แชร์ลิ้งค์นี้ : https://ด่วน.com/066h | ดู : 10 ครั้ง จากทั้งหมด 311 ครั้ง ในรอบ 30 วัน
2,556-บาท-คือ-ราคาเฉลี่ย-ค่าหัว-ของเงินอุดหนุนทางการศึกษาท

2,556 บาท คือ ราคาเฉลี่ย ‘ค่าหัว’ ของเงินอุดหนุนทางการศึกษาที่รัฐจัดสรรให้กับเด็กนักเรียนรหัส G ในโรงเรียนรัฐสังกัด สพฐ. ให้สำหรับเด็กนักเรียนที่ไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน หรือลูกหลานแรงงานช้ามชาติไม่ว่าจะมีสัญชาติใดก็ตาม หากต้องการเข้าเรียน โรงเรียนก็จะออกรหัส G-Code ให้เพื่อใช้ส่งไปยืนยันจำนวนกับกระทรวงศึกษาธิการว่ามีเด็กจำนวนเท่าใดที่ต้องจัดสรรงบประมาณ ซึ่งเด็กรหัส G จะได้งบอุดหนุนรายปีเท่ากับเด็กไทย ตั้งแต่ 1,836 บาทในระดับชั้นก่อนประถม 2,052 บาทในชั้นประถม และ 3,780 บาท สำหรับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น (ข้อมูลปีงบประมาณ 2567)

หลายคนอาจะเข้าใจผิดว่า เงินรายหัวเหล่านี้นั้นจะตกกับเด็กโดยตรง แต่ในความเป็นจริงงบฯ ดังกล่าวจะถูกโอนเข้าโดยตรงให้กับโรงเรียนเพื่อ ‘จัดกการศึกษา’ ให้กับเด็กทุกคนโดยที่นักเรียนไม่ต้องเสียค่าเทอม

ปีการศึกษา 1/ 2568 โรงเรียนไทยมีนักเรียนรหัส G ทั้งหมด 184,029 คน กระจายอยู่ตามสถานศึกษาทั้ง 11 แห่งของรัฐและเอกชน อยู่ในสังกัดของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) มากที่สุด คือ 108,478 คน และหากพิจารณาเฉพาะเด็กนักเรียนสัญชาติกัมพูชา ที่กระจายอยู่ตามสถานศึกษาทั่วประเทศ จะอยู่ที่ 25,945 คน ภาคตะวันออกมีจำนวนมากที่สุด คือ 16,415 คน

จำนวนเด็กที่เพิ่มขึ้นสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการให้ลูกหลานเข้าถึงการศึกษา ซึ่งโดยหลักการไทยได้โอบรับความต้องการนี้ผ่านหลักการ การศึกษาขั้นพื้นฐานอย่างทั่วถึง (training for all ) ซึ่งไทยได้เข้าร่วมเมื่อปี 2533 จนกลายเป็นที่มาของ พ.ร.บ. การศึกษาแห่งชาติ 2542 รัฐต้องให้การศึกษาฟรี 12 ปี โดยไม่เลือกปฏิบัติ และรัฐเองจะมีเงินอุดหนุนรายหัวให้ตามจำนวนผู้เรียน มากน้อยลดหลั่นกันไปตามระดับชั้น

พงศ์ทัศ วนิชานันท์ นักวิจัยนโนบายด้านปฏิรูปการศึกษาจาก มูลนิธิสถาบันพัฒนาเพื่อการวิจัย TDRI อธิบายว่า ในประเทศไทย เด็กทุกคนไม่ว่าสัญชาติใด มีสิทธิที่จะได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานจนจบชั้นมัธยมปลาย โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญปี 2560 และรัฐมีหน้าที่จัดสรรงบประมาณผ่านกระทรวงศึกษาธิการ ดังนั้นโรงเรียนรัฐทุกแห่งจึงไม่มีสิทธิที่จะปฏิเสธไม่รับเด็กเข้าเรียน บวกกับการเพิ่มขึ้นของแรงงานข้ามชาติในประเทศไทย ที่แต่ละคนมักจะมีผู้ติดตามเข้ามาเป็นครอบครัว จำนวนเด็กจึงเพิ่มขึ้นอย่างสอดคล้องกัน อัตราการกระจุกตัวจะแตกต่างกันไปตามกลุ่มจังหวัดที่มีแรงงานข้ามชาติอาศัยอยู่

