นผู้ดำเนินการวางแผนและควบคุมกระบวนการทุจริตการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ตั้งแต่การคัดเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับอำเภอ ระดับจังหวัด และระดับประเทศ ซึ่งดำเนินการจัดเตรียมผู้สมัครไว้ล่วงหน้าจากทุกกลุ่มอาชีพโดยการว่าจ้าง และจัดทำโพยการฮั้วให้ผู้สมัครลงคะแนนเลือก โดยประชุมวางแผนเกี่ยวกับวิธีการลงคะแนนเป็นการลับในสถานที่ต่าง ๆ รวมทั้งสนับสนุนที่พัก ยานพาหนะและค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับประเทศ ซึ่งผลการเลือกวุฒิสภาเป็นไปตามโพยการฮั้วดังกล่าว ทำให้ได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภาจำนวน 138 คน และสำรองอีก จำนวน 2 คน อันเป็นการกระทำเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญและกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ผู้ถูกร้องที 5 (สว.) และที่ 8 ถึงที่ 12 เป็นผู้ดำเนินการตามแผนการทุจริตการเลือกสมาชิกวุฒิสภาดังกล่าว อันเป็นผลให้ผู้ถูกร้องที่ 5 ได้เข้ามาปฏิบัติหน้าที่เป็นสมาชิกวุฒิสภา แต่ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวด้วยความไม่เป็นกลางทางการเมือง ไม่ซื่อสัตย์สุจริต และไม่เป็นไปตามกฎหมาย อีกทั้งเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ถูกร้องที่ 3 ต่อการลงมติในประเด็นต่าง ๆ ของวุฒิสภา อันเป็นการกระทำที่ฝักใฝ่หรือยอมตนอยู่ใต้อาณัติของพรรคการเมือง
การกระทำของผู้ถูกร้องที่ 1 ถึงที่ 12 มีความเชื่อมโยงกันและร่วมกันทำเป็นขบวนการให้ได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภาเพื่อใช้อำนาจปกครองประเทศโดยวิธีการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย อันเป็นการกระทำเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ โดยผู้ถูกร้องที่ 3 ที่ 4 และที่ 5 ยังคงใช้อำนาจที่ได้มาโดยวิธีการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายในการปกครองประเทศมาอย่างต่อเนื่อง และหากยังคงใช้อำนาจดังกล่าวต่อไปจะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงและเป็นภยันตรายต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันเป็นการกระทำเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง
ผู้ร้องยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุด เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 แต่อัยการสูงสุดไม่ดำเนินการภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำร้องขอตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคสาม ผู้ร้องจึงยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 โดยขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการกระทำของผู้ถูกร้องที่ 1 ถึงที่ 12 เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และสั่งให้เลิกการกระทำดังกล่าว และสั่งให้ผู้ถูกร้องที่ 1 ที่ 2 ที่ 5 รัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคภูมิใจไทย (รายชื่อตามสำนวนการสอบสวนของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง) หยุดปฏิบัติหน้าที่นับตั้งแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้อง จนกว่าจะมีคำวิมีคาวินิจฉัย
ผลการพิจารณา
ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาโดยการอภิปรายแล้วเห็นว่า เพื่อประโยชน์แก่การพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญว่าจะรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยหรือไม่ ในชั้นนี้ ให้มีหนังสือแจ้งอัยการสูงสุดเพื่อขอทราบว่าได้ดำเนินการตามคำร้องของผู้ร้องไปแล้วอย่างไร และรวบรวมพยานหลักฐานได้เพียงใด โดยให้จัดส่งต่อศาลรัฐธรรมนูญ ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ
ที่มา สำนักข่าวอิศรา ( isranews.org )