
ในโรงนาที่ถูกดัดแปลงเป็นเวิร์กช็อปในตรอกเงียบสงบบนคาบสมุทรทังโกะ ห่างจากเกียวโตราว 120 กิโลเมตร โคซูเกะ ยามาโซเอะ, โทโมยูกิ มิยากิ และโทโมกิ คูโรโมโตะ คือช่างฝีมือแห่ง นิปปงเก็นโชชะ ที่กำลังร่วมกันรักษาศิลปะที่ใกล้สูญหาย การตีดาบคาตานะแบบดั้งเดิม
.
ทั้งสามพบกันระหว่างการฝึกงานสิบปีกับตระกูลโยชิฮาระ หนึ่งในช่างตีดาบที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศ ก่อนจะก่อตั้งนิปปงเก็นโชชะขึ้นในปี 2019 บนพื้นที่ของปู่ย่าของยามาโซเอะ พวกเขาตีดาบด้วยมือทั้งหมดจาก “ทามาฮากาเนะ” เหล็กกล้าชนิดพิเศษที่ได้จากทรายเหล็กในจังหวัดชิมาเนะ แต่ละเล่มมีราคาสูงถึง 15,000 ดอลลาร์สหรัฐ และอาจใช้เวลาผลิตนานถึงหนึ่งปี
.
ในอดีต ดาบคาตานะเคยเป็นหัวใจของวัฒนธรรมซามูไร แต่กฎหมายห้ามพกอาวุธในปี 1876 และข้อจำกัดหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ทำให้ศิลปะนี้เสื่อมถอย ทุกวันนี้มีช่างตีดาบที่ได้รับใบอนุญาตเพียงราว 200 คน และไม่ใช่ทุกคนที่ยังทำงาน
.
แม้ความต้องการดาบจะลดลง แต่ชายทั้งสามยังคงพัฒนา ทั้งการออกแบบลวดลาย ฮามง ให้เข้ากับความต้องการของนักสะสมรุ่นใหม่ รวมถึงการจัดแสดงดาบในเคสเรซินใส เพื่อให้ชื่นชมความงามได้ชัดเจนขึ้น “ศิลปะจะมีความหมายอะไร ถ้าเราไม่สามารถมองเห็นมันได้ล่ะครับ” คูโรโมโตะกล่าว
.
อ่านเรื่องราวทั้งหมดได้ที่ https://ngthai.com/cultures/79349/japan-final-swordmaker/
.
#NationalGeographicThailand #ซามูไร
RSS)
ที่มา : National Geographic Thailand's