พงศ์ทัศ เน้นย้ำเพิ่มว่า การจัดการศึกษาของโรงเรียนมีต้นทุนที่ต้องแบกไว้ ต้นทุนส่วนหนึ่งของโรงเรียนจะเพิ่มขึ้นตามจำนวนเด็กที่เข้ามาเรียน ค่า ค่าอุปกรณ์การเรียน หนังสือ รวมถึงค่าใช้จ่ายในการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ซึ่งตามหลักการจัดสรรงบฯ ให้แก่โรงเรียนจะถูกคิดบนฐานจำนวนเด็กรายหัว เพื่อนำมาจัดสรรให้ครอบคลุมต้นทุนดังกล่าว บนคติความเท่าเทียมทางการศึกษาอย่างที่เด็กทุกคนควรจะได้

อดีตครูโรงเรียนขยายโอกาสแห่งหนึ่งในชลบุรี ตั้งข้อสังเกตว่า การที่โรงเรียนรับเด็กเข้ามาเรียนมากขึ้นเท่าไร ไม่ว่าสัญชาติไหน จะทำให้โรงเรียนเหล่านั้นไม่ถูกยุบ โดยเฉพาะโรงเรียนขนาดเล็กที่ตนเคยสอน ทั้งชั้นปีมีเด็กรวมกันได้เพียง 1 ห้องเรียน หรือราว 30 คน และแทบทั้งหมดไม่ใช่เด็กสัญชาติไทย พื้นที่ที่เคยสอนนั้นอยู่ในอาณาบริเวณของโรงงานเลี้ยงสัตว์ เต็มไปด้วยแรงงานข้ามชาติที่มากันเป็นครอบครัว และพาลูกหลานเข้ามาเรียนที่โรงเรียน เมื่อมีนักเรียน โรงเรียนก็มีตัวเลขที่จะส่งไปขอเงินอุดหนุนจากกระทรวง นำงบมาพัฒนาโรงเรียน จัดการเรียนการสอน

อดีตครูให้ความเห็นว่า ครูมีหน้าที่สอนเด็กทุกคนให้อ่านออกเขียนได้ มีความรู้ออกไปใช้ชีวิต ยิ่งเป็นเด็กข้ามชาติที่ต่อมาจะกลายมาเป็นแรงงานในไทย ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ครูยิ่งต้องช่วยสอนให้อ่านออกเขียนได้

เด็กรหัส G ต้องไม่มีเด็กกัมพูชา ?

แม้ไทยจะมอบสิทธิตามรัฐธรรมนูญให้เด็กทุกสัญชาติ ในทางปฏิบัตินั้นไม่ได้สะดวกโยธินดั่งหลักการ ยิ่งเมื่อมีอคติที่แฝงฝังมากับชาตินิยมในสภาวการณ์ของความขัดแย้งสองประเทศ การนำเด็กข้ามชาติเหล่านี้เข้าระบบโรงเรียนจึงเต็มไปด้วยอุปสรรค โดยเฉพาะลูกหลานแรงงานสัญชาติกัมพูชา

ข้อมูลจากฐานข้อมูล สพฐ.ระบุว่า ณ สิ้นปี 2567 มีจำนวนนักเรียนกัมพูชาตั้งแต่ระดับก่อนวัยเรียนจนถึงมัธยมศึกษาตอนปลายทั้งสิ้น 25,943 คน กระจายอยู่ตามโรงเรียนของรัฐทั่วประเทศ แต่หลังเหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่างสองประเทศ ตัวเลขดังกล่าวอาจจะลดน้อยลงเพราะพ่อแม่นำเด็กกลับประเทศต้นทาง

‘ครูจิ๋ว’ ทองพูล บัวศรี ผู้ขับเคลื่อนการศึกษาเด็กลูกหลานแรงงานข้ามชาติในประเทศไทย มูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก  เล่าถึงเรื่องราวการต่อสู้เพื่อให้เด็กไร้โอกาสได้เข้าถึงการศึกษาว่า  โดยปกติการนำเด็กข้ามชาติเข้าเรียนนต้องมีตัวกลาง โดยเฉพาะองค์กรพัฒนาเอกชน หรืออาสาสมัครเข้าไปช่วยอำนวยความสะดวก เพราะตัวแรงงานหลายคนไม่รู้ขั้นตอนและระเบียบ รวมถึงกำแพงภาษา

