
‘อนุทิน ชาญวีรกูล' นายกรัฐมนตรี แสดงพลังวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล ประกาศรัฐบาลจะยืนหยัดสู้ทุจริตอย่างเด็ดขาด ด้าน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เปิดแผน 3 แนวทางลด ‘สินบน-การขัดกันแห่งผลประโยชน์'-ปลูกฝังความซื่อสัตย์-ลดดุลยพินิจเปิดข้อมูลภาครัฐ-ปราบปรามคดีทุจริตอย่างมีมาตรฐาน
สำนักข่าวอิศรา . รายงานว่า เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2568 ที่ฮอลล์ 4 อิมแพ็คเมืองทองธานี รัฐบาลร่วมกับสำนักงาน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) องค์กรต่อต้านคอรัปชัน (ประเทศไทย) และภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ผนึกกำลังจัดงานวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล (ประเทศไทย) ประจำปี 2568 ภายใต้แนวคิด “HERO OF THE TRUTH : ร่วมหยุดคอร์รัปชัน” โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธี เพื่อประกาศจุดยืนในการต่อต้านคอร์รัปชันทุกรูปแบบ
ภายในงานมีผู้เข้าร่วมจากภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม สถาบันการศึกษา เยาวชน และประชาชนทั่วไป กว่า 3,500 คน ร่วมแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ในการต่อต้านการทุจริต
นายอนุทิน กล่าวว่า ในฐานะนายกรัฐมนตรี ขอประกาศเจตจำนงอย่างชัดเจนว่า รัฐบาลจะยืนหยัดต่อสู้การทุจริต ด้วยความเด็ดขาด ไม่ลังเล ไม่ประนีประนอม ไม่ผ่อนปรน ไม่มีข้อยกเว้น ให้กับผู้ที่บ่อนทำลายผลประโยชน์ของประเทศชาติ และพร้อมทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนเพื่อสร้างสังคมโปร่งใสและเป็นธรรม ประเทศไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายในเรื่องความโปร่งใสที่ส่งผลกระทบต่อศรัทธาของประชาชนและความเชื่อมั่นของนักลงทุน โดยคะแนนดัชนีรับรู้การทุจริต (CPI) ที่องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติประกาศข้อมูลล่าสุดปี 2567 พบว่าประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 107 ของโลก และอันดับ 5 ในอาเซียน ด้วยคะแนนเพียง 34 คะแนน สะท้อนให้เห็นว่าประเทศไทยยังมีช่องโหว่ที่ต้องเร่งแก้ไขอย่างจริงจัง รัฐบาลนี้จะไม่เพียงแก้ไข แต่จะมุ่งมั่นยกระดับมาตรฐานความโปร่งใสของประเทศให้สูงขึ้นให้เป็นรูปธรรม เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าประเทศไทยสามารถสร้างระบบรัฐที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ และยืนอยู่บนหลักธรรมาภิบาลอย่างแท้จริง เพื่อให้ประเทศไทยพัฒนาในทุกด้าน และมีความเข้มแข็ง มีเสถียรภาพตามหลักนิติธรรม ด้วยระบบธรรมาภิบาลที่ดีเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้คนไทยและชาวต่างชาติ
“เพื่อให้เป้าหมายสำเร็จ ผมขอมอบนโยบายสำคัญที่ผมแจ้งแก่รัฐมนตรีและส่วนราชการ คือ ต้องเสริมสร้างระบบป้องกันทุจริตให้รัดกุมทุกหน่วยงาน ต้องกำหนดมาตรการป้องกันการทุจริตในเชิงรุก โครงการที่ใช้งบประมาณจำนวนมากต้องผ่านการประเมินความเสี่ยง ต้องสร้างระบบตรวจสอบภายในที่เข้มข้น ไม่ใช่ทำตามรูปแบบ แต่ต้องเห็นผลจริง นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน การบริการภาครัฐต้องมีการลดขั้นตอนการบริการประชาชนที่ไม่จำเป็น เพิ่ม E-carrier และระบบ One-stop carrier ใช้แพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อสนับสนุนการดำเนินการที่เกี่ยวกับการป้องกันการทุจริต สร้างความโปร่งใส ลดการใชเอำนาจดุลยพินิจ ลดปัจจัยเปิดช่องให้แทรกแซง เปิดเผยข้อมูลภาครัฐให้ประชาชนเข้าถึงได้ง่าย ตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด โปร่งใส เสมอภาค ผู้ใดทุจริตต้องรับผิด ผู้เอื้อประโยชน์ต้องถูกตรวจสอบและต้องรับผิดหากพบว่าเกี่ยวข้องให้เกิดการทุจริต ไม่มีการละเว้นใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใด ตำแหน่งใด ส่วนใครที่มีความซื่อสัตย์สุจริตรัฐบาลจะต้องปกป้องคุ้มครองและสนับสนุนให้มีความก้าวหน้าในหน้าที่การงานอย่างเต็มที่ จะต้องมีการเสริมสร้างวัฒนธรรมซื่อสัตย์สุจริตในสังคมไทย ปลูกฝังจิตสำนึกด้านจริยธรรมและความโปร่งใสตั้งแต่ในสถานศึกษาและหน่วยงานรัฐ ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน ภาคประชาสังคม และสื่อมวลชน เฝ้าระวังและแจ้งเบาะแสการทุจริต รวมทั้งคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแสอย่างจริงจัง เพื่อให้คนทำถูกมีความปลอดภัย มีที่ยืนที่มั่นคง” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวว่า การป้องกันและปราบปรามการทุจริตต้องอาศัยจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน เราต้องมีการบูรณาการการทำงานร่วมกันอย่างเข้มแข็ง เพื่อป้องกัน ปราบปราม และลดความเสี่ยงการทุจริต ตนเองขอให้ทุกหน่วยงานตั้งเป้ายกระดับ CPI ด้วยการจัดทำแผนปฏิบัติการที่เพิ่มคะแนน CPI รัฐบาลจะติดตามประเมินผลอย่างเป็นประจำและต่อเนื่อง
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี และภาคีเครือข่าย ได้ร่วมแสดงเจตนารมณ์อย่างแน่วแน่ในการต่อต้าน การทุจริตไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบใด โดยประกาศเจตนารมณ์ร่วมกัน 3 ประการ ได้แก่ 1. การแสดงความตั้งใจของผู้นำทุกระดับในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2. เสริมพลังให้คนไทยทุกกลุ่มตื่นรู้และปฏิเสธการทุจริตในทุกรูปแบบ และ 3. แสดงความมุ่งมั่นของประเทศไทยต่อสาธารณะโลก เพื่อยกระดับค่าคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริตให้สูงกว่า 50 ตามเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
สำหรับการจัดงานวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล (ประเทศไทย) ในปี 2568 มีกิจกรรมพิเศษ เช่น “นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง” เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ การขับเสภาบทประพันธ์ “น้อมสำนึก ถวายอาลัยพระพันปีหลวง” การแสดงโขนต่อต้านทุจริต ชุด “น้อมสำนึกถวายอาลัยพระพันปี สมเด็จพระจักรีปราบอธรรมทุจริต” และการแสดงดนตรี Symphony ชุด “ธรรมนอง ครองธรรม”
ในขณะที่ตลอดปี 2568 สำนักงาน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พบว่าจำนวนเรื่องร้องเรียนการทุจริตเพิ่มขึ้นร้อยละ 12 ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจโดยมิชอบ และการจัดซื้อจัดจ้าง แต่ขณะเดียวกันก็ชี้ให้เห็นถึงพลังของประชาชนที่ตื่นตัวมากขึ้น กล้าที่จะแจ้งเบาะแส และไม่ยอมรับความไม่โปร่งใสในสังคมไทย
สำนักงาน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เดินหน้าอย่างเข้มแข็งต่อการขับเคลื่อนแผนบูรณาการต้านทุจริต โดยปีงบประมาณ 2570 มุ่งยกระดับความโปร่งใสของประเทศตั้งเป้าค่า CPI ได้ 57 คะแนน เน้นแก้ปัญหา “สินบน” และ “การขัดกันแห่งผลประโยชน์” ผ่าน 3 แนวทางหลัก ได้แก่ การปลูกฝังความซื่อสัตย์ ให้ประชาชน เด็ก เยาวชน และเจ้าหน้าที่รัฐผ่านหลักสูตรและกิจกรรมรณรงค์การป้องกันทุจริตเชิงระบบด้วยเทคโนโลยี ลดดุลยพินิจเปิดข้อมูลภาครัฐ และการปราบปรามคดีทุจริตอย่างมีมาตรฐาน รวดเร็ว โปร่งใส เพื่อให้ผลลัพธ์ชัดเจน และประชาชนสัมผัสได้
นอกจากนี้ สำนักงาน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ มีมาตรการด้านกฎหมายในการคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแสการทุจริต ทั้งพระราชบัญญัติคุ้มครองพยานในคดีอาญา และกฎหมายป้องกันการฟ้องปิดปากในคดีทุจริต (Anti-SLAPP Law) รวมทั้งมีเทคโนโลยีสนับสนุนการตรวจสอบ และป้องกันการทุจริต เช่น ระบบ Honest Files Center (MDC) เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลหน่วยงานภาครัฐอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้แบบทันที มีการจัดตั้งศูนย์ป้องปรามการทุจริตแห่งชาติ (Corruption Deterrence Center ) หรือ “ศูนย์ CDC” เพื่อระงับยับยั้งมิให้เกิดการทุจริตได้อย่างรวดเร็ว สามารถติดตาม ตรวจสอบ และเฝ้าระวังการทุจริตโครงการขนาดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเปิดช่องทางร้องเรียนที่เข้าถึงง่ายและปลอดภัย ได้แก่ ศูนย์บริการข้อมูลข่าวสาร สำนักงาน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ 1205 เว็บไซต์ www.nacc.stride.th และสำนักงาน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ประจำจังหวัดทั่วประเทศ












