แชร์ลิ้งค์นี้ : https://ด่วน.com/1dcr | ดู : 10 ครั้ง
‘กัมพูชา’ยิvจรวด-bm-21-ใส่ปราสาท’ตาเมือนธม’-บ้านตาใส-‘กองทัพ’เตือนอาจมีการใช้’phl-03’

‘โฆษก ศบ.ทก.’ เผย ‘กัมพูชา’ ยิvจรวดตกบริเวณ ‘บ้านตาโส’ จ.สุรินทร์ ขณะที่ ‘กองทัพภาค 2' ระบุมีการยิvจรวด ‘BM-21′ ใส่ปราสาท ‘ตาเมือนธม' พร้อมเตือนมีข่าวสารความเคลื่อนไหว ‘กัมพูชา' อาจใช้เครื่องยิvขีปนาวุธ PHL-03 ด้าน ‘รมว.คลัง' เรียกร้อง ‘กัมพูชา' ยุติใช้ความรุนแรง

………………………………

เมื่อวันที่ 27 ก.ค. พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ด้านความมั่นคง แถลงเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า จากประเด็นที่ปรากฏเป็นข่าวว่า มีบางประเทศเรียกร้องให้ทั้งไทยและกัมพูชาหยุดยิv ฝ่ายไทยขอเรียนชี้แจงว่า เห็นด้วยในหลักการดังกล่าว แต่จะกระทำได้ก็ต่อเมื่อฝ่ายกัมพูชาแสดงความจริงใจและเข้าร่วมหารือในขั้นตอนและรายละเอียดต่างๆ รวมถึงหยุดยิvเป็นที่ประจักษ์

อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ที่ผ่านมาเห็นได้ว่า ฝ่ายกัมพูชายังคงมีการส่งกำลังทหารเข้าปะทะในบริเวณใกล้เคียงพื้นที่เขาพระวิหาร เมื่อเวลา 02.10 น. ประกอบกับมีการยิvจรวด BM-21 เมื่อเวลา 06.10 น. เป็นกระสุนชนิดจรวด โดยยิvเข้ามายังฝั่งไทย กระสุนตกบริเวณบ้านตาโส ม.10 ต.บ้านพลวง อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ซึ่งมีเป้าหมายเป็นพลเรือน ทำให้บ้านของพลเรือนเสียหาย

(เมื่อเวลา 06.10 น. เจ้าหน้าที่รายงานว่า พบกระสุนชนิดจรวดตกที่บ้านตาโส หมู่ 10 ต.บ้านพลวง อ.ปราสาท จ. สุรินทร์ ที่มา : ทำเนียบรัฐบาล)

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 26 ก.ค.2568 ในเวลา 15.30 น. กระสุนปืนใหญ่ของกัมพูชาได้พุ่งเป้าใส่โรงพยาบาลในพื้นที่ ได้แก่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) บ้านซำเม็ง จังหวัดศรีสะเกษ ขณะที่เมื่อวันที่ 24 ก.ค.2568 กระสุนปืนใหญ่ของกัมพูชาตกใส่โรงพยาบาล 2 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลพนมดงรัก จ.สุรินทร์ และโรงพยาบาลบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ รวมทั้งมีการใช้ประชาชนผู้บริสุทธิ์เป็นโล่กำบังตั้งอาวุธยิv ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการละเมิดต่ออนุสัญญาเจนีวาอย่างชัดเจน

“เราขอประณามในเรื่องความไม่จริงใจในการพูดคุยของฝ่ายกัมพูชา โดยที่ผ่านมาฝ่ายกัมพูชาได้ปฏิเสธและเลื่อนการพูดคุยเจรจาหารือในเวทีทวิภาคีอยู่หลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นเวที JBC เวที GBC หรือเวที RBC ซึ่งฝ่ายไทยมองว่าการประชุมเหล่านี้ จะสามารถนำประเด็นที่เป็นปัญหาต่างๆ ที่มีข้อขัดแย้งระหว่างกันมาพูดคุยหารือกันได้” พล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าว

พล.ร.ต.สุรสันต์ ระบุว่า ที่ผ่านมาจะสังเกตได้ว่า ฝ่ายกัมพูชามีการเสริมกำลังทางทหาร มีการเตรียมที่มั่นดัดแปลงตามบริเวณแนวชายแดนอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งมีการวางทุ่นsะเบิดสังหารบุคคล ซึ่งเป็นการละเมิดอนุสัญญาออตตาวา รวมทั้งแสดงท่าทียั่วยุ ส่งเสริมการปลุกระดมมวลชนชาวกัมพูชาทั้งในและต่างประเทศให้เข้าสู่พื้นที่ตึงเครียดบริเวณแนวชายแดน โดยใช้กระแสชาตินิยมปลุกปั่นหวังยกระดับให้เกิดความขัดแย้งระหว่างประชาชนทั้ง 2 ประเทศ