อย่างเช่นงานที่ครูจิ๋วทำ เธอจะเข้าไปคุยกับพ่อแม่เด็ก ตามแคมป์คนงาน พาเด็กๆ เข้าไปสมัครเรียน จัดการเรื่องเอกสารกับโรงเรียน ครูจิ๋วพบว่าในช่วงแรก ปัญหาหลักที่คล้ายคลึงกันของเด็กทุกคนคือ การที่ต้องย้ายตามพ่อแม่ไปตามสถานที่ทำงาน แต่การเข้าเรียนคือการที่เด็กต้องอยู่เป็นหลักแหล่งเพื่อความต่อเนื่องทางการศึกษา ทำให้ผู้ปกครองบางส่วนมองว่าการเข้าเรียนเป็นไปได้ยาก ซึ่งการมีองค์กรเอกชนเข้าไปช่วยเป็นตัวกลางดำเนินการเรื่องการย้ายโรงเรียน ทำให้เด็กข้ามชาติจำนวนหนึ่งสามารถเข้าเรียนได้ในโรงเรียนรัฐได้ฟรีและต่อเนื่อง

แต่ความเป็นได้นั้นเริ่มทยอยลดน้อยถอยลงหลัง เมื่อมีการปะทะกันระหว่างไทยและกัมพูชา ครูจิ๋วสะท้อนว่า การทำงานเริ่มถูกตั้งคำถามว่า “เข้าไปช่วยเหลือคนพวกนี้ทำไม?” การจะระดมเงินช่วยเหลือแต่ละครั้ง หากบอกว่าจะนำไปช่วยลูกหลานแรงงานกัมพูชา จาก ‘ดอกไม้’ จะกลายเป็น ‘ก้อนหิน’ ทันที ตัวผู้ปกครองเองจากที่เคยยินดีจะพาลูกเข้าเรียน ก็กลายเป็นหวาดระแวง กลัวว่าลูกหลานตนเองจะพลอยได้รับความเกลียดชังไปด้วย แม้พวกเขาจะไม่ใช่ต้นตอของความขัดแย้งก็ตาม

“สำหรับเด็กเล็ก โรงเรียนคือพื้นที่ที่ปลอดภัยที่สุด ที่เด็กจะได้เป็นเด็ก มีข้าวกิน มีความรู้ อ่านออกเขียนได้ มีสังคม มีเพื่อนเล่น ในความคิดของเด็กหลังรั้วโรงเรียน ไม่มีหรอกที่เด็กเขาจะมาทะเลาะกันเพราะคนละเชื้อชาติ ยิ่งในเด็กเล็ก เขาไม่คิดถึงเรื่องสัญชาติด้วยซ้ำ แต่ทุกวันนี้ บางโรงเรียนที่เราไปวิ่งเรื่องเพื่อพาเด็กกัมพูชาเข้าไปเรียน ถึงโรงเรียนจะไม่ปฏิเสธตรงๆ แต่ก็จะพูดอ้อมๆ ว่า ยังไม่รับในภาคเรียนนี้บ้าง ที่เต็มบ้าง ”

โรงเรียนควรเป็นสถานที่ปลอดภัยให้เด็กทุกคนได้เติบโตสมวัย และพัฒนาศักยภาพทางการศึกษา เพื่อที่วันหนึ่งเด็กเหล่านี้จะกลายมาเป็นกำลังสำคัญที่จะขยับตัวเลขทางเศรษฐกิจ การมีอยู่ของเด็กเหล่านี้ในระบบการศึกษา เป็นเครื่องการันตีว่า การศึกษาไทย พยามเต็มที่ ที่จะไม่ทอดทิ้งเด็กกลุ่มไหนไว้ข้างหลัง

ในตอนถัดไปจะพาไปรู้จักกับเรื่องราวของชุมชนแรงงานข้ามชาติชาวกัมพูชาในภาคตะวันออก ภูมิภาคที่มีเด็กนักเรียนข้ามชาติเข้าเรียนในสังกัดโรงเรียนรัฐไทยมากที่สุด เด็กเหล่านี้ต้องปรับตัวอย่างไรบ้างเพื่อรับมือกับผลกระทบจากชาตินิยมที่พวกเขาไม่ได้เป็นคนก่อ

รายงานนี้ได้รับการสนับสนุนโดย กองบรรณาธิการ ‘โครงการห้องทดลองพัฒนาระบบนิเวศเครือข่ายการสื่อสารสาธารณะเพื่อสันติภาพ’

Lanner, Louder, The Isaan File, The Motive, Sound Isan, Wartani, ประชาไท, สำนักข่าวชายขอบ,ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน), สถาบันสันติศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย

ที่มา ประชาไท ( prachatai.com )

เรื่องที่เกี่ยวข้อง:

“ไชยชนก” นำทัพ ดีอี ถอดแบบ “บุรีรัมย์ โมเดล” วางระบบบริหารจั 2025-12-10 16:50:00

คลิปลับจากแนวหน้า!

