
ปปง.ร่วมมือ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ประสานข้อมูลตัดวงจรทุจริตคดีสแกมเมอร์ข้ามชาติ เผยกรณี ‘เบน สมิธ' อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลมีเจ้าหน้าที่รัฐเอี่ยวหรือไม่
สำนักข่าวอิศรา . รายงานว่า เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 2568 เวลา14.30 น. ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มีการประชุมร่วมกันระหว่างสำนักงานคณะกรรมการการป้องกันและปราบการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช. ) กับ ปปง. กรณีนายสุรพงษ์ อินทรถาวร รองเลขาธิการฯ รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ มอบหมายให้นายพัฒนพงศ์ จันทร์เพ็ชรพูล ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ประสานสำนักงาน ปปง. เพื่อขอข้อมูลการฟอกเงินกรณีของนายเบน สมิธ และพวก ว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ รวมถึงหารือแนวทางบูรณาการข้อมูลร่วมกันในการตรวจสอบเจ้าพนักงานของรัฐซึ่งเป็นบุคคลที่มีสถานภาพทางการเมือง ตามประกาศสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เรื่อง บุคคลที่มีสถานภาพทางการเมือง พ.ศ.2568 และหารือแนวทางการตรวจสอบข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับเจ้าพนักงานของรัฐที่ประชาชนหรือสื่อมวลชนให้ความสนใจ
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 2568 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตำรวจ) ร่วมกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) แถลงข่าวเปิดยุทธการ “ถอนรากสแกมเมอร์ข้ามชาติ ยึดกว่า 10,000 ล้านบาท สะเทือนทั้งวงการ” มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการ คณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ร่วมแถลงข่าว รวมกรณี นางสาวแตงไทย บ้านมะหิงษ์ กับพวก เชื่อมโยงข้อมูล นายยิม เลียกและ นายเบน สมิธ จำนวน 66 รายการ (เช่น ที่ดิน ห้องชุด หลักทรัพย์ในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ และเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร) รวมมูลค่าประมาณ 9,279 ล้านบาท

- เปิดคำสั่งปปง.อายัด 9.2 พันล้าน'ยิม เลียก-เบน-ลูกเมีย' บ.อัลฟ่าฯโดนหุ้นบางจากเกือบ 6 พันล้าน
ภายหลังการหารือเสร็จสิ้น นายพัฒนพงศ์และนายวิทยา นีติธรรม ผู้ช่วยเลขาธิการ ปปง. ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน
นานพัฒนพงศ์ กล่าวว่า ทั้งนี้ในการประชุมเบื้องต้นได้รับแจ้งว่า ทาง ปปง. อยู่ระหว่างขยายผล เบื้องต้นยังไม่ปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐมาเกี่ยวข้อง แต่ระหว่างการตรวจสอบขยายผล เส้นทางการโอนเงินนั้น โอนไปที่ไหน อย่างไร มีเจ้าหน้าที่รัฐมาเกี่ยวข้องหรือไม่ เงินดังกล่าวมีช่องทาง หรือบริษัท หรือหน่วยงานรัฐใดเกี่ยวข้อง รวมถึงเรื่องภาษี ต้องกลับไปดูรายละเอียด นอกจากนี้ทางเลขา ปปง. ก็ให้ข้อมูลพอสมควร เช่น บุคคลหนึ่งที่มีความสัมพันธ์หรือเกี่ยวข้องกับกระทรวงใด ที่ปรากฏเป็นข่าว สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติก็ต้องไปดูรายละเอียดว่าการเข้าไปมีความเกี่ยวข้อง มีการใช้อำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐเอื้อประโยชน์หรือไม่อย่างไร เพราะบางครั้งก็เป็นการใช้อำนาจตามปกติที่ไม่ได้มีเจตนาอย่างอื่น ต้องไปดูรายละเอียดอีกทีหนึ่ง ส่วนกรอบเวลาการตรวจสอบนั้น ก็อยู่ภายใต้กรอบอายุความตามความผิดมีทั้ง 15 ปีและ 20 ปี แต่การร่วมมือของสองหน่วยงานในวันนี้ จะไม่รอจนถึงวันหมดอายุความ เราจะทำงานเชิงรุกเพื่อให้ ปปง.ตรวจสอบธุรกรรม ถ้ามีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้อง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ก็จะไปดำเนินการ
นายวิทยา กล่าวว่า ตั้งแต่มีการยึดอายัดทรัพย์คดีสำคัญที่เป็นหมื่นล้าน ที่ถามว่ามีส่วนที่เกี่ยวข้องเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่ ต้องไปดูกระบวนการ เพราะในระยะแรก ปปง. ติดตามตรวจทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำผิด ซึ่งในส่วนนี้ต้องมาดูรายละเอียดว่าขั้นตอนที่นำไปสู่กระบวนการโอนเงินจำนวนมาก มีเจ้าหน้าที่รัฐตรงส่วนไหน องค์กรใด มาเกี่ยวข้องหรือไม่
ส่วนกรณีข่าว MOU ระหว่างกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กับบริษัทไพรม์ ออพ พอร์ทูนิตี้ ฟันด์ วิซีซี (High Different Fund VCC) จากสิงคโปร์ ที่ปรากฏภาพเจ้าหน้าที่ระดับสูงมีภาพร่วมกับนายเบน สมิธ นั้น สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ก็มีข้อสอบถามว่ากรณีดังกล่าวเกี่ยวข้องกับกรณียึดอายัดทรัพย์หมื่นล้านหรือไม่ ก็ต้องมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันต่อไป แต่ ปปง. ยังต้องติดตามสอบสวนอีกสักระยะหนึ่งเพื่อความชัดเจนในการดำเนินการ แต่ตกลงตรงกันว่าต้องมีความร่วมมืออย่างใกล้ชิดตั้งแต่วันนี้ เพื่อให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลได้และจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“ตรงส่วนไหนที่ ปปง. สามารถสนับสนุนได้เพื่อให้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ นำไปปั้นต่อให้เป็นเรื่องมูลฐานทุจริต ปปง.ก็สามารถนำมาต่อยอดดำเนินการกับทรัพย์สินในความผิดอาญาฐานฟอกเงินได้ หรือแม้สุดท้ายถ้าไม่เจอมูลฐาน แล้วถ้าเจอธุรกรรมของเจ้าหน้าที่รัฐจำนวนมากที่ไม่สามารถให้คำตอบได้ ไม้เสียชีวิตของ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ก็มีเรื่องร่ำรวยผิดปกติ ซึ่งเราสามารถต่อยอดไปได้ ดังนั้น ณ วันนี้ ทั้งสองหน่วยงานมีอำนาจตามกฎหมาย แต่สามารถประสานความร่วมมือ มาใช้อุดช่องว่างมาตัดวงจรในการทุจริตได้อย่างมีประสิทธิภาพ” นายวิทยา กล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าการตรวจสอบการโอนเงินก็จับได้แค่ปลาซิวปลาสร้อย แต่จะตรวจสอบได้หรือไม่ว่ามีตัวการใหญ่อยู่เบื้องหลัง
นายวิทยา ตอบว่า แม้กระทั่งการยึดทรัพย์สินหมื่นล้านก็เริ่มจากปลาซิวปลาสร้อย เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนการต่าง ๆ แต่ความร่วมมือของสองหน่วยงานก็จะสามารถติดตามเชิงลึกได้ต่อไปในอนาคต
อ่านประกอบ :












