‘พิชัย’ เผยผลเจรจาภาษีการค้า Reciprocal Tariff กับ ‘สหรัฐฯ’ ยังไม่ได้ข้อสรุป ‘สุดท้าย’ พร้อมรับ ‘ฟีดแบ็ค’ ไปจัดทำข้อเสนอใหม่เพิ่มเติม-ปรับเงื่อนไขต่างๆให้ชัดเจน

………………………………

เมื่อวันที่ 4 ก.ค. นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเจรจาภาษีการค้ากับสหรัฐฯ เปิดเผยผลการเจรจาภาษีการค้ากับสหรัฐฯ ว่า การเดินทางเยือนสหรัฐเพื่อเจรจาภาษี Reciprocal Tariff กับสหรัฐฯในครั้งนี้ ยังไม่ได้ผลสรุปสุดท้าย ทั้งนี้ คณะทำงานฯจะรับ feedback (ข้อแนะนำ) ของสหรัฐฯ ไปปรับปรุงเงื่อนไขต่างๆให้ชัดเจน และจัดทำข้อเสนอใหม่เพิ่มเติมต่อไป

“การเจรจาวันนี้ ข้อสรุปแล้ว ผมคิดว่าเป็นไปด้วยดี กับสหรัฐเองก็กล่าวขอบคุณที่ไทยมีความกระตือรือร้นในการที่เข้าร่วมเจรจาในครั้งนี้ ซึ่งเราบอกว่าเราจะรับฟีดแบ็คที่ได้ในวันนี้ กลับไปจัดทำข้อเสนอใหม่เพิ่มเติม เพื่อประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ผมขอยืนยันอีกครั้งว่า จุดยืนของคณะทำงานหรือของพวกเรา คือ ข้อตกลงที่เมื่อตกลงแล้ว เป็นข้อตกลงที่ปฏิบัติได้ ยั่งยืน และเป็นข้อตกลงที่ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย หรือที่เราพูดว่า obtain-obtain insist

ดังนั้น แม้ว่าการเจรจายังไม่ได้ผลสุดท้าย ก็แปลว่าเรายังคงต้องทำงานกันต่อไป เพื่อให้บรรจุซึ่งประโยชน์สูงสุดของทั้งสองประเทศ ในท้ายนี้ ผมคิดว่าทั้งผมและคณะทำงาน คงจะต้องทำงานกันให้หนักมากขึ้น เพื่อปรับเงื่อนไขที่เราเสนอให้เกิดความชัดเจน และเป็นผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย เพื่อจะได้ตกลงที่เป็นประโยชน์ต่อไป” นายพิชัย กล่าว

นายพิชัย กล่าวด้วยว่า ในการเยือนสหรัฐฯครั้งนี้ ตนได้พบกับภาครัฐของสหรัฐ ในระดับนโยบาย ทั้งผู้บริหารสูงสุดของสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) และรมช.กระทรวงการคลังของสหรัฐ ได้พบกับบริษัทสหรัฐ ซึ่งเป็นบริษัทที่ลงทุนค่อนข้างสูงในประเทศไทย ลงทุนมายาวนาน และอยากอยู่กับประเทศไทยต่อไป รวมทั้งพบกับภาคเกษตรกรของสหรัฐ ซึ่งเป็นภาคที่ระดับนโยบายของสหรัฐให้ความสำคัญมาก

“เราได้พบกับ 3 กลุ่มนี้ และทั้งหมดนี้ ทำให้เราได้เข้าใจถึงผลของคนที่เกี่ยวข้อง และนำไปซึ่งระดับนโยบายที่จะตัดสินใจ หรือ Coverage maker ที่จะเอาปัจจัยเหล่านี้ไปพิจารณาด้วย นอกเหนือจากการยื่นอัตราภาษี …ทั้งนี้ ในการเจอกัน เราได้รับฟีดแบ็คมาในส่วนที่สำคัญมากว่า ซึ่งทำให้สหรัฐฯมีความเชื่อมั่นและมั่นใจว่า ประเทศไทยเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจมาอย่างยาวนาน แล้วที่ผ่านมาเป็นประโยชน์กับทั้ง 2 ฝ่าย” นายพิชัยกล่าว

นายพิชัย ยังกล่าวว่า การได้พบกับผู้บริหารระดับสูงของสหรัฐฯครั้งนี้ ทำให้เข้าใจถึงแนวคิดของผู้บริหารระดับสูงของสหรัฐฯว่าเป็นอย่างไร และในระหว่างการเจรจาได้มีพูดคุยกันมากขึ้นว่า ลึกๆแล้ว สหรัฐฯต้องการในสิ่งใด นอกเหนือจากที่เราเข้าใจ เพื่อนำไปประกอบการพิจารณาในระดับทำงานและระดับเทคนิคของประเทศไทยต่อไป