Ntt Docomo Global- แอสเซนด์ คอมเมิร์ซ ในเครือซีพี ลงนามจัดตั้งพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ด้านเงินทุน

ดีเอสไอ-ศุลกากร ยึดบุหรี่ไฟฟ้าลักลอบนำเข้าจากตปท. 591,692 ชิ้น เสียหายกว่า 100 ล.

รวบสาวแสบอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ลวงโอนเงินกว่าแสนบาท . ต

กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงเปิดนิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ “ริมมรคา 2025-12-10 17:13:00

ปปง.-สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เผยกรณี 'เบน สมิธ' อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลมีเจ้าหน้าที่รัฐเอี่ยวหรือไม่

งานวิจัยพบ การทำเหมืองใต้ทะเลลึก ส่งผลกระทบต่อสัตว์หนึ่งในสามที่อาศัยอยู่ก้นทะเล

10 ธันวาคม “วันรัฐธรรมนูญ” วันที่ 10 ธันวาคมของทุกปีตรงกับวั

ผู้เรียบเรียง

ให้คะแนนความพอใจของคุณ :

0 / 5 คะแนน 0

คุณให้คะแนน:

แชร์ลิ้งค์นี้ : https://ด่วน.com/066h | ดู : 10 ครั้ง จากทั้งหมด 311 ครั้ง ในรอบ 30 วัน
  1. advertising-for-luminox-เรื่องราวเบื้องหลังการออกแบบ-lumin ADVERTISING FOR LUMINOX เรื่องราวเบื้องหลังการออกแบบ Lumin
  2. จับตารอบทิศ 11 ธ.ค. 68 จับตารอบทิศ 11 ธ.ค. 68
  3. นำ 6 ทหารบาดเจ็บ ส่งต่อ โรงพยาบาลค่ายสุรนารี | ข่าวเที่ยงช่องวัน | สำนักข่าววันนิวส์ นำ 6 ทหารบาดเจ็บ ส่งต่อ โรงพยาบาลค่ายสุรนารี | ข่าวเที่ยงช่องวัน | สำนักข่าววันนิวส์
  4. รัฐสภาเห็นชอบ กมธ.ร่าง รธน. 35 คน สูตร 20 หยิบ 1 อัพเดทข่าว รัฐสภาเห็นชอบ กมธ.ร่าง รธน. 35 คน สูตร 20 หยิบ 1 อัพเดทข่าว
  5. เผยความหรูหราและเอกลักษณ์กับ-tom-ford-beauty-แบรนด์ที่ใช้ส่วนผสมคุณภาพสูงจากพืชและพันธุ์ไม้หายาก เผยความหรูหราและเอกลักษณ์กับ TOM FORD BEAUTY แบรนด์ที่ใช้ส่วนผสมคุณภาพสูงจากพืชและพันธุ์ไม้หายาก
  6. scb-wealth-ชู-ai-infrastructure-เป็นคลื่นลงทุนยักษ์แห่งอนาคต SCB WEALTH ชู AI Infrastructure เป็นคลื่นลงทุนยักษ์แห่งอนาคต
  7. “ไทย-กัมพูชา” จบอย่างไร หากไม่เจรจา? |  11 ธ.ค. 68 “ไทย-กัมพูชา” จบอย่างไร หากไม่เจรจา? | 11 ธ.ค. 68
  8. “แนวหน้ายืนหยัดมั่นคง-แนวหลังพร้อมส่งกำลังใจ”-กรมอุทยานแห่งช “แนวหน้ายืนหยัดมั่นคง แนวหลังพร้อมส่งกำลังใจ” กรมอุทยานแห่งช
  9. รวบหนุ่มใหญ่คนเฝ้าสวนยางก่อเหตุยิvเจ้าของสวนยางกระบี่-ฉุนโดน รวบหนุ่มใหญ่คนเฝ้าสวนยางก่อเหตุยิvเจ้าของสวนยางกระบี่ ฉุนโดน
  10. “มาร์โก-รูบิโอ”-รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ-ออกแถลงการณ์แสดงควา “มาร์โก รูบิโอ” รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์แสดงควา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *


Share via
Click to Hide Advanced Floating Content
Send this to a friend