ตลอดจนการแสดงออกท่าทีของความพร้อมในการใช้กำลังทางทหาร ผ่านการโพสต์ข้อความผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ ด้วยการบิดเบือนข้อเท็จจริงและกล่าวหาประเทศไทยอย่างไร้หลักฐาน ซึ่งเป็นชนวนของความไม่พอใจและนำไปสู่การใช้ความรุนแรงต่อกันในเวลาต่อมา

พล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าวว่า สำหรับสรุปสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาในช่วงที่ผ่านมา ฝ่ายกัมพูชายังคงมีการดำเนินการใช้อาวุธหนัก ไม่ว่าจะเป็นปืนใหญ่ ปืนใหญ่กระสุนวิถีโค้ง จรวดหลายลำกล้อง BM-21 และปรากฎเป็นข่าวสารความเคลื่อนไหวว่า อาจมีการใช้อาวุธที่มีประสิทธิภาพ เช่น เครื่องยิvขีปนาวุธ PHL-03 ,RM 70 และจรวดหลายลำกล้อง BM-21 เพิ่มเติมด้วย

ทั้งนี้ จากข้อมูลผู้ได้รับผลกระทบจากการสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ณ เวลา 9.00 น. ของวันที่ 27 ก.ค.2568 มีพลเรือนเสียชีวิตทั้งหมด 13 ราย คงเดิม บาดเจ็บสาหัสเพิ่ม 1 ราย รวมเป็น 11 ราย บาดเจ็บปานกลาง 12 ราย บาดเจ็บเล็กน้อย 13 ราย รวมยอดทั้งหมด 49 ราย

“ขอเน้นย้ำปัญหาความขัดแย้งในปัจจุบัน เป็นปัญหาที่เกิดจากนโยบายของรัฐบาลกัมพูชาล้วนๆ ไม่ใช่เกิดจากพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ของทั้ง 2 ประเทศ จึงขอวิงวอนให้พี่น้องประชาชนชาวไทยหลีกเลี่ยงการแสดงความรุนแรงด้วยการใช้ถ้อยคำหรือกำลัง การดูหมิ่นเหยียดหยามพี่น้องชาวกัมพูชาที่เข้ามาพำนักหรือทำงานในไทยอย่างสุจริต

เช่น ผู้ใช้แรงงานก็ดี นักเรียนนักศึกษาชาวกัมพูชาก็ดี หรือแม้แต่ผู้ประกอบการในทุกสาขาวิชาชีพ เว้นในกรณีที่กัมพูชาแสดงความก้าวร้าวก็ขอให้ใช้สติและเหตุผลพูดจาตักเตือน โดยหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรง ถ้าเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆก็ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่บ้านเมืองในการดำเนินการทางกฎหมายต่อไป” พล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าว

ด้าน นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะรองโฆษก ศบ.ทก. ด้านต่างประเทศ กล่าวว่า ในการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) แบบปิด เมื่อวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่ประชุมฯได้หารือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งฝ่ายไทยได้ย้ำจุดยืนต่อประชาคมโลกด้วยหลักฐานที่หนักแน่น และข้อเท็จจริงที่ชัดเจนว่ากัมพูชาเป็นฝ่ายริเริ่มและเปิดฉากยิvก่อน

โดยมีการโจมตีเป้าหมายที่เป็นพลเรือนไทย ซึ่งมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก และต้องอพยพแตะหลักแสนคน อันเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและหลักการมนุษยธรรมอย่างร้ายแรง

ทั้งนี้ ที่ประชุม UNSC กล่าวเป็นหลักการกว้างๆและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน คือ 1.เรียกร้องให้ทั้ง 2 ฝ่ายลดความตึงเครียด และแก้ปัญหาโดยสันติวิธี รวมถึงการใช้การทูตและการเจรจาแบบทวิภาคี 2.หลายๆประเทศใน UNSC สนับสนุนบทบาทของอาเซียนในการแก้ไขความขัดแย้งตามหลักการของกฎบัตรอาเซียน และ 3.ย้ำว่าสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ

“ที่สำคัญ ที่ประชุม UNSC ไม่ได้มีมติหรือการออกเอกสารผลลัพธ์ใดๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี เพราะแสดงว่า รัฐสมาชิกต่างๆมีความเข้าใจในจุดยืนและการดำเนินการของฝ่ายไทย” นางมาระตี กล่าว

นางมาระตี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 26 ก.ค.2568 กระทรวงการต่างประเทศ ออกแถลงการณ์ประณามอย่างรุนแรงต่อการโจมตีพลเรือนโดยฝ่ายกัมพูชา ซึ่งเป็นการกระทำอันไร้มนุษยธรรมและขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ คือ อนุสัญญาเจนีวา 1949 ข้อ 19 ฉบับที่ 1 เกี่ยวกับการคุ้มครองหน่วยแพทย์และสถานพยาบาล และข้อ 18 ฉบับที่ 4 เกี่ยวกับภารกิจการคุ้มครองโรงพยาบาลฝ่ายพลเรือน โดยได้มีหนังสือไปถึงประธานคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) แล้ว

รายงานข่าวแจ้งว่า วันนี้ (27 ก.ค.) กระทรวงการต่างประเทศ ออกแถลงการณ์ กรณีกองกำลังกัมพูชาใช้อาวุธร้ายแรงยิvเข้าใส่บ้านเรือนของประชาชนในดินแดนไทยที่จังหวัดสุรินทร์ เช้าวันที่ 27 ก.ค.2568 โดยมีเนื้อหาว่า ตามที่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (27 ก.ค.2568) ประมาณ 4.30 น. กองกำลังกัมพูชาได้ใช้อาวุธร้ายแรงยิvเข้าใส่บ้านเรือนของประชาชนในดินแดนไทยที่จังหวัดสุรินทร์ ทั้งยังมีการเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนและข้อมูลเท็จ โดยกล่าวหาว่าฝ่ายไทยเป็นฝ่ายเปิดฉากยิvก่อน นั้น

กระทรวงการต่างประเทศขอชี้แจงดังนี้:

1.ประเทศไทยขอประณามการกระทำอันร้ายแรงและเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างรุนแรงที่สุด และขอเรียกร้องให้กัมพูชาหยุดการโจมตีเป้าหมายพลเรือนในทันที การยุติการสู้รบไม่อาจเกิดขึ้นได้ ตราบใดที่กัมพูชายังคงขาดความสุจริตใจอย่างร้ายแรงและละเมิดหลักสิทธิมนุษยชนและหลักการพื้นฐานของกฎหมายมนุษยธรรมอย่างต่อเนื่อง ประเทศไทยขอสงวนสิทธิในการป้องกันตนเองตามที่บัญญัติไว้ในข้อ 51 ของกฎบัตรสหประชาชาติ และได้ดำเนินการตอบโต้ในลักษณะที่จำกัดเฉพาะเป้าหมายทางทหารเพื่อขจัดภัยคุกคามต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย

2.ประเทศไทยขอเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศประณามการกระทำที่ไร้มนุษยธรรมและเลวร้ายเหล่านี้ของกัมพูชา ซึ่งไม่อาจยอมรับได้ในระเบียบโลกที่ยึดถือกติกาและหลักนิติธรรม

ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก ‘กองทัพภาค 2’ โพสต์ข้อความว่า พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ระบุว่า กัมพชายังมีการเคลื่อนไหวด้วยการใช้อาวุธยิvสนับสนุนระยะไกล ยิvเข้ามาในฝั่งไทย บริเวณหน้าแนวมีการปะทะในหลายๆ จุดอย่างต่อเนื่อง พบมีอาวุธยิvสนับสนุนระยะไกลไปตกนอกเขตพื้นที่เป้าหมายทางทหารจำนวนมากในจังหวัดสุรินทร์ ฝ่ายไทยเรามีความจำเป็นที่จะต้องใช้ปฏิบัติการทางทหารดำเนินการตอบโต้ต่ออาวุธยิvสนับสนุนระยะไกลอย่างเช่น จรวด และปืนใหญ่ ที่ยังคงยิvเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้พี่น้อง ได้รับผลกระทบหรือมีการสูญเสีย

และเมื่อวานนี้ (26 ก.ค.68) เวลาประมาณ 15.30 กระสุนปืนใหญ่ของกัมพูชายังคงพุ่งเป้าใส่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล บ้านซำเม็ง ม.3 ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ได้รับความเสียหายอย่างหนักที่ตัวอาคาร แต่ไม่มีผู้เสียชีวิต หรือบาดเจ็บ เพราะก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้มีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกไปก่อนแล้ว

อีกทั้งยังปรากฏข่าวสารความเคลื่อนไหวว่า อาจมีอาวุธที่มีประสิทธิภาพอย่างเช่น PHL-03, RM 70 , BM-21 ที่อาจมีแนวโน้มที่จะเข้ามาสนับสนุนเพิ่มเติมให้กับฝ่ายกัมพูชา นั่นอาจแสดงถึงท่าทีของกัมพูชาที่ฝ่ายไทยยังไม่สามารถไว้วางใจได้ โดยสถานการณ์ล่าสุดฝ่ายกัมพูชายังไม่หยุดโจมตีด้วยอาวุธทุกรูปแบบต่อฝ่ายไทย

“กองทัพบกจะดำเนินการเต็ม ขีดความสามารถ เพื่อตอบโต้การรุกราน และยืนยันยังคงมุ่งเน้นต่อเป้าหมายทางทหาร ที่ส่งผลต่อภัยคุกคามทางทหาร และ ชีวิตทรัพย์สินพี่น้องประชาชนเท่านั้น ภายใต้กรอบกติกาสากลอย่างเหมาะสม เพื่อปกป้องรักษาอธิปไตย ให้ได้อย่างดีที่สุด” โฆษกกองทัพบกกระบุ

นอกจากนี้ ในวันนี้ (27 ก.ค.) กองทัพกัมพูชาได้เปิดฉากยิvจรวด BM-21 เข้าใส่ปราสาทตาเมือนธม ซึ่งเป็นการล่วงละเมิดอธิปไตยไทยอย่างอุกอาจและไร้ข้ออ้าง

สำหรับเครื่องยิvขีปนาวุธ PHL-03 สามารถยิvจรวดได้หลายลูกพร้อมกัน มีระยะทำการไกลถึง 130 กิโลเมตร หรือมีรัศมีครอบคลุมพื้นที่ จ.อุบลราชธานี จ.สุรินทร์ จ.ศรีสะเกศ จ.บุรีรัมย์ ทั้งพื้นที่และบางส่วนของ จ.ยโสธร (อ.มหาชนะชัย อ.ค้อวัง) จ.ร้อยเอ็ด (อ.เมืองสรวง อ.สุวรรณภูมิ อ.โพนทราย อ.พนมไพร อ.หนองฮี อ.เกษตรวิสัย อ.ปทุมรัตน์) จ.มหาสารคาม (อ.พยัคฆภูมิพิสัย) จ.นครราชสีมา (หลายอำเภอตอนล่าง)

วันเดียวกัน นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว ‘พิชัย ชุณหวชิร – Pichai Chunhavajira' โดยมีเนื้อหาว่า “ประเทศกัมพูชาควรยุติการใช้ความรุนแรง และเห็นแก่ประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศร่วมกัน ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของไทย ผมขอเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชา ยุติการใช้ความรุนแรงโดยทันที เพื่อเปิดทางให้กับการเจรจาทางการทูต ซึ่งจะนำไปสู่ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าอย่างยั่งยืน

แต่เหนือสิ่งอื่นใด คือ ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพื้นที่ที่ถูกโจมตี รวมถึงโรงพยาบาล โรงเรียน ปั๊มน้ำมัน และร้านสะดวกซื้อในหลายพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นเขตพลเรือนที่ไม่ควรถูกแตะต้องในทุกกรณี ถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ กฎบัตรสหประชาชาติ (UN Charter) และกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง

ผมขอเน้นว่า พฤติกรรมเช่นนี้กำลังกลายเป็นหนึ่งในเหตุสำคัญ ที่จะทำให้ประเทศกัมพูชาเป็นต้นเหตุของการทำลายประเทศของตัวเอง ทั้งในแง่ของความเชื่อมั่นจากนานาประเทศ และโอกาสทางเศรษฐกิจในเวทีโลก และที่น่ากังวลยิ่งคือ ความน่าเชื่อถือของผู้นำกัมพูชา ที่ไม่มีสัจจะ และยังคงโจมตีไทยอย่างต่อเนื่องจนถึงเช้าวันนี้ ความสงบคือเงื่อนไขแรกของการเติบโต และความเคารพต่อชีวิตมนุษย์ คือรากฐานของสันติภาพระยะยาว”

ที่มา สำนักข่าวอิศรา ( isranews.org )

เรื่องที่เกี่ยวข้อง:

ดูแลสัตว์เลี้ยงช่วงน้ำท่วม ตอนที่.2 : FM91 คลินิกสัตว์เลี้ยง : 2 2025-07-27 06:29:00

Ceo แถวหน้า นักคิดรุ่นใหม่ และคนดัง เตรียมขึ้นเวที “Gcnt Expo 2025” 29–31 ก.ค.นี้

แจกลิสต์ Hand Cream ที่ต้องมีติดกระเป๋า🤲

“ลำนำแห่งการเสียสละของผู้กล้า จะคงอยู่เหนือกาลเวลาเสมอ” เขาไ 2025-07-26 16:15:00

13.44 น. รถติด ถนนพญาไท จากอนุสาวรีย์ชัย มุ่งหน้าแยกราชเทวี 2025-07-27 06:44:00

"ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง" ตั้งโรงครัว ส่งอาหารให้ผู้อพยพ - ทหารแนวหน้า | สถานการณ์ 27 ก.ค.68 | ข่าวช่อง8

สำรวจทางเลือกในการยุติข้อพิพาทไทย-กัมพูชา หากข้อเสนอให้หยุดยิvของทรัมป์ไม่ได้ผล

เครือซีพีเคียงข้างชาวน่าน เร่งช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ส่งอาหาร-น้ำดื่ม-ถุงยังชีพ

รวบ 2 บัญชีม้า รวม 6 หมายจับ โยงคดีตุ๋นออนไลน์ มูลค่าความเสี

ผู้เรียบเรียง

ให้คะแนนความพอใจของคุณ :

0 / 5 คะแนน 0

คุณให้คะแนน:

แชร์ลิ้งค์นี้ : https://ด่วน.com/1dcr | ดู : 10 ครั้ง
  1. รวบ-ตี๋-บางกรวย-ร่วมกับพวกเหิมเกริมใช้มีดฟันมือ-ปล้นทรัพย์ รวบ ตี๋ บางกรวย ร่วมกับพวกเหิมเกริมใช้มีดฟันมือ-ปล้นทรัพย์
  2. “แพทองธาร”-เชื่อว่าปมความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา-มีเหตุมาจ “แพทองธาร” เชื่อว่าปมความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา มีเหตุมาจ
  3. -เวลา-0920-น-(26-กค.68)-–-ธงชาติไทย-ปักบนยอดภูมะเขือเรี-|-2025-07-26-04:15:00 🇹🇭 เวลา 09.20 น. (26 ก.ค.68) – ธงชาติไทย ปักบนยอดภูมะเขือเรี 2025-07-26 04:15:00
  4. ขอเชิญรับชมรายการ-“เสียงจากใจ…ไทยคู่ฟ้า”-ประจำวันเสาร์ที่ ขอเชิญรับชมรายการ “เสียงจากใจ…ไทยคู่ฟ้า” ประจำวันเสาร์ที่
  5. แผ่นดินไหวขนาด-33-ประเทศเมียนมา-2025-07-27-01:11:27-ตามเวลาประเทศไทย-|-วันอาทิตย์ที่-27-กรกฎาคม-พศ.-2568 แผ่นดินไหวขนาด 3.3 ประเทศเมียนมา 2025-07-27 01:11:27 ตามเวลาประเทศไทย | วันอาทิตย์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
  6. -pr-content--ตัวอย่าง-หนูทดลอง-little-explorers-ep.22-ช ตัวอย่าง หนูทดลอง Little Explorers Ep.22 ช
  7. กองทัพอากาศส่ง-f-16-ทำลายเป้าหมายทางทหารกัมพูชารอบ-เขาพระวิหาร-ตาเม กองทัพอากาศส่ง F-16 ทำลายเป้าหมายทางทหารกัมพูชารอบ เขาพระวิหาร-ตาเม
  8. เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า-กรมอุทยานแห่งชาติ-สัตว์ป่า-และพันธุ์พื เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พื
  9. กองทัพภาคที่-2-แจ้งเตือนระวังอันตรายจาก-“ขีปนาวุธ-phl-03”-ขอให้ประชาชนไม่ตื่นตระหนก-และติดตามกา กองทัพภาคที่ 2 แจ้งเตือนระวังอันตรายจาก “ขีปนาวุธ PHL-03” ขอให้ประชาชนไม่ตื่นตระหนก และติดตามกา
  10. กัมพูชายิvก่อน-ด่วน-เวลา-1222น.-เครื่องบินขับไล่-f-16-จำน-|-2025-07-24-05:34:00 กัมพูชายิvก่อน ด่วน เวลา 12.22น. เครื่องบินขับไล่ F-16 จำน 2025-07-24 05:34:00
  • No recent comments available.

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *


Share via
Click to Hide Advanced Floating Content
Send this to